7 วิธี ที่ช่วยให้นอนหลับง่ายบนเครื่องบิน

กรุงเทพฯ – ฮ่องกง 3 ชั่วโมง เศษๆ
กรุงเทพฯ – โตเกียว 5 ชั่วโมงกว่า 6 ชั่วโมง ถ้าบินตรง
กรุงเทพฯ – ปารีส 12 ชั่วโมงเศษๆ
กรุงเทพฯ – ลอสแองเจลิส 16 ชั่วโมงกว่าๆ…

ถ้าเป็นไฟลท์ไม่ไกลนัก อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง แน่นอน ช่วงเวลาระหว่างที่ต้องนั่งขดไปมาในที่แคบๆของชั้นโดยสารราคาประหยัดก็คงไม่ได้ทรมานมากนัก สายการบินส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ ก็มีหน้าจอทีวีที่หลังเบาะให้คุณเลือกผ่อนคลาย ดูหนังหรือฟังเพลงที่คุณชอบไปทั้ง 3 ชั่วโมงระหว่างบิน

แต่ถ้ามันเป็นไฟลท์อย่างไปแอลเอ ต้องมีสักช่วงแน่นอน ที่คุณจะอยากพักผ่อน นอนหลับสักงีบยาวๆ ก่อนตื่นขึ้นมาทานอาหารมื้อต่อไป หรือยาวไปถึงที่หมายปลายทางเลยก็ได้ คุณคงไม่นั่งดูซีรี่ยส์ทั้ง 16 ชั่วโมงเป็นแน่ จริงไหม?

Jetradar ผู้เชี่ยวชาญให้การหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่สุดจากทั่วโลก ขอแนะนำ 7 วิธี ที่จะช่วยให้คุณสามารถนอนหลับได้สบายมากขึ้นบนเครื่อง ไม่ว่าจะไฟลท์ยาวหรือสั้น ตลอดการเดินทาง

1. เลือกที่สงบ

การจะได้นอนหรือไม่ได้นอนบนเครื่อง จริงๆแล้วมันเริ่มตั้งแต่ที่นั่งของคุณอยู่ใกล้ที่ๆ คนพลุกพล่านบนเครื่องมากแค่ไหน อันหมายถึง พื้นที่ปฏิบัติงานของพนักงาน เพื่อเตรียมอาหาร หยิบของจิปาถะ ที่ต้องมีเสียงปิดประตูล็อกเกอร์ เสียงจาน ภาชนะ หรือเสียงพนักงานคุย(ซุบซิบ) ฯลฯ หรือจะเป็นห้องน้ำท้ายเครื่อง ที่คนจะมายืนรอคิวกัน พลุกพล่านเหนือหัวของคุณตลอดเวลา นอกจากนี้ ที่นั่งหน้าๆสุด มักจะมีการสงวนไว้ให้ครอบครัวที่เดินทางกับเด็ก และแน่นอนที่สุด นั่นคือฝันร้ายของคุณ เพราะเด็กเล็กจะร้องจ้าแน่นอน ทั้งเวลาที่เครื่องบินขึ้น-ลง หรือตลอดเวลาบนเครื่อง เนื่องจากการไม่คุ้นกับความดันในหูที่เปลี่ยนไป

ดังนั้น ดีที่สุด เลือกที่นั่งไปทางหลังเครื่อง ถ้านั่งหน้าๆ ควรเป็นประมาณตั้งแต่หลังแถว 7-10 เป็นต้นไป หลีกเลี่ยงที่นั่งใกล้ห้องน้ำ และพยายามเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง คุณจะมีโอกาสได้งีบยาวโดยไม่โดนปลุกให้หลบทาง และมีที่วางศีรษะขณะเอนตัวหลับได้กว้างมากกว่า

2. ถ้ามีงบ กรุณาอัพเกรด

ใครว่าบินแป๊ปเดียว แล้วความสะดวกสบายจะไม่สำคัญมากนัก? ที่นั่งชั้นธุรกิจกับชั้นประหยัด ต่างกันอย่างลิบลับ และมีพื้นที่ให้คุณเหยียดเท้าได้สบายมากขึ้น หลับง่ายขึ้น ที่สำคัญ คนไม่พลุกพล่าน ไม่เบียดเข้าเบียดออก เวลาเข้าห้องน้ำ มีความเป็นส่วนตัวและส่วนใหญ่คนที่นั่งก็มีมารยาท ไม่เอะอะโวยวาย ดังนั้น ถ้าคุณมีงบมากกว่า ก็ไม่ต้องประหยัดมากหากต้องการนั่งเครื่องไปไกลๆอย่างสบาย

