รีวิวนั่งรถไฟดูภูเขาไฟฟูจิ ที่ทะเลสาบ Kawaguchiko

ว่ากันว่าถ้าจะมาญี่ปุ่นให้ถึงที่ก็ต้องมาเห็น ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ภูเขาไฟฟูจิเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวนิยมไปชมภูเขาไฟฟูจิกันอยู่ 2 ที่ ได้แก่ 1. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ* (Kawaguchi-ko) 2. ฮาโกเนะ (Hakone)

*ทะเลสาบ “คาวากูจิโกะ” ทะเลสาบนี้คนไทยมักจะเรียกชื่อผิดเป็น “คาวาฟูจิโกะ” ต้องระวังการเรียกชื่อด้วยครับ จะได้ไม่สับสน

ทั้งสองสถานที่นี้สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน แต่มีข้อแตกต่างกันดังนี้ครับ

1. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchi-ko) เน้นชมวิวแนวธรรมชาติ นั่งรถ Retro bus ชมวิวตามจุดต่างๆ ดูใบไม้เปลี่ยนสี ชมซากุระตามฤดูกาล ทะเลสาบคาวากูจิโกะอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิมากกว่า ฮาโกเนะ (Hakone) จึงเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดกว่า มีกิจกรรมให้ทำเช่น ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชมวิว ล่องเรือในทะเลสาบคาวากูจิโกะ เล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุก Fuji-Q Highland

2. ฮาโกเนะ (Hakone) มีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ เช่นล่องเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชมวิว (Hakone Ropeway) ชิมไข่ดำ ข้อเสียของฮาโกเนะคืออยู่ไกลกับภูเขาไฟฟูจิมากกว่าทะเลสาบคาวากูจิโกะ มีภูเขาบัง จึงมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ไม่ชัดเท่าที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ และยังมีเรื่องการเดินทาง เส้นทางเที่ยวของ Hakone ใช้เวลานาน ถ้าไปต่อที่ Gotemba Premium Outlets จะกลับโตเกียว 21.30 น. โดยรวมแล้วฮาโกเนะน่าจะเหมาะกับเด็กๆ เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะกว่า

รีวิวนี้จะพาไปชมภูเขาไฟฟูจิที่ฝั่งทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchi-ko) โดยจะไปเที่ยวแบบเช้าไป – เย็นกลับจากโตเกียว

ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji)

ภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สูงถึง 3,776 เมตร ด้วยระดับความสูงขนาดนี้สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากบนเครื่องบินอย่างชัดเจน หรือ ถ้าจะเทียบความสูงกับดอยอินทนนน์บ้านเรา ยอดดอยอินทนนน์มีความสูง 2,565 เมตร ถือว่าเตี้ยกว่าภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ ระเบิดครั้งล่าสุดในปี ค.ศ. 1707 ที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิคลอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดได้แก่ ชิซุโอคะ (Shizuoka) และ ยามานาชิ (Yamanashi)

รูปทรงของภูเขาไฟฟูจิถือว่าเป็นภูเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในโลก คือมีความสมมาตรกันทุกด้าน ไม่ว่าจะมองมุมไหนจะไม่มีบิดเบี้ยว ตัวภูเขาทำมุม 45 องศากับพื้นราบ และมีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลนที่ยอดภูเขาไฟฟูจิเกือบตลอดทั้งปี คนญี่ปุ่นมีความเชื่อทางด้านศาสนา และ วัฒนธรรมเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันภูเขาไฟฟูจิจัดว่าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

การชมภูเขาไฟฟูจิจะนิยมไปชมที่ทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ เนื่องจากว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงาม ทะเลสาบทั้ง 5 ได้แก่ Kawaguchi-ko, Sai-ko, Shoji-ko, Motosu-ko และ Yamana-ko

ทำยังไงถึงจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดๆ

ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่ขี้อายมาก ไม่ยอมให้คนเห็นได้ง่ายๆ มักจะมีเมฆ หมอกปกคลุมตลอด ผมมีวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้มีโอกาสเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดๆ ตามนี้ครับ

  1. ไปดูภูเขาไฟฟูจิ อย่ากำหนดวันไปแน่นอน
  2. ดูพยากรณ์อากาศแบบวันต่อวัน ให้ search คำว่า “kawaguchiko weather” ใน google ถ้าวันรุ่งขึ้นเป็นรูปพระอาทิตย์แจ่มใส ให้ตรียมตัวไปวันรุ่งขึ้นเลย
  3. ก่อนจะไปให้ดูพยากรณ์อากาศอีกครั้งว่าวันนี้พระอาทิตย์แจ่มใสหรือไม่ ถ้าแจ่มใสเหมือนเดิมก็ออกเดินทางได้เลย
  4. ถ้าจัดโปรแกรมอย่างยืดหยุ่นไม่ได้ ก็พักที่ Kawaguchiko ซัก 1 คืน ที่พัก Kawaguchiko มีหลายโรงแรม ราคาไม่แพง

4 วิธีนี้จะทำให้มีโอกาสได้เจอกับภูเขาไฟฟูจิได้มากขึ้น การไปแล้วไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิแล้วจะเสียดายครับ

ตัวอย่างรูปพยากรณ์อากาศ Lake kawaguchi จาก www.google.co.th จะเห็นว่าวันที่ฟ้าใสมี 4 วัน Sat, Sun, Mon, Wed เลือกเอาตามสะดวกว่าจะไปวันไหน ส่วนวันที่ไม่ควรไปเลยก็ Thu เพราะมีฝนตก รับรองว่าได้จะไม่ได้เห็นฟูจิสวยๆ

การเดินทางจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากูจิโกะ

ทางรถยนต์

นั่ง Highway Bus ที่สถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Kawaguchiko รถบัสที่ให้บริการเป็นรถบัสปรับอากาศมีห้องน้ำในตัว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด แต่ถ้ารถติดอาจใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง คุมเวลาค่อนข้างยาก ส่วนมากแล้วในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และ ช่วงซากุระบานจะใช้เวลาเดินทางมาก ค่าโดยสารคนละ 1,700 เยน (ขาเดียว) ควรจองก่อนเดินทาง 1 วัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊ก highway-buses.jp/fuji

ทางรถไฟ

เป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว คุมเวลาได้ดี แต่ต้องไปต่อรถไฟ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่อนข้างเยอะ สำหรับคนที่มี JR Pass สามารถนั่งได้ฟรีจนถึงสถานี JR Otsuki และคนที่มี JR Kanto Pass (JR TOKYO Wide Pass) สามารถนั่งได้ฟรีจนถึงสถานี Kawaguchiko เลย

เส้นทาง 1

1. นั่งรถไฟที่สถานี JR Shinjuku สาย Azusa หรือ Kaiji ไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถใช้ JR Pass ได้ ถ้าไม่มี JR Pass ค่าโดยสาร 1,280 เยน

2. จากสถานี Otsuki นั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1,110 เยน ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้

เส้นทาง 2

นั่งรถไฟที่สถานี JR Shinjuku สาย Fuji Excursion นั่งยาวไปได้ถึงสถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ใช้ JR Tokyo wide pass นั่งได้ฟรี ส่วน JR Pass ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ขบวนรถไฟสาย Azusa

การขึ้นรถไฟขบวนนี้ต้องขึ้นให้ถูกตู้ดังนี้ครับ

รถไฟจะมีที่นั่งอยู่ 3 แบบ 1. Non reserved seat สำหรับคนไม่ได้จองที่นั่ง (สีเหลือง) 2. reserved seat สำหรับคนที่จองที่นั่ง (สีแดง) 3. Green car ที่นั่งชั้นพิเศษ (สีเขียว) ในแต่ละขบวนอาจจะจัดตู้ที่นั่งไม่เหมือนกันให้ดูที่ตัวรถไฟ หรือไม่ก็ป้ายที่สถานี

เมื่อถึงสถานี Otsuki แล้วให้เดินตามป้าย Fuji-kyuko Line ควรรีบเดินเพราะรถไฟสาย Fujikyu Railway มักจะออกหลังจากที่รถไฟสาย Azusa ถึงไม่นาน

