สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แม่ริม เชียงใหม่

เชียงใหม่ / สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว และ รถสองแถว ที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์ฯ อยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ติดถนนแม่ริม – สะเมิง (1096) ถนนสายท่องเที่ยว อ.แม่ริม

สวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” ลักษณะเป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้นๆ ในระดับ 300-970 เมตร จัดทำเป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ลักษณะการจัดสวนของที่นี่จะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ สามารถขับรถเที่ยวชมรอบๆได้ โดยเฉพาะพรรณไม้หายากและมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

กลุ่มอาคารเรือนกระจก

เปิดให้เข้าชมในปี พ.ศ.2545 มีทั้งหมด 4 โรงเรือนขนาดใหญ่ และ 8 โรงเรือนเล็ก อยู่ลึกเข้าไปจากปากทางเข้าสวนพฤกษศาสตร์ฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร

1. เรือนแสดงไม้ป่าดิบชื้น (Tropical Rainforest) เป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ป่าดงดิบ สร้างบรรยากาศภายในเสมือนอยู่ในป่าจริงๆ มีน้ำตกจำลองให้ความชุ่มชื้นกับต้นไม้ในโรงเรือน นักท่องเที่ยวสามารถชมต้นไม้ได้อย่างใกล้ชิดด้วยทางเดินยกสูง (Sky walk)

 

น้ำตกจำลองในเรือนแสดงไม้ป่าดิบชื้น

ทางเดิน Sky walk

มีป้ายชื่อติดที่ต้นไม้ ผู้ที่สนใจสามารถนำชื่อไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

2. เรือนไม้น้ำ จัดแสดงไม้น้ำและพืชชุ่มน้ำชนิดต่างๆ ไม้ชุ่มน้ำต่างๆ และพืชกินแมลง เช่นกาบหอยแครง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

เรือนพืชกินแมลง

ภายในโรงเรือน

หม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชกินแมลง

3. เรือนกล้วยไม้และเฟิร์น (Orchids & Ferns) จัดแสดงกล้วยไม้และเฟิร์นชนิดต่างๆ มีทางเดินในโรงเรือนเป็นหินกรวด

เรือนกล้วยไม้และเฟิร์น

4. เรือนพืชทนแล้ง (Arid Plants) เป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ ปลูกพืชสกุลกระบองเพชรชนิดต่างๆ เช่นถังทอง (Echinocactus grusonii) ตระกูลแมม (Mammillaria) แอสโตร (Astrophytum) เฟโรแคคตัส (Ferocactus) พืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน เสมา พืชอวบน้ำ (succulents) อะกาเว (Agave) และไม้แล้งทรงสูง ส่วนมากแล้วจะเป็นกระบองเพชรสายพันธุ์ทั่วไป ไม่ใช่สายพันธุ์หายาก

ถังทองปลูกลงดิน จำลองบรรยากาศแบบทะเลทราย

กระบองเพชร Ariocarpus

โรงเรือนกระบองเพชร

กุหลาบหิน เป็นพืชที่ชอบอากาศหนาว

5. เรือนรวมพรรณบัว (Lotus and Waterlilies) โดยรวมพรรณบัวโดยเฉพาะของไทยและของเอเชีย ที่ออกดอกสวยงาม

โรงเรือนบัว

บัวกระด้ง หรือ บัววิกตอเรีย มีใบขนาดใหญ่

6. เรือนแสดงพันธุ์สัปปะรดสี (Bromeliads) เป็นพันธุ์สัปปะรดสีที่มีการนิยมปลูกกันในประเทศไทย

เรือนแสดงพันธุ์สัปปะรดสี

ปลูกในที่ชื้น มีแดดรำไร

7. เรือนแสดงบอนสีและหน้าวัว จัดแสดงบอนสี บอนป่า หน้าวัว ไม้ด่าง ไม้แคระ และพืชขนาดเล็กที่สวยงาม

บอนสี

8. เรือนแสดงส้มกุ้ง จัดแสดงพืชสกุลส้มกุ้งที่รวบรวมจากในประเทศและต่างประเทศ

9. เรือนแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ด่าง จัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ลูกผสมและไม้ต่างประเทศที่พบทั่วไปในท้องตลาด