ที่สำคัญ เว็บเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินหลายเว็บ เช่น Jetradar สามารถหาตั๋วชั้นธุรกิจราคาถูก นอกเหนือจากตั๋วราคาประหยัดตามปกติ ให้คุณได้ด้วย ถ้าแพงกว่าไม่มากเท่าไร ก็อย่าเสียดาย อัพเกรดไปเถอะ มาเที่ยวทั้งที สุขภาพและความสะดวกสบายต้องมาก่อน

3. เอน 135 องศา ท่านอนแสนสบาย

องศาที่สบายที่สุดสำหรับการนอน ที่ทำให้คุณตื่นแล้วไม่ปวดหลัง คือ 135 องศา เอาง่ายๆ คือ เอนเบาะหลังของคุณไป “ครึ่งหนึ่ง” ก่อนถึงแนวราบ นั่นแหล่ะ 135 องศา จากการวิจัยทางการแพทย์ การนั่งหลังตรงนานๆ ในท่าเดียวตลอดเวลา ทำให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป เพราะน้ำหนักขณะที่นั่ง จะไม่ได้ลงที่ขาอย่างสมดุลเหมือนในขณะยืน แต่ลงที่กระดูกเชิงกราน ส่วนก้น ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบทางธรรมชาติให้รับน้ำหนักโดยตรงนานๆ

แล้วยิ่งถ้าคุณนอนไขว้ห้าง หรือเหยียดขาไม่สุดอย่างที่ควรจะเป็น รับรองว่า คุณจะตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สบาย เพราะว่าเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปทั่วร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากการบิดตัวเวลาไขว่ห้าง ดังนั้น การเอนเบาะและเหยียดขาตรง ไม่ไขว่ห้าง คือ ท่าที่ดีที่สุดที่ช่วยให้หลับสบายขึ้นแล้วตื่นมาสดชื่นมากขึ้น

4. กรุณารัดสายเข็มขัดไว้ตลอด

ที่ต้องรัดเข็มขัดตลอด เพราะนอกจากจะคอยป้องกันไม่ให้คุณกระเด็นเวลาที่เครื่องตกหลุมอากาศแล้ว ยังช่วยทำให้สาวๆแอร์โฮสเตสไม่ต้องมานั่งรบกวนปลุกคุณให้ตื่น เพื่อเพียงแค่คาดเข็มขัด เวลาที่มีสัญญาณจากกัปตันเมื่อเครื่องเดินทางผ่านพื้นที่ turbulance อีกด้วย ถ้าคุณห่มผ้าห่ม ควรคาดเข็มขัดไว้บนผ้าห่ม เพื่อให้พนักงานบนเครื่องเห็นชัดเจนด้วยนะ เขาจะไม่ได้กวนคุณอีกต่อไป

5. ดื่มให้น้อยไว้เสมอ

ขณะอยู่บนเครื่อง ไม่ควรทานอาหารมากเกินไป หรือดื่มเครื่องดื่มมากเกินไป เพราะว่า การที่คุณรับประทานอาหารมากเกินไป กระเพาะอาหารจะต้องทำงานอย่างหนัก และเลือดจะถูกสูบฉีดไปเลี้ยงที่กระเพาะอาหารมากกว่าปกติ ในสภาวะที่คุณนั่งอยู่กับที่และกระเพาะไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนตอนที่คุณขยับตัวไปมาในเวลาปกติ ทำให้เลือดไม่ได้ไปเลี้ยงส่วนอื่นๆ และสมองอย่างที่ควร จนทำให้การนอนของคุณไม่หลับสนิท นอกจากนี้ ยังทำให้คุณต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ และอีกประการหนึ่งคือ การดื่มน้ำมากๆ กลับทำให้คุณรู้สึกคอแห้งได้ง่ายกว่าเมื่อคุณตื่นขึ้นมาอีกรอบ เนื่องจากความเย็นของแอร์ในห้องโดยสารทำให้ช่องปากของคุณแห้งเร็วขึ้นหลังการดื่ม