ในสถานี Otsuki มีร้านค้าเล็กๆ 1 ร้าน และห้องน้ำ ให้จัดการทำธุระให้เรียบร้อยเลยครับ เพราะต้องเดินทางอีก 1 ชั่วโมง บนรถไฟสาย Fujikyu Railway ไม่มีห้องน้ำ

ที่จำหน่ายตั๋วรถไฟ Fujikyu Railway บอกพนักงานขายตั๋วว่า “Kawaguchiko” ผู้ใหญ่คนละ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน

รถไฟสาย Fujikyu Railway บางขบวนจะ paint สีสวยงามเป็นลายการ์ตูนบ้าง ลายภูเขาไฟฟูจิปากแดงบ้าง วันที่ไปมีหมอกลงจัด อากาศหนาวมากครับ

รถไฟ Fujikyu Railway รอบนี้เป็นรถไฟหน้าตาธรรมดา

ภายในรถไฟนั่งกันสบายๆ คนไม่เยอะ ใต้เบาะจะเป็น heater ถึงอากาศภายนอกจะหนาวแต่ในรถไฟก็อุ่น

รถไฟออกตรงเวลา 8.15 น

รถไฟวิ่งประมาณ 30 นาทีภูเขาไฟฟูจิเริ่มปรากฎตัวให้เห็นแล้ว วันนี้ฟ้าใสเป็นใจมาก สองข้างทางที่รถไฟวิ่งผ่านส่วนมากจะเป็นบ้านคน นาข้าว

สามสถานีสุดท้ายก่อนถึงสถานี Kawaguchiko มีชื่อดังนี้ครับ มือใหม่ต้องดูให้ดีเพราะอาจสับสนได้

Mt.Fuji –> Fujikyu Highland –> Kawaguchiko

  • Mt.Fuji ยังไม่ต้องลง
  • Fujikyu Highland เป็นสถานีสวนสนุก คนจะลงเยอะ รถไฟจะจอดที่นี่สักพัก แล้วหันหัวกลับไม่ต้องตกใจครับ
  • Kawaguchiko ลงสถานีนี้ เป็นสถานีปลายทาง

ที่สถานี Kawaguchiko มีห้องน้ำ, ร้านอาหาร, ร้านขายของ, Locker ใครมีสัมภาระเยอะฝากไว้ที่สถานีรถไฟได้ครับ

หน้าสถานี Kawaguchiko

พอออกจากสถานี Kawaguchiko ให้เดินไปทางขวามือไม่กี่สิบเมตร จะเจอกับ Tourist Information ให้ไปขอแผนที่เส้นทางรถ Retro Bus และตารางรถที่นี่ พนักงานในนี้บริการดีมากๆ ครับ สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี

Tourist Information

แผนที่ Kawaguchiko

ตารางเวลารถ Retro Bus

การไปชมภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ

วิธีการที่สะดวกที่สุดคือการนั่งรถ Retro Bus ซึ่งเป็นรถเมล์สายพิเศษที่วิ่งรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko ไปยังป้ายสุดท้ายมีทั้งหมด 21 ป้าย กับระยะทาง 6.6 กิโลเมตร แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ One day pass ราคา 1,000 เยน เราจะขึ้น หรือลงตรงป้ายไหนก็ได้ กี่ครั้งก็ได้ใน 1 วัน รถ Retro Bus จะวิ่งมาทุกๆ 30-40 นาที แต่ถ้าไม่ซื้อ One day pass จะจ่ายค่าโดยสารเป็นครั้งก็ได้ แต่ต้องจ่ายเป็นเงิน ไม่สามารถจ่ายด้วยบัตร Pasmo, Suica ได้

นอกจากทะเลสาบคาวากูจิโกะยังมีทะเลสาบไซโกะ (Saiko) เป็นทะเลสาบที่อยู่ไกลจากทะเลสาบคาวากูจิโกะไปอีก หากต้องการไปชมภูเขาไฟฟูจิจากทั้งสองทะเลสาบให้ซื้อ One day pass แบบรวม 2 ทะเลสาบเลย ราคา 1,300 เยน

ตั๋วรถ Retro Bus แบบ One day pass สามารถซื้อบนรถกับคนขับได้เท่านั้น

แผนที่รถ Retro Bus จากเวบ transportation.fujikyu.co.jp สามารถ download file pdf ขนาดใหญ่ได้ที่ link ด้านล่าง

Link. เส้นทางรถ Retro Bus และตารางเวลา

ป้ายหยุดรถที่น่าสนใจ ในเส้นทาง Retro Bus รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ

ในเส้นทางรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะมีป้ายหยุดรถทั้งหมด 21 ป้าย เราไม่จำเป็นต้องลงทุกป้าย ลงเฉพาะที่เราสนใจก็พอ จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา

  • ป้ายหมายเลข 7 Kawaguchiko Herb Kan ที่จัดแสดงสมุนไพร
  • ป้ายหมายเลข 10 Yuransen Ropeway Iriguchi มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม
  • ป้ายหมายเลข 15 Kawaguchiko Bijutsukan
  • ป้ายหมายเลข 17-18 Kawaguchiko Sarumawashi Gekijo Konohana Bijutsu-kan – Kubota Itchiku Bujutsu-kan มีทางเดินเลียบทะเลสาบมีต้นซากุระอยู่ริมทางเดิน มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ในหน้าซากุระจะมีซากุระบานสะพรั่ง และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดงสดเป็นแนวยาวอยู่ริมถนน นอกจากนั้นจะมีร้านขายของของชาวบ้านแถวนั้น ขายของกิน ผัก ผลไม้ ส้ม กล้วย แอปเปิ้ลในราคาไม่แพง
  • ป้ายหมายเลข 21 Kawaguchiko Shizen Seikatsukan ป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะมี Natural Living Center ร้านขายของที่ระลึก ของฝาก มีที่นั่งทานกาแฟ softcream จุดนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน

Tip. เวลาลงเที่ยวในแต่ละจุดให้ดูตารางเวลาที่รถจะมาในรอบถัดไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลารอรถ กว่ารถ Retro Bus จะมาครั้งนึงก็ 30-40 นาที

นอกจากการนั่ง Retro Bus แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมรอบทะเลสาบ Kawaguchiko ได้ด้วยวิธีเช่าจักรยาน หรือเช่ารถยนต์ โดยจักรยานสามารถเช่าได้กับโรงแรม ที่พักที่อยู่รอบทะเลสาบ ส่วนวิธีการเดินเท้ารอบทะเลสาบเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ เพราะระยะทางจาก สถานีรถไฟ Kawaguchiko ไปยังป้ายรถเมล์สุดท้ายของทะเลสาบ Kawaguchiko (จุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุด) มีระยะทางถึง 6.6 กิโลเมตร

หลังจากได้ข้อมูลและตารางรถจาก Tourist Information มาแล้ว เราก็มารอรถ Retro Bus ที่ป้ายหมายเลข 1 หน้าสถานี Kawaguchiko

การรอขึ้นรถเมล์ของคนญี่ปุ่น จะยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ และเมื่อรถมาแล้ว จะยังไม่เดินไปที่ประตูรถ เค้าจะรอคนลงจนหมด แล้วคนขับจะบอกว่าให้ขึ้นได้ เค้าถึงจะเดินเรียงขึ้นรถกัน ประเทศนี้ระเบียบ วินัยอยู่ในสายเลือดเลยครับ

ขึ้นรถมาแล้วเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเลย ถ้าที่นั่งเต็มก็ยืนได้ เบาะรถ Retro bus ค่อนข้างแคบครับ เข่าติดเบาะหน้าเลย

ก่อนที่จะถึงป้ายหน้าจะมีภาษาญี่ปุ่นบอก แล้วตามด้วยภาษาอังกฤษว่าป้ายหน้าชื่ออะไร ใครจะลงก็กดกริ่งได้เลย

ของผมนั่งยาวมาลงที่ป้าย 21 เป็นป้ายสุดท้าย และซื้อ One day pass กับคนขับเลย ราคาคนละ 1,000 เยน

หน้าตารถ Retro Bus ครับ หน้าตาออกแนวย้อนยุค รถสวย น่ารักดี แต่บางช่วงที่รถไม่พอก็อาจมีรถบัสธรรมดามาวิ่งเป็น Retro Bus ดังนั้นต้องสังเกตป้ายเอาครับ