10. เรือนแสดงไม้ไทยหายาก จัดแสดงไม้ไทยและไม้ไทยหายากชนิดต่างๆ มีป้ายชื่อบอกรายละเอียดโดยย่ออย่างชัดเจน

11 – 12 เรือนแสดงพืชสมุนไพร จัดแสดงพืชสมุนไพรของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมป้ายบอกชื่อสรรพคุณต่างๆ โดยย่อ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

• การเที่ยวชมตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

ยังมีให้เลือกอีกหลายเส้นทาง เส้นทางที่นิยมกันมาก อย่างเช่น เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนกล้วยไม้ไทย เริ่มเดินจากน้ำตกแม่สาน้อย ผ่านสวนหิน เส้นทางนี้คนไม่ค่อยรู้จัก อยู่ที่บริเวณด้านหน้าสวนพฤกษศาสตร์ ฝั่งติดถนนใหญ่ ใกล้ร้านกาแฟอเมซอน บรรยากาศร่มรื่น เป็นธรรมชาติ

• เส้นทางสวนรุกขชาติ เป็นสวนรวบรวมพรรณไม้ท้องถิ่น

รวมทั้งต้นไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ เส้นทางนี้จะพบกับแปลงรวมพันธุ์กล้วย บอน ปาล์ม เฟิร์น ขิง-ข่า ปรง และสน ระยะทาง ประมาณ 600 เมตร

• เส้นทางวัลยชาติ หรือไม้เลื้อย

เส้นนี้เเป็นเส้นทางทอดยาวไปตามสันเขา ระยะทางประมาณ 800 เมตร โดยการศึกษาไม้เลื้อยและเดินชมพันธุ์ไม้เลื้อยตามสองข้างทาง รวมมากกว่า 250 ชนิด เช่น ไม้เลื้อยอย่างถ้วยทอง พวงโกเมนและพวงหยก

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ

หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ

นิทรรศการโลกมหัศจรรย์ของผึ้ง

ภาพ 3 มิติ

เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการและสาธิตให้ความรู้ทางพืช ธรรมชาติวิทยา และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับพืชได้อย่างน่าสนใจ จัดแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ส่วนความหลากหลายทางชีวภาพ ส่วนก้าวแรกของนักพฤกษศาสตร์ในประเทศไทย ส่วนผจญภัย 10 ป่าไทย ส่วนมหัศจรรย์ผึ้งและดอกไม้ และโซนสุดท้ายที่เพิ่มขึ้นมาใหม่มีภาพ 3 มิติที่ผนังให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป

Canopy Walkway

Canopy Walks

พื้นที่ชมวิว บริเวณพื้นเป็นกระจก

ทางเดินลอยฟ้า (Canopy Walkway) เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีระยะทางประมาณ 400 เมตร สูงเหนือกว่าพื้นดิน 20 เมตร ซึ่งสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงาม แบบพาโนราม่า เห็นวิวดอยหม่อนคว่ำหล้องได้อย่างชัดเจน โดยออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ ลักษณะโครงสร้างทำจากเหล็กกล้า แข็งแรง มีจุดชมวิวจากระเบียงยื่นออกไปด้านข้างและรั้ว เป็นกระจกใสสามารถมองลงไปด้านล่างได้

การเข้าชม Canopy Walkway ไม่เสียค่าเข้าเพิ่ม แต่ต้องนำบัตรผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราที่หน้าทางเข้า

หมายเหตุ* Canopy Walkway ปิดให้บริการในฤดูฝน และเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป แต่วันไหนฝนตก ก็จะปิดให้บริการในวันนั้น

ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก

มีร้านอาหารตามสั่ง อาหารอีสาน ส้มตำ น้ำตก ไก่ย่าง ก๋วยเตี๋ยว, ร้านเครื่องดื่ม กาแฟสด และร้านขายของที่ระลึก อยู่บริเวณที่จอดรถใกล้กับกลุ่มอาคารเรือนกระจก อาหารอร่อยราคาไม่แพง

ร้านต้นไม้

อยู่ติดกับร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายต้นไม้หลายชนิด เช่น ดอกไม้เมืองหนาว กล้วยไม้ กระบองเพชร กุหลาบหิน สัปปะรดสี พืชกินแมลง ฯลฯ ราคาค่อนข้างถูก