นอกจากนี้ หากจะดื่ม ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล เพราะมีส่วนทำให้ประสาทตื่นตัวมากกว่าเดิมเสียอีก ควรสั่งเครื่องดื่มแบบร้อน เช่น ชาเขียวร้อน ซึ่งช่วยผ่อนคลายและทำให้หลับง่ายมากขึ้น มากกว่ากาแฟ

6. อย่าเผลอติดทีวี

ศัตรูตัวร้ายที่สุดของการนอนของคุณ คือ ทีวีข้างหน้าคุณนั่นแหล่ะ ทั้งซีรี่ยส์เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือจะหนังฮอลลีวูดล่าสุดที่คุณพลาดไม่ได้ไปดูที่โรงก่อนหน้านี้ ซึ่งหากเป็นเที่ยวบินไปสิงคโปร์ อย่างของการบินไทย (THAI Airways) หรือสิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ที่มีส่วน in-flight entertainment ที่ไม่ควรพลาด อันนี้ละะไว้ในฐานที่เข้าใจได้ว่าคุณไม่ต้องนอนก็ได้ แต่หากคุณบินไปโตเกียวไฟลท์ดึก แล้วรู้ดีว่าต้องเดินเที่ยวต่อทั้งวันในวันรุ่งขึ้น อันนี้ แนะนำให้คุณหลับพักผ่อนให้พอบนเครื่องจะดีกว่านะ ดูจนตาแฉะแล้วไม่ได้เที่ยวอย่างผ่อนคลายอันนี้ก็ไม่ดี ที่สำคัญ การดูทีวี จ้องอยู่กับที่นานๆ ทำให้สายตาทำงานหนักเกินควร และยังทำให้สมองจดจำภาพจากทีวีไปเก็บในส่วนใต้สมอง และทำให้การนอนหลังดูทีวี เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำนัก

หากบรรยากาศภายในห้องโดยสารไม่ได้เงียบมากนัก แนะนำให้ฟังเพลงช้าๆ ที่ไม่มีเนื้อหารุนแรง โดยเปิดเสียงเบาๆ เพื่อกลบเสียงภายนอก และทำให้สมองของคุณไม่ต้องทำงานหนักขณะหลับ

7. มีหมอนประจำตัว

หมอนต่างๆที่สายการบินแจก ไม่ค่อยช่วยให้ศีรษะของคุณได้พักผ่อนในท่าที่ถูกต้องมากนัก เพราะบางครั้งก็แฟบเกินไปจนหนุนไม่ได้ หรือบางครั้งก็สูงเกินไปจนปวดคอ เอาเป็นว่า เพื่อการนอนหลับในแบบที่คุณต้องการ ควรเลือกหมอนที่คุณชอบ ซื้อมาติดตัวเพื่อนำขึ้นเครื่องไว้สักอัน จะทำให้คุณมีโอกาสหลับง่ายกว่าการหวังพึ่งหมอนแจกฟรีคุณภาพต่ำจากสายการบิน

นอกจากนี้ การใส่เสื้อผ้าของคุณก็มีผลอีกด้วยเช่นกัน คุณควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวม ไม่รัดรูป เพราะเสื้อผ้าที่รัดขณะนอน จะทำให้เลือดไหลเวียนลำบากมากกว่า ประสาทจะสั่งการให้คุณคลายออกอยู่ตลอดเวลา และเสี่ยงต่อการเป็นโรค deep vein thrombosis (DVT) อันเกิดจากการที่เลือดไหลเวียนติดขัดบ่อยครั้งในอวัยวะบางส่วน อีกด้วย

ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะบินใกล้หรือไกล หากคุณต้องการงีบหลับสักหน่อย แนะนำ 7 วิธีนี้ จะช่วยให้คุณมีโอกาสหลับบนเครื่องขณะที่กำลังเดินทางได้ง่ายกว่าเดิม

แต่ถ้าตอนนี้คุณนอนไม่หลับเพราะคิดหนักเรื่องราคาตั๋วที่จะไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวคราวหน้า อันนี้ก็ไม่ต้องคิดมากเช่นกัน เลือกวิธีง่ายๆ โดยใช้เว็บค้นหาและจองตั๋วราคาถูก อย่าง Jetradar ง่ายที่สุด ไม่ต้องเทียบเอง มีหมดทั้งตั๋วโปรโมชั่นและราคาพิเศษ จากมากกว่า 1,000 สายการบิน สามารถดาวน์โหลดมาใช้บนมือถือได้ด้วย ทั้ง iOS และ Android

Post Views 4008