ลงจากรถปุ๊บรีบวิ่งเข้าไปหาภูเขาไฟฟูจิเลย เห็นได้เต็มๆ ฟ้าใส ไร้เมฆ สวยงามมากครับ ยิ่งใหญ่เกินบรรยาย จากจุดที่เรายืนอยู่นั้นห่างจากยอดภูเขาไฟฟูจิเกือบ 20 กิโลเมตร แต่รู้สึกเหมือนว่าอยู่ใกล้มาก แต่น่าเสียดายว่ามุมจากทะเลสาบคาวากูจิโกะไปยังภูเขาไฟฟูจิย้อนแสงทุกมุม เหมือนว่าพระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เราสามารถถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิได้ แต่ถ้าถ่ายคนคู่ด้วยหน้าคนจะดำต้องยิงแฟลชช่วย

วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ 10 องศา แต่ยอดภูเขาไฟฟูจิมีหิมะปกคลุมเป็นสีขาว

หลังจากยืนชมฟูจิซังจนเต็มอิ่มแล้วก็เข้าไปดูของในร้านขายของที่ระลึกที่อยู่ข้างทะเลสาบ

ในร้านก็จะมีขนม ของกิน ตุ๊กตาฟูจิซัง พวงกุญแจ ร่ม พัด

ส่วนมุม Cafe ก็จะมีกาแฟ แก้วละ 400-450 เยน น้ำบลูเบอร์รี่, พีช 450 เยน และที่นิยมทานกันก็ไอศครีม Softcream มีรสบลูเบอร์รี่ กับวนิลา บลูเบอร์รี่ & วนิลา ราคาโคนละ 300 เยน

รสชาติไอศครีมก็อร่อยดีครับแต่ราคาแพงไปหน่อย

ที่นั่งทาน คนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยชอบเดินทานกัน มักจะยืน หรือนั่งทานให้เสร็จแล้วค่อยไป

ตรงนี้น่าจะเป็นภูเขาไฟฟูจิจำลอง มีแต่ภาษาญี่ปุ่นติดไว้อ่านไม่ออก

ป้ายหมายเลข 21 Kawaguchiko Shizen Seikatsukan จากนั้นเราก็มานั่งรอ Retro Bus นั่งไปลงที่ป้าย 18 คนญี่ปุ่นเข้าแถวกันเป็นระเบียบ ตอนนี้เรามีบัตร One day pass แล้ว เวลาลงรถก็แสดงบัตรให้คนขับรถดู

ป้ายหมายเลข 17-18 Kawaguchiko Sarumawashi Gekijo Konohana Bijutsu-kan – Kubota Itchiku Bujutsu-kan เป็นแหล่งดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในทะเลสาบคาวากูจิโกะ แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เริ่มร่วงไปเยอะแล้ว ช่วงที่สวยที่สุดน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ใบไม้กำลังแดงสวย ภูเขาไฟฟูจิก็เริ่มจะมีหิมะปกคลุมยอดแล้ว

อากาศหนาวๆ แบบนี้นั่งตากแดดแล้วรู้สึกอบอุ่นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสียังพอมีให้เห็นบ้าง

เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิในมุมต่างๆ อดใจไม่ไหวต้องถ่ายรูปกลับมา แต่ละมุมก็สวยไม่เหมือนกัน ขึ้นกับว่าจะเห็นภูเขาไฟฟูจิคู่กับอะไร

จากป้าย 18 เราเดินไปเรื่อยๆ ไปหาป้าย 17 ระหว่างทางมีอะไรให้ชมเพลินๆ

อุโมงค์เมเปิ้ลที่ขึ้นชื่อว่าแดงสด งดงาม วันนี้ใบร่วงไปเกือบหมดแล้ว

เดินข้ามถนนไปยังฝั่งริมทะเลสาบ

ริมทะเลสาบจะเป็นแนวซากุระทั้งแนว ตอนนี้ทิ้งใบหมดแล้ว เดือนเมษายนคงจะออกดอกสวยงาม

คาวากูจิโกะเที่ยวได้ทั้งช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงซากุระ สวยงามคนละแบบ

เต๊นท์ตรงนี้มีผัก ผลไม้มาขาย ราคาถูกกว่าในโตเกียว แนะนำให้ลองชิมส้มดูถุงละ 300 เยน น่าจะประมาณ 1.5 กิโลกรัม ส้มญี่ปุ่นจะเนื้อนิ่ม น้ำเยอะ หวาน อร่อย ไม่ค่อยมีกาก

แอปเปิ้ลถุงละ 600 เยน มีประมาณ 6 ลูก ส่วนมากแล้วผลไม้เค้าจะแพงกว่าบ้านเรา

เราเดินมาถึงป้ายที่ 17 เดี๋ยวจะรอรถที่ป้ายนี้ไปลงที่ป้ายหมายเลข 10 Yuransen Ropeway Iriguchi เป็นสถานีกระเช้า

ฝาท่อของเมืองนี้เป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ paint สีทำลายสวยดีครับ

ระหว่างรอรถ Retro bus ด้วยความสงสัยในทิศว่าพระอาทิตย์อยู่ที่ทิศไหนกันแน่เลยดูเข็มทิศใน Iphone พบว่าพระอาทิตย์อยู่ที่ทิศใต้ครับ ทำเอางงเลย

ป้ายหมายเลข 10 Yuransen Ropeway Iriguchi กระเช้าไฟฟ้า Mt.Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม สัญลักษณ์ของกระเช้านี้เป็นรูปกระต่าย

ใครมีสัมภาระเยอะฝากที่ Locker ได้

ข้อมูลท่องเที่ยว ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ

กระเช้าเปิดให้บริการเวลา 9.00-17.10 น. และออกทุกๆ 5-10 นาที ใช้เวลาขาละ 3 นาที แต่ถ้าเดินเท้าต้องใช้เวลาถึง 40 นาที

ค่าโดยสารไป-กลับ. ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็ก 350 เยน

หน้าตากระเช้าเป็นแบบนี้ครับ รอบนึงจุได้หลายคน วิวที่ด้านบนมองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิโกะ, ภูเขาไฟฟูจิ และสวนสนุก Fujikyu Highland

ที่ฝั่งตรงข้ามกระเช้ามีล่องเรือทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Pleasure boat) แต่จะไม่เห็นวิวภูเขาไฟฟูจินะครับ มีภูเขามาบัง

ค่าลงเรือ. ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็ก 450 เยน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

เรือถีบรูปหงส์อันนี้ไม่ทราบราคา

ริมถนนบริเวณป้ายหมายเลข 10 จะเต็มไปด้วยร้านขายของฝาก ทัวร์ชอบมาลงที่จุดนี้ มีรถบัสมาจอดเป็น 10 กว่าคันเลย ทัวร์คนญี่ปุ่นก็มากันเยอะ

ร้านอาหารบริเวณนี้จะมีแต่ร้านราคาแพงๆ หน่อย นั่งกินเป็นเรื่องเป็นราว พวกราเมงจานด่วน หรือร้านตู้กดไม่มีให้เห็น

สุดท้ายก็เข้า Lawson ที่พึ่งยามยากของเรา ซื้อข้าวกล่อง ไก่ทอดมานั่งกินกันแบบ ฟินๆ ในราคาเบาๆ ข้างทะเลสาบ

กินเสร็จก็มานั่งรอรถ Retro bus กลับไปยังสถานีรถไฟ Kawaguchiko

เมื่อมาถึงสถานีแล้วก็แวะร้านขายของฝากในสถานีรถไฟ Kawaguchiko มีโปสการ์ด, ขนมหลากหลายแบบ มีร้านอาหารในนี้ด้วย

ที่สถานีนี้มี KitKat รสพิเศษ Strawberry cheese cake น่าจะหาซื้อได้เฉพาะสถานีนี้เท่านั้น กล่องเป็นรูปภูเขาไฟ กล่องนึงมี 9 ชิ้น ราคากล่องละ 630 เยน เห็นหายากแบบนี้แต่ก็มีคนหิ้วมาขายที่ไทยด้วยครับกล่องละ 500-600 บาท อัพราคาไปเยอะเลย