การเข้าชม

เวลาทำการ :	ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น.
ช่วงเวลาเที่ยว :	ตลอดทั้งปี

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท, นักเรียน/นักศึกษา 10 บาท ผู้สูงอายุเกิน 60 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พระภิกษุสามเณร และผู้พิการ ไม่เสียค่าเข้าชม ค่ารถบริการนำชมสวน ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท รถบัส คันละ 200 บาท รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท

คำแนะนำในการเข้าชม พื้นที่ภายในสวนพฤกษศาสตร์ฯ ค่อนข้างกว้างมาก การเข้าชมด้วยรถยนต์ส่วนตัว มอเตอร์ไซค์ หรือเหมารถแดงจะสะดวก ไม่แนะนำให้เดินชม เพราะระยะทางจากหน้าทางเข้าถึงกลุ่มโรงเรือนกระจกไกลถึง 2.5 กิโลเมตร การเข้าชมในสวนพฤกษศาสตร์ฯ ให้ครบควรมีเวลาประมาณ 1 วันเต็มๆ แต่ถ้าเน้นชมที่กลุ่มอาคารเรือนกระจกอาจจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

ที่ตั้ง – ติดต่อสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

ที่อยู่ :	100 หมู่ 9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180
เบอร์โทรศัพท์ :	053-841-000
เวบไซต์ :	www.qsbg.org

การเดินทาง

รถยนต์ :

จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าสู อ.แม่ริม-สะเมิง จากทางตัวเมืองเข้ามาประมาณ 50 กม. ประมาณ 45 นาที ก็จะถึง สวนพฤกษาศาสตร์พระนางเจ้าสิริกิตติ์ จากตัวเมืองเชียงใหม่ เส้นทางรถยนต์ไปอำเภอแม่ริม เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 107 (แม่ริม-สะเมิง) ผ่านปางช้างแม่สา ตรงหลักกิโลเมตรที่ 12 รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ 27 กิโลเมตรก็จะถึงสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จาก อ.แม่ริม ใช้ทางหลวงหมายเลข 1096 (แม่ริม-สะเมิง) ประมาณ 12 กม. สวนพฤกษาศาสตร์พระนางเจ้าสิริกิตติ์อยู่ทางซ้ายมือ

รถโดยสาร :

–

แผนที่ในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

ที่มา. www.qsbg.org/Test/map6666.jpg

แผนที่การเดินทางจากประตูท่าแพ (เชียงใหม่) มายังสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

ที่พักแม่ริม

	แม่สาวาเล่ย์ การ์เด้นท์ รีสอร์ท ตั้งอยู่ไม่ไกลน้ำตกแม่สา มีลำธารไหนผ่านในรีสอร์ท อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศดี มีสวนดอกไม้ในรีสอร์ท บ้านพักสร้างบนไหล่เขาต้องเดินขึ้นบันไดเยอะ อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ บ้านพักมีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบเป็นบ้านกระท่อม หรือบ้านไม้ มีความเป็นส่วนตัว พนักงานอัธยาศัยดี เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน มีสระว่ายน้ำ
	แอท นาธา เชียงใหม่ ชิค จังเกิล ที่พักในอำเภอแม่ริม ใช้ปูนเปลือยเป็นผนังห้อง บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีห้องพักหลากหลายสไตล์ ตกแต่งสวย อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ด้านหลังรีสอร์ทมีลำธารไหลผ่าน มีสระว่ายน้ำ ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ น้องหมาเข้าพักฟรี
	โรงแรมพราวภูฟ้า โรงแรมตกแต่งสวย ห้องพักสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อน พนักงานเป็นกันเอง อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย จุดเด่นของที่นี่คือมีลำธารผ่านตัวโรงแรม
	โมโนซีรอส รีสอร์ท ที่พักในแม่ริม เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ไกลจากถนนใหญ่ ลักษณะบ้านเป็นหลัง มีระเบียง ห้องพักกว้างขวาง เจ้าของเป็นกันเอง มีสระว่ายน้ำเป็นน้ำเกลือ มีจักรยานให้ปั่นชมวิวโรงแรม อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ดูโรงแรมในแม่ริม ทั้งหมด คลิ๊ก

Post Views 82294