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงสถานี JR Otsuki แล้วต่อรถไฟกลับเข้าโตเกียว รีวิวดูภูเขาไฟฟูจิ ที่ทะเลสาบ Kawaguchiko ขอจบเพียงเท่านี้ครับ 🙂

สรุปค่าเดินทางจากโตเกียวไปดูภูเขาไฟฟูจิ ที่ทะเลสาบ Kawaguchiko (คนละ)

ขาไป JR Shinjuku –> JR Otsuki = Fare 1,280 + Seat Fee 900 = 2,180 เยน (ใช้ JR Pass / JR TOKYO Wide Pass ได้)

Otsuki –> Kawaguchiko = 1,110 เยน (ใช้ JR Pass ไม่ได้ /JR TOKYO Wide Pass ได้)

ค่ารถ Retro Bus แบบ One day pass = 1,000 เยน

ขากลับ Kawaguchiko –> Otsuki = 1,110 เยน (ใช้ JR Pass ไม่ได้ /JR TOKYO Wide Pass ได้)

JR Otsuki –> JR Shinjuku = Fare 1,280 + Seat Fee 900 = 2,180 เยน (ใช้ JR Pass / JR TOKYO Wide Pass ได้)

: : รวมค่าเดินทางในกรณีที่ไม่มี JR Pass = 7,160 เยน

: : รวมค่าเดินทางในกรณีที่มี JR Pass = 3,220 เยน

: : รวมค่าเดินทางในกรณีที่มี JR TOKYO Wide Pass = 1,000 เยน

ที่พักใกล้ทะเลสาบ Kawaguchiko

ที่พักใกล้ทะเลสาบ Kawaguchiko จะอยู่บริเวณสถานีรถไฟ Kawaguchiko ไปจนถึงรอบทะเลสาบ Kawaguchiko โดยจะหนาแน่นบริเวณรอบทะเลสาบ ป้ายรถประจำทางหมายเลข 4-14 ที่พักเกือบทุกที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้จากที่พัก

ที่พักยอดนิยม

Kawaguchiko Station Inn อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Kawaguchiko มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากที่พัก สะดวกในการเดินทาง คนไทยนิยมไปพัก เป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่น มีออนเซน ห้องน้ำรวม ควรจองล่วงหน้านานๆ ค่าห้องเริ่มต้นที่ 4,200 เยน (ประมาณ 1,344 บาท)
Plaza Inn Kawaguchiko ที่พักแบบโรงแรม อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Kawaguchiko ใกล้ 7-eleven มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากที่พัก ค่าห้องเริ่มต้นที่ 1,600 บาท
Koe House ห้องพักแบบญี่ปุ่น อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Kawaguchiko ราคาประหยัด พนักงานเป็นกันเอง มีที่พักแบบนอนรวม และห้องส่วนตัว ค่าห้องเริ่มต้นที่ 690 บาท
การเดินทางจาก Kawaguchiko ไปยังที่ต่างๆ
  • ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 (Kawaguchiko 5th Station)

นั่งรถบัสหน้าสถานี Kawaguchiko station ค่ารถขาเดียว 1,500 เยน ใช้เวลา 50 นาที ตั๋วไป-กลับ ราคา 2,000 เยน มีรถวิ่งวันละ 11-16 รอบในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม และวันละ 5 รอบในช่วงกลางเดือนมีนาคม – ต้นเดือนธันวาคม ในช่วงที่มีหิมะตกหนัก ฝนตกหนักอาจไม่มีให้บริการ

  • Pagoda Chureito (เจดีย์แดง 5 ชั้นที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ)

นั่งรถไฟสาย Fujikyu railway จากสถานี Kawakuchiko มา 2 สถานี ลงที่สถานี Shimoyoshida แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20-30 นาที ค่าโดยสาร 290 เยน

  • Hakone

ขึ้นรถบัสจากสถานี Kawaguchiko station ไปสถานี Gotemba station ราคา 1,470 เยน เดินเข้าสถานีแล้วข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม รอรถไป Togendai ราคา 930 เยน ลงรถก็จะเจอกับทะเลสาปอาชิ รวมใช้เวลาประมาณ 1.45 – 2 ชั่วโมง

  • Osaka – Kyoto

มีรถ Night bus ของ บ. Fujikyu Expressway Bus ให้บริการ รถออกจากสถานีรถไฟ Kawaguchiko เวลา 20.52 น. ถึงเกียวโตเวลา 5.57 น. และโอซาก้า 6.53 น. ค่าโดยสารไปเกียวโต 6,700 เยน และ โอซาก้า 7,200 เยน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

อุณหภูมิเฉลี่ย 12 เดือน และเทศกาลในเดือนต่างๆ

อุณหภูมิรอบทะเลสาบ Kawaguchiko ค่อนข้างเย็นเกือบทั้งปี โดยจะเริ่มมีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม, ใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มมีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และซากุระจะบานในช่วงกลางเดือนเมษายน

มกราคม -6 ถึง 5 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ, หิมะปกคลุมที่พื้นรอบทะเลสาบ Kawaguchiko
กุมภาพันธ์ -5 ถึง 6 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ, หิมะปกคลุมที่พื้นรอบทะเลสาบ Kawaguchiko, ในปีที่หิมะตกหนักมาก รถบัส รถไฟ อาจหยุดให้บริการ มาเที่ยวเดือนนี้ต้องตรวจเช็คสภาพอากาศตลอดเวลา
มีนาคม -2 ถึง 9 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ อากาศเริ่มอุ่นขึ้น
เมษายน 3 ถึง 15 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ, ซากุระบานรอบทะเลสาบ ช่วงกลางเดือนเมษายน หรือช่วงสงกรานต์
พฤษภาคม 8 ถึง 20 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ และค่อยๆ น้อยลง ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่ดอกพิงค์มอสออกดอกสีชมพูสวยงาม คนนิยมไปดูทุ่งพิงค์มอส หรือดอกชิบะซากุระ ในงานเทศกาล Fuji Shibazakura ที่ตั้งของงานจะอยู่ห่างจากทะเลสาบ Motosu ประมาณ 3 กิโลเมตร ไปทาง Fujinomiya ในเส้นทาง 139 มีรถบัสจากสถานี Kawaguchiko ไปงาน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
มิถุนายน 13 ถึง 22 องศา เข้าสู่หน้าร้อน หิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ และค่อยๆ น้อยลงจนเกือบหมด หรือ อาจจะหมดตอนสิ้นเดือน มีฝนตกเป็นบางวัน

มีดอก Lavender บานริมทะเลสาบ และมีงาน Kawaguchiko Herb Festival

กรกฎาคม 17 ถึง 26 องศา ถ้าโชคดีอาจได้เห็นหิมะที่หลงเหลืออยู่ที่ยอดภูเขาฟูจิ ช่วงต้นเดือน มีฝนตกเป็นบางวัน

เปิดเส้นทางปืนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ ผู้ที่สนใจให้นั่งรถบัสไปที่ Kawaguchiko ชั้น 5 แล้วเดินเท้าจนถึงยอดฟูจิ

สิงหาคม 17 ถึง 27 องศา มีฝนตกเป็นบางวัน

มีเทศกาลจุดพลุรอบทะเลสาบทั้ง 5

กันยายน 14 ถึง 23 องศา มีฝนตกเป็นบางวัน อากาศเริ่มเย็นขึ้น
ตุลาคม 7 ถึง 17 องศา เริ่มมีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิช่วงปลายเดือนตุลาคม และเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีตั้งช่วงปลายเดือนตุลาคม
พฤศจิกายน 1 ถึง 13 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ, ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกและจะค่อยๆ โรยลงหลังจากสัปดาห์ที่ 4
ธันวาคม -4 ถึง 8 องศา มีหิมะที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ, และอาจมีหิมะตกในช่วงปลายเดือนธันวาคม เดือนนี้ฟ้าค่อนข้างใสมีโอกาสเห็นฟูจิได้มากกว่าเดือนอื่น

รีวิว Kawaguchiko ในหน้านี้ เป็นข้อมูลที่ไปมาในปี 2013 ราคาค่าโดยสาร ค่าเข้า และหมายเลขป้ายหยุดรถรอบทะเลสาบ อาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากต้องการข้อมูลที่อัพเดท ให้ดูรายละเอียดในหน้านี้ ภูเขาไฟฟูจิ คาวากูจิโกะ

วันที่ 1: เดินทางกรุงเทพฯ – โตเกียว A380 การบินไทย นอนโตเกียว
วันที่ 3: เที่ยวนารา เมืองแห่งกวาง ดูใบไม้เปลี่ยนสี นอนโอซาก้า ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 4-5: เที่ยวเกียวโต ชมศาลเจ้า วัดเก่า ใบไม้เปลี่ยนสี
วันที่ 6: นั่ง Shinkansen กลับโตเกียว เที่ยวโอไดบะ โตเกียว
วันที่ 7: เที่ยว Kawaguchiko ดูภูเขาไฟฟูจิ ใบไม้เปลี่ยนสี ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 8: เที่ยว Nikko เมืองแห่งมรดกโลก สุสานโชกุน นอนโตเกียว ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 9: เที่ยว Mitake ตามรอยละคร “ข้างหลังภาพ” ดูใบไม้แดง
วันที่ 11: ชิบูย่า รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ ซื้อของฝากในสนามบิน บินกลับไทย
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่น 11 วัน ค่าเครื่องบิน โรงแรม อาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ

Post Views 239119

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

231 thoughts on “รีวิวนั่งรถไฟดูภูเขาไฟฟูจิ ที่ทะเลสาบ Kawaguchiko

  • February 23, 2016 at 3:07 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
    พอทราบแบบนี้ก้ไม่กังวลอีกเลยค่ะ เพราะสามารถเข้าห้องน้ำในขบวน shinjuku-otsuki ได้

    ขอบคุนมากๆเลยค่ะ 🙂

  • February 24, 2016 at 8:34 pm
    Permalink

    ขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์มากครับ สุดยอดมาก ผมกำลังจะเดินทางไปkawaguchiko พอดีเข้ามาหาข้อมูล
    ทำดีแบบนี้ต่อไปนะครับ เยี่ยมมาก

  • March 21, 2016 at 4:24 pm
    Permalink

    สวัสดีคับ อยากจtสอบถามว่า ตั๋ว one day pass ซื้อได้แค่ที่บนรถใช่มั้ย พอดีสับสน ในการซื้อตั๋วนิดนึงอ่ะคับเห็นว่ามี เค้าเตอร์ขายตั๋วด้วย แร้วต้องรอรถเฉพาะที่ ป้ายหมายเลข 1 ที่เดียวใช่มั้ยคับ ขอบคุนมากนะค้าบบบ

  • March 21, 2016 at 4:39 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Boom

    สวัสดีคับ อยากจtสอบถามว่า ตั๋ว one day pass ซื้อได้แค่ที่บนรถใช่มั้ย พอดีสับสน ในการซื้อตั๋วนิดนึงอ่ะคับเห็นว่ามี เค้าเตอร์ขายตั๋วด้วย

    เท่าที่ผมทราบ สามารถซื้อ One day pass ได้ที่ Ticket office สถานี Kawaguchiko กับ ซื้อกับคนขับครับ

    แร้วต้องรอรถเฉพาะที่ ป้ายหมายเลข 1 ที่เดียวใช่มั้ยคับ ขอบคุนมากนะค้าบบบ

    จะรอที่ป้าย 2-3 … หรือป้ายอื่นๆ ก็ได้ครับ

  • March 29, 2016 at 12:11 am
    Permalink

    จะซื้อตั๋วรถไฟจากShinjuku ไปOtsuki ล่วงหน้าได้ที่ไหนคะ

  • March 29, 2016 at 11:13 am
    Permalink

    ตอบคุณ vita

    JR Ticket Office ครับ

  • April 13, 2016 at 1:00 am
    Permalink

    กรณีผมถึงฮาเนดะวันที่ 17/04 เวลา 14.00 และพักรร.ใกล้สถานี JR Shinagawa ผมสามารถซื้อ JR Kanto pass ในวันนั้นเพื่อใช้ในวันที่ 18/04 ได้หรือมั้ยครับ /หากซื้อได้ ผมมีแพลนทริปคือ
    1.18/04 ไป Niko เช้า-เย็นกลับ (ได้มั้ย?)
    2.19/04 ไป Kawaguchiko เช้า-เย็นกลับ
    3.20/04 เดินทางท่องเที่ยวในโตเกียว/โยโกฮาม่า ตลอดวัน
    4.21-22/04 Shopping และเตรียมกลับไทย (คงซื้อตั๋วตามตู้)
    รบกวนแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

  • April 13, 2016 at 11:51 am
    Permalink

    ตอบคุณ Buseis

    กรณีผมถึงฮาเนดะวันที่ 17/04 เวลา 14.00 และพักรร.ใกล้สถานี JR Shinagawa ผมสามารถซื้อ JR Kanto pass ในวันนั้นเพื่อใช้ในวันที่ 18/04 ได้หรือมั้ยครับ /หากซื้อได้ ผมมีแพลนทริปคือ

    ตอนนี้ JR Kanto pass ไม่มีแล้วครับ เปลี่ยนเป็น JR TOKYO Wide Pass พร้อมกับปรับราคาใหม่เป็น 10,000 yen จะซื้อวันที่ 17 แล้วเปิดใช้งานวันที่ 18 ก็ได้ครับ

    1.18/04 ไป Niko เช้า-เย็นกลับ (ได้มั้ย?)
    2.19/04 ไป Kawaguchiko เช้า-เย็นกลับ
    3.20/04 เดินทางท่องเที่ยวในโตเกียว/โยโกฮาม่า ตลอดวัน

    ใช้ได้ครับ ก็ถือว่าคุ้มอยู่ พาสนี้คนนิยมซื้อไปเล่นหิมะที่ GALA Yuzawa ถ้าสนใจลองดูนะครับ https://www.emagtravel.com/archive/gala-yuzawa-trip.html

    4.21-22/04 Shopping และเตรียมกลับไทย (คงซื้อตั๋วตามตู้)

    ใช้ Suica ซิครับ สะดวกกว่า

  • April 13, 2016 at 2:19 pm
    Permalink

    Admin ครับ งั้นผมสามารถเปลี่ยนทริปโดยผมใช้ JR Tokyo Wide Pass และ Suica เป็น

    17/04 ถึง Haneda 14.00 และมาสถานี Shinagawa เพื่อพักที่ รร. และออกไปเดินเล่นที่สวน Shinjuku gyeon ชมซากุระ(ใช้ Suica)
    18/04 ไป Nikko เช้า-เย็นกลับ (ใช้ JR Tokyo Wide Pass)
    19/04 ไป Kawaguchiko เช้า-เย็นกลับ (ใช้ JR Tokyo Wide Pass)
    20/04 ไป GALA-yuzawa เช้า-บ่ายๆ กลับ ใช้ (JR Tokyo Wide Pass)
    21-22/04 เที่ยวในโตเกียว Shopping เตรียมกลับไทย (ใช้ Suica)
    ***คุ้มมั้ยครับ และว่าแต่ Suica ซื้อยังไงคับ

  • April 13, 2016 at 4:10 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Buseis

    เลือกใช้พาสได้คุ้มมากครับ แนะนำว่า Kawaguchiko ให้ดูพยากรณ์อากาศ เลือกวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสที่สุด ส่วนวันที่เมฆเยอะ ฝนตก อย่าไปนะครับ เพราะจะไม่ได้เห็นฟูจิ

    Suica สามารถซื้อได้ที่สถานี JR หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติในสถานี JR ครับ

  • April 22, 2016 at 5:22 pm
    Permalink

    Admin คะ สอบถามหน่อยค่ะ

    – JR TOKYO Wide Pass กับ JR Rail Pass คือประเภทเดียวกันหรือเปล่าคะ
    – ถ้าต่าง ต่างกันตรงไหนคะ
    – เท่าที่อ่านเจอในเวปมา คือ JR Rail Pass สามารถใช้นั่งรถไฟสาย JR ได้ทั้งหมดเลยถูกต้องหรือเปล่าคะ
    – แล้วสามารถใช้นั่งจาก Shinjuku – Otsuki ได้ด้วยหรือไม่คะ

    ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะคะ

  • April 22, 2016 at 5:36 pm
    Permalink

    ขอโทษค่ะ admin ขวัญสับสนเอง – -”

    – JR Tokyo Wide Pass คือ JR Kanto Pass ใช่มั้ยคะ?
    – ถ้าเรามี JR Rail Pass เราก็จะเสียแค่ค่ารถไฟไปกลับ Otsuki-Kawaguchiko 2,220 yen ใช่มั้ยคะ
    – JR Rail Pass สามารถใช้นั่งรถไฟสาย JR ได้ทั้งหมดเลยถูกต้องหรือเปล่าคะ?
    – JR Rail Pass สามารถใช้นั่งจาก Shinjuku – Otsuki ได้ใช่มั้ยคะ?

    ขอบคุณสำหรับคำตอบอีกครั้งนะคะ ^^

  • April 22, 2016 at 7:37 pm
    Permalink

    ตอบคุณ khuan

    ตอบช้าไปแปปเดียวคุณตอบให้เองหมดเลย 🙂

    – JR Tokyo Wide Pass คือ JR Kanto Pass ใช่มั้ยคะ?
    ใช่ครับ

    – ถ้าเรามี JR Rail Pass เราก็จะเสียแค่ค่ารถไฟไปกลับ Otsuki-Kawaguchiko 2,220 yen ใช่มั้ยคะ
    ใช่ครับ

    – JR Rail Pass สามารถใช้นั่งรถไฟสาย JR ได้ทั้งหมดเลยถูกต้องหรือเปล่าคะ?
    ใช่ครับ

    – JR Rail Pass สามารถใช้นั่งจาก Shinjuku – Otsuki ได้ใช่มั้ยคะ?
    ได้ครับผม

  • May 13, 2016 at 12:42 am
    Permalink

    ถ้าไปช่วง21-23พย.จะร่วงเยอะไหมนะครับ แล้วขากลับแวะโยโกฮะม่า1คืนจะลำบากกว่าแวะโตเกียวไหมนะครับ พอดีไปกับสว. แล้วไปต่อเกียวโต

  • May 13, 2016 at 11:18 am
    Permalink

    ตอบคุณ yee

    ในรีวิวผมไปวันที่ 26 พฤศจิกาครับ บรรยากาศช่วงที่คุณไปคงไม่ต่างกับที่ผมไปมากครับ

    ขากลับแวะโยโกฮามาได้ครับ ไม่ลำบาก

  • May 31, 2016 at 4:41 pm
    Permalink

    แล้วหาซื้อ JR Rail Pass ได้ที่ไหนคะ? ตอนนี้ราคาประมาณเท่าไหร่แล้วคะ? ต้องซื่อก่อนเดินทางใช่มั้ยคะ? ขวัญกะว่าจะไปแค่โซนโตเกียว (ชินจูกุ,ชิบูญ่า,ฮาราจูกุ,โอไดบะ) ต้องซื้อตั๋วแบบไหนคะ?

  • May 31, 2016 at 5:11 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Khuan

    คำถามค่อนข้างเยอะ และกว้างนะครับ คุณควรจะหาข้อมูลด้วยตัวเองก่อน ให้เหลือคำถามที่แคบลง หรือถ้าไม่มีเวลาแนะนำให้ไปกับทัวร์ครับ

  • June 1, 2016 at 1:17 pm
    Permalink

    เรียน Admin
    รบกวนถามการเดินทางจาก Shizuoka จะไป Kawaguchigo นะครับ ผมดูใน Hyperdia ต้องนั่งจาก
    Shizuoka ==> Kofu ==> Otsuki ==> Kawaguchiko ใช้เวลา 275 นาที ….พอจะมีเส้นทางอื่น
    ที่ดีกว่านี้มั้ยครับ
    ขอบคุณครับ

  • June 10, 2016 at 10:43 am
    Permalink

    JR Tokyo Wide Pass จาก Otsuki ถึง Kawaguchigo โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แล้ว JR Rail Pass ต้องจ่ายเพิ่มมั้ยครับ

  • June 10, 2016 at 11:33 am
    Permalink

    ตอบคุณ Kritt

    1. นั่งรถไฟที่สถานี JR Shinjuku สาย Azusa หรือ Kaiji ไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถใช้ JR Pass ได้ ถ้าไม่มี JR Pass ค่าโดยสาร 1,280 เยน

    2. จากสถานี Otsuki นั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 1,110 เยน ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้

    ในรีวิวมีรายละเอียดบอกชัดเจนแล้วครับ

  • July 4, 2016 at 10:47 pm
    Permalink

    สวัสดีครับ Admin

    ผม search ใน hyperdia เจอรถไฟขบวน Holiday Rapid Mt.Fuji 1 for Kawaguchiko ซึ่งตามตารางเวลาขบวนนี้จะวิ่งจาก shinjuku ตรงไปที่ Kawaguchiko เลย เวลารถออกคือ 8.14 a.m. มีให้บริการเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์

    รบกวนสอบถาม ไม่ทราบว่า Admin พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับรถไฟขบวนนี้ไหมครับ คือเข้าใจว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ รถขบวนนี้ต้องแน่นมากแน่ ๆ จึงอยากทราบว่า กรณีจะจองตั๋วไว้ก่อน ต้องทำอย่างไร

    เช่นถ้าผมไปถึง narita airport เช้าวันพฤหัส ตอนซื้อตั๋ว N’ex ที่เคาน์เตอร์ JR เพื่อมายังที่พักที่ shinjuku ผมจะขอซื้อตั๋วสำหรับขบวนรถไฟ Holiday Rapid Mt.Fuji 1 for Kawaguchiko นี้ล่วงหน้าไว้สำหรับการเดินทางในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ (ระบุวัน และจองที่นั่งไว้โดยจะไปขึ้นที่สถานี Shinjuku)ได้เลยไหมครับ

  • July 5, 2016 at 11:40 am
    Permalink

    ตอบคุณ phon

    สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าที่ JR Ticket Office สนามบิน Narita ได้ครับ โดย print รายละเอียดรถไฟใน Hyperdia ส่งให้เค้าดูเลย ตั๋ว NEX เป็นแบบระบุที่นั่ง ระบุวันอยู่แล้วครับ

  • August 5, 2016 at 4:32 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ ต้องการสอบถามว่าหากซื้อ fuji hakone free pass ต้องการเดินทางจากสนามบินฮาเนดะไป คาวากูชิโกะ เดินทางอย่างไรคะ พอดีพยายามหาแล้วแต่หาไม่เจอเลยค่ะ ค่อนข้างงงมาก ขอบคุณค่ะ

  • August 5, 2016 at 4:52 pm
    Permalink

    สอบถามเพิ่มเติมค่ะงงจริงๆค่ะ T^T
    คือเรา plan จะไป kawaguchigo แล้วไปต่อที่ hakone จากนั้นไป takayama ค่ะ
    คำถามคือ ถ้าจะเดินทางแบบนี้ควรซื้อ fuji hakone free passs หรือ jr tokyo wide pass ดีคะ
    แล้วหากซื้อ fuji hakone free passs แต่เราไม่ได้นั่งรถไฟกลับจาก hakone ไปโตเกียวจะคุ้มไหมคะ
    เพราะจริงๆเราต้องการไป takayama ต่อค่ะ เพื่อที่ไป shiragawago

    ขอบคุณมากๆนะคะ รบกวนอีกครั้งค่ะ

  • August 5, 2016 at 5:06 pm
    Permalink

    ตอบคุณ meanz

    ขอดูโปรแกรมทั้งทริปหน่อยครับ

  • August 5, 2016 at 7:44 pm
    Permalink

    พอดีมี post ใน pantip แล้วอ่ะค่ะ เลย copy มาแปะค่ะ ไม่ต้องตอบหมดก็ได้นะคะเกรงใจ
    แต่ copy มาวางจะได้เห็น plan คร่าวๆค่ะ เรามะเคยไปญี่ปุ่น plan อาจจะไม่ดีนักยังไงถ้าสะดวกรบกวนหน่อยนะคะ
    ขอบคุณมากๆค่า

    เรามี plan จะเดินทางไปญี่ปุ่นช่วง 27/12/2015 – 06/01/2017 ค่ะ
    โดยเครื่องลงที่สนามบินฮาเนดะตอน 23.30น. วันที่ 27/12/2016

    และกำลังทำแผนการเดินทางคร่าวๆดังนี้ค่ะ
    28/12/2015 : kawakuchiko 1 คืน (พักที่ sunnide)
    29/12/2015 : hakone 1 คืน (พักที่ฮาโกเน่)
    30/12/2015 : takayama 1 คืน (พักที่ takayama) แล้วไป shirakawago
    31/12/2015 – 02/01/2016 : osaka 3 คืน
    03/01/2016 – 05/01/2016 : tokyo 3 คืน
    06/01/2016 : เดินทางกลับไทย (เครื่องออกจากฮาเนดะตอน 8.40น.)

    คำถามีดังนี้ค่ะ
    1.ลงเครื่องเวลานี้น่าจะไม่ทันรถไฟเข้าเมืองแล้วถูกไหมคะ โดยเราตั้งใจจะนอนโรงแรม capsule ที่สนามบินค่ะ

    2.เราตั้งใจจะซือ fuji hakone free pass แล้วออกเดินทางจาก haneda ไป kawaguchiko ต้องเดินทางอย่างไรคะ
    เราคิดว่าต้องออกจาก haneda ไปลงที่สถานี shinjugu ก่อนใช่ไหมคะ แต่สับสนว่าจาก shinjugu จะไป kawaguchiko
    อย่างไรด้วย pass นี้
    (พอดีพยายามหา review แล้วเจอแต่ haneda ไป hakone อ่ะค่ะสับสนการเดินทางจริงๆค่ะ รบกวนทุกคนด้วยนะคะ)

    3.หากวันที่ 29/12/2015 ที่เราต้องการไปพักที่ hakone แล้วไป takayama เพื่อไป shirakawago ในวันที่ 30/12/2016
    จากนั้นไปต่อที่ osaka 31/12/2015 – 02/01/2016 planจะแน่นไปไหมคะ เนื่องจากเท่าที่ดู hakone ไกลจาก takayama พอสมควรค่ะ
    ถ้าแน่นไปเราตั้งใจจะตัด takayama ออกค่ะ และถ้าหากไปได้ จาก hakone ต้องไปลงที่ nagoya ก่อนถูกไหมคะ

    4.เราตั้งใจจะซื้อ jr all pass แต่สับสนว่า jr all pass ครอบคลุมเส้นทางจาก takayama ไป osaka ไหมคะ

    5.หลังจากกลับจาก takayama แล้วไป osaka เรา plan ว่าจะอยู่ที่ osaka 3 คืนแล้วไปต่อไปโตเกียว 3 คืน จะแน่นไปไหมคะ
    จริงๆแล้วควรอยู่ที่ osaka 4 คืน แล้วกลับโตเกียว 2 คืนหรือปล่าวคะ

    4.เช้าวันที่ 06/01/2016 เราต้องเดินทางกลับไทย คืนวันที่ 5 เราควรนอนที่โตเกียว หรือนอนโรงแรม capsule ที่สนามบินดีคะ

    ปล. plan แต่ละวันเรายังไม่ได้ list ว่าจะทำอะไรบ้าง อ่านมาคร่าวๆอย่างเดียวค่ะ เพราะเรายังไม่รูเส้นทางการเดินทางเลยยัง plan ไม่ถูก
    แต่ตั้งใจว่าจะไปที่เที่ยวหลักๆและเน้นกินค่ะ รบกวนทุกคนด้วยนะคะ เพราะไปญี่ปุ่นครั้งแรกค่ะ พยายามอ่านจาก review เก่าๆแล้วแต่ยังสับสนมากจริงๆค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

  • August 6, 2016 at 11:47 am
    Permalink

    ตอบคุณ meanz

    จากโปรแกรมควรใช้ JR Pass 7 วันเปิดใช้งานวันที่ 28-3

    1.ลงเครื่องเวลานี้น่าจะไม่ทันรถไฟเข้าเมืองแล้วถูกไหมคะ โดยเราตั้งใจจะนอนโรงแรม capsule ที่สนามบินค่ะ

    นอนสนามบินดีแล้วครับ

    2.เราตั้งใจจะซือ fuji hakone free pass แล้วออกเดินทางจาก haneda ไป kawaguchiko ต้องเดินทางอย่างไรคะ
    เราคิดว่าต้องออกจาก haneda ไปลงที่สถานี shinjugu ก่อนใช่ไหมคะ แต่สับสนว่าจาก shinjugu จะไป kawaguchiko
    อย่างไรด้วย pass นี้

    มี JR Pass ไม่ต้องซื้อ Fuji Hakone Pass แล้วครับ ส่วนไปยังไง Search http://www.hyperdia.com/en ดูนะครับ

    3.หากวันที่ 29/12/2015 ที่เราต้องการไปพักที่ hakone แล้วไป takayama เพื่อไป shirakawago ในวันที่ 30/12/2016
    จากนั้นไปต่อที่ osaka 31/12/2015 – 02/01/2016 planจะแน่นไปไหมคะ เนื่องจากเท่าที่ดู hakone ไกลจาก takayama พอสมควรค่ะ

    จุดต่อรถที่ Hakone อยู่ที่ Odawara และ Odawara ไป takayama ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง แล้วต้องต่อรถไป Shirakawago อีก 1 ชั่วโมง รอบรถก็มีน้อย วันนี้เวลาไม่พอ ถ้าอยากไป Shirakawago ต้องเพิ่มอีก 1 วัน

    4.เราตั้งใจจะซื้อ jr all pass แต่สับสนว่า jr all pass ครอบคลุมเส้นทางจาก takayama ไป osaka ไหมคะ

    ครอบคลุมครับ (นั่ง SHINKANSEN HIKARI)

    5.หลังจากกลับจาก takayama แล้วไป osaka เรา plan ว่าจะอยู่ที่ osaka 3 คืนแล้วไปต่อไปโตเกียว 3 คืน จะแน่นไปไหมคะ
    จริงๆแล้วควรอยู่ที่ osaka 4 คืน แล้วกลับโตเกียว 2 คืนหรือปล่าวคะ

    แล้วแต่ชอบครับ

    4.เช้าวันที่ 06/01/2016 เราต้องเดินทางกลับไทย คืนวันที่ 5 เราควรนอนที่โตเกียว หรือนอนโรงแรม capsule ที่สนามบินดีคะ

    ถ้านอนในโตเกียว ออกจากที่พัก 5.40 – 6 โมง ก็ไปทัน แล้วแต่สะดวกแล้วกันครับ

  • August 6, 2016 at 1:41 pm
    Permalink

    ขอบคุณมากๆเลยค่า เข้าใจมากขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

  • September 2, 2016 at 4:34 am
    Permalink

    หวัดดีครับ มีโปรแกรมไปญี่ปุ่นโดยลงที่สนามบิน นาริตะ
    อาจไปประมาณ 6 วัน 5 คืน จะพาครอบครัวไปรวมลูก ๆ ด้วยทั้งหมดรวม 4 คน
    ลูกๆ อยากไป ภูเขาไฟฟูจิ / ดีสนี่แลนด์ / วัดที่ไม่ควรพลาด / ช๊อปปิ้ง (ของผู้หญิง)
    พักแถวฟูจิ 1-2 คืน , แถวดีสนี่แลนด์ 1 คืน , โตเกียว 1 คืน
    ขอคำแนะนำได้ไหมครับ โปรแกรมควรยังไงดี
    ปล. ยังไม่เคยไปญี่ปุ่นเลยครับ

  • September 2, 2016 at 7:14 am
    Permalink

    ตอบคุณ พ่อลูกสอง

    ไปกัน 4 คน ลองช่วยกันเลือกครับว่าอยากไปไหนบ้าง แล้วเอาสถานที่นั้นไป search ใน google map ว่าอะไรอยู่ใกล้กัน ก็จัดโปรแกรมได้แล้ว

  • September 6, 2016 at 11:44 pm
    Permalink

    อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ เดี๋ยว plan ให้ดี ๆ ก่อนนะคะ มีปัญหาแล้วจะถามไป ขอบคุณมากค่ะ

  • September 9, 2016 at 8:03 am
    Permalink

    จากสนามบิน นาริตะ terminal 2 เวลา 8:00 จะไปพักแถบ Kawaguchiko
    ด้วยรถสาธารณะอะไรดีครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ
    และที่พักแถว Kawaguchiko แนะนำที่ไหนครับ ขอราคาไม่แพงมาก

  • September 9, 2016 at 10:41 am
    Permalink

    ตอบคุณ fansan

    จากสนามบิน นาริตะ terminal 2 เวลา 8:00 จะไปพักแถบ Kawaguchiko
    ด้วยรถสาธารณะอะไรดีครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

    เข้า Shinjuku ก่อน แล้วดูการเดินทางที่เขียวไว้ในรีวิวครับ

    และที่พักแถว Kawaguchiko แนะนำที่ไหนครับ ขอราคาไม่แพงมาก

    คนไทยนิยมพักที่นี่ครับ Kawaguchiko Station Inn http://www.agoda.com/th-th/kawaguchiko-station-inn/hotel/fuji-san-jp.html?cid=1447152

  • September 9, 2016 at 5:45 pm
    Permalink

    ขอบคุณมากครับ

  • September 17, 2016 at 12:13 am
    Permalink

    ที่ฮาโกเน่ ที่เที่ยวเยอะไหมคะ แล้วที่พักที่นั่้นเป็นไงบ้างคะ ราคาแพงไหม

  • September 17, 2016 at 12:50 am
    Permalink

    สอบถามครับ
    ผมจะไปซื้อFuji hakone pass ก่อนล่วงหน้าวันไปจริงที่สถานีชินจุกุ ประมาณ3วัน
    เวลาจะขึ้นบัสจากชินจูกุไปคาวากูจิโกะ มันต้องจองที่นั่งยังไงอ่ะ จองตรงที่เราซื้อพาสเลย?
    หรือว่าควรจะจองผ่านอินเตอร์เน็ตจากไทยล่วงหน้าก่อนสักเดือน(ลองกดจอง พอกดๆไปตามลำดับ จะมีช่องให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ใส่เบอร์อะไรอ่ะ งง ไม่มีเบอร์ที่jp ครับ
    เพราะผมเดือนทางไปวันเสาร์ที่5 เดือนพฤศจิกายนนี้ ทั้งหมด. 6คนเกรงว่ารถบัสจะเต็มครับ

    – วันแรกถ้าไปเจดีแดงย์ชูเรโต+เที่ยวรอบๆคาวา ลงบัสป้ายที่21 ชมวิวถ่ายรูป ป้ายที่18 อุโมงค์ใบไม้แดง/ป้ายที่10ขึ้นกระเช้า คาชิคาชิ. จะแน่นไปมั้ยครับ เพราะดูเวลารถไฟไปกลับเจดีย์แดงแต่ละรอบห่างกัน1ชม แน่ะ ผมพักที่ เคเฮาส์ ส่วนวันที่สองไป (อาจจะเเวะบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถ้าตื่นเช้า555) ไปฮาโกเน่ แล้วนั่งรถไฟกลับโตเกียวตอนเย็น

    ขอบคุณครับ

  • September 17, 2016 at 2:15 pm
    Permalink

    ตอบคุณ รัตนชัย

    เรื่องรถบัสไป Kawaguchiko ขอผ่านนะครับ ไม่เคยไปด้วยวิธีนี้เลย

    วันแรกถ้าทำเวลาดีๆ ผมคิดว่าทันนะครับ คงเสร็จโปรแกรมตอนเย็นๆ แต่ก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะพักที่ Kawaguchiko

  • September 22, 2016 at 4:22 pm
    Permalink

    รบกวนถาม ADMIN ครับ
    ถ้าเดินทางจากอุเอโนะ ไป คาวากูจิโกะ ใช้บัตรรถไฟ SUICA ของรถไฟได้ตลอดทางไหมครับ

    ขอบคุณครับ

  • September 22, 2016 at 4:46 pm
    Permalink

    ตอบคุณ kintama

    ขบวน Fujikyu ใช้ Suica ไม่ได้ครับ

  • September 27, 2016 at 1:17 pm
    Permalink

    รบกวนถาม Admin ครับ
    จาก Shinjuku เดินทางไป Kawaguchiko ในวันเสาร์โดยรถไฟ LTD. EXP NARITA EXPRESS 8
    สามารถใช้บัตร Suica ได้ไหมครับ

    ขอบคุณครับ^^

  • September 27, 2016 at 1:35 pm
    Permalink

    ตอบคุณ kintama

    ไม่ได้ครับ ขบวน NARITA EXPRESS ต้องจองที่นั่งทุกที่นั่ง ดังนั้นต้องไปซื้อตั๋วที่ Counter ครับ

  • October 2, 2016 at 1:40 pm
    Permalink

    ไปkawagujiko วันที่8มิย2017 ค้างหนึ่งคืน ยังพอมี ดอไม้อะไรให้ดูมั้ยครับ อยากดู pink moss ครับ
    สิงวันหนุ่งคืน พอมัั้ยครับ
    ขอบคุณครับ

  • October 2, 2016 at 1:50 pm
    Permalink

    ตอบคุณ rakwood

    Pink moss น่าจะได้เห็น วันเดียวก็เที่ยวได้ครับ

  • October 6, 2016 at 3:00 pm
    Permalink

    สอบถาม Retro Bus เป็นแบบวิ่ง one-way วนไป หรือ วิ่งสวนทางได้คะ ถ้าจะไปลงสถานี 21 ก่อน มีรถคือต้องนั่งจากสถานี 1 ไป 21 ถ้านั่งจาก 21 ไป 17 ต้องวนใหม่ หรือมีรถวิ่งย้อนคะ

    ขอบคุณค่ะ

  • October 6, 2016 at 3:15 pm
    Permalink

    ตอบคุณ go_on_aor

    ตอนนี้เค้าเพิ่มป้ายเป็น 22 ป้ายแล้วครับ ป้าย 21 เดิมคือป้าย 22 ปัจจุบัน
    รถจะวิ่งจาก 1 ไป 22 แล้วกลับทางเดิม 22..21..20….1
    ถ้าคุณลงป้าย 22 แล้วขึ้นที่ 22 ใหม่ ก็จะเป็น 22->-21->…17

    แต่ถ้าคุณอยู่ป้าย 17 ขึ้นฝั่งทะเลสาบ รถจะวิ่งไปป้าย 22 ขึ้นฝั่งตรงข้ามจะไปป้าย 1

    แผนที่ครับ http://bus-en.fujikyu.co.jp/pdf/heritagetour/routemap_retro_omni.pdf

  • October 6, 2016 at 3:46 pm
    Permalink

    อ้อ ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณ admin มากๆค่ะ

  • October 9, 2016 at 9:34 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ ตามที่แอดมินเคยแนะนำป้ายที่น่าลงไปเที่ยว
    ป้ายเดิม :
    ป้ายหมายเลข 7 Kawaguchiko Herb Kan ที่จัดแสดงสมุนไพร
    ป้ายหมายเลข 10 Yuransen Ropeway Iriguchi มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม
    ป้ายหมายเลข 15 Kawaguchiko Bijutsukan
    ป้ายหมายเลข 17-18 Kawaguchiko Sarumawashi Gekijo Konohana Bijutsu-kan – Kubota Itchiku Bujutsu-kan มีทางเดินเลียบทะเลสาบมีต้นซากุระอยู่ริมทางเดิน มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ในหน้าซากุระจะมีซากุระบานสะพรั่ง และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดงสดเป็นแนวยาวอยู่ริมถนน นอกจากนั้นจะมีร้านขายของของชาวบ้านแถวนั้น ขายของกิน ผัก ผลไม้ ส้ม กล้วย แอปเปิ้ลในราคาไม่แพง
    ป้ายหมายเลข 21 Kawaguchiko Shizen Seikatsukan ป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะมี Natural Living Center ร้านขายของที่ระลึก ของฝาก มีที่นั่งทานกาแฟ softcream จุดนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน

    แล้วตอนนี้ป้ายใหม่มีทั้งหมด 22 ป้าย
    ป้ายข้างต้นที่แอดมินเคยแนะนำ จะเปลี่ยนเป็นป้ายที่เท่าไหร่คะ
    รบกวนด้วยนะคะ
    ขอบคุณค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *