รีวิวเกาะพีพี One day trip อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ เกาะไม้ไผ่

กระบี่ / รีวิวเกาะพีพี One day trip อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ เกาะไม้ไผ่

รีวิวเกาะพีพี เป็นรีวิวที่ต่อจากตอนที่แล้วครับ (อ่านรีวิวที่แล้ว … รีวิวเที่ยวเกาะห้อง เกาะผักเบี้ย เกาะลาดิง ลากูน) หลังจากที่เรากลับจากทริปเกาะห้อง เราก็ซื้อ One day trip วันรุ่งขึ้น ไปเกาะพีพี ร้านขายทัวร์แนะนำทัวร์ของซีอีเกิ้ล (Sea Eagle) บอกว่าเป็นทัวร์สบาย คนไม่แน่นเต็มเรือ เรือใหม่ ทานอาหารกลางวันแบบ Buffet บนเกาะพีพี ราคาอยู่ที่คนละ 1,200 บาท ฟังดูแล้วก็น่าสนใจ แพงกว่าทัวร์เจ้าอื่นอยู่ 100 บาทเอง เลยตกลงเอาทัวร์เจ้านี้แหล่ะ

จ่ายเงินไป 2 คน x 1,200 = 2,400 บาท ตอนเช้าจะมีรถมารับที่โรงแรมอ่าวนางบีช รีสอร์ท เวลา 8.30 น.

ก่อนจะไป One day trip เติมพลังมื้อเช้าที่โรงแรมก่อน อาหารอร่อย คุณภาพดีครับ

จากนั้นก็เตรียมของที่จะไปเที่ยว ดังนี้

ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ครีมกันแดด แว่นกันแดด เสื้อผ้าเปลี่ยนหลังเล่นน้ำ ถุงกันน้ำ (ถ้ามีก็ดี) ยาแก้เมาเรือสำหรับคนที่เมาเรือง่าย

8.30 น. รถสองแถวเล็กมารับที่โรงแรม ตรงเวลาดีครับ

รถสองแถวพาไปยังจุดลงเรือที่หาดนพรัตน์ธารา ทำการลงทะเบียน

หลังจากทำการลงทะเบียนจะได้ wristband จำแนกสีตามเรือแต่ละลำ การใช้ wristband นั้นดีกว่าการใช้สติกเกอร์แปะที่เสื้อ เพราะสติกเกอร์มีโอกาสหลุดหายได้ หลุดลงทะเลก็เป็นขยะในทะเล

ช่วงระหว่างรอเรือออก สามารถไปเข้าห้องน้ำได้ที่อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่

9.15 น. เรือพร้อม คนพร้อม ไกด์ก็มาแนะนำตัว ไกด์ในวันนี้มีชื่อว่าคุณแซม หน้าตาดูคล้ายกับ คุณธงชัย ประสงค์สันติ ไกด์แซมมาบริฟคร่าวๆ ถึงโปรแกรมในวันนี้

เราจะไปสน๊อกเกิ้ลกันที่อ่าวลิง ชมความงามที่อ่าวมาหยา วนเรือรอบอ่าวปิเละ ผ่านถ้ำไวกิ้ง กินข้าวกลางวันที่ Andaman Beach resort เกาะพีพีดอน เล่นน้ำที่เกาะไม้ไผ่ และกลับถึงหาดนพรัตน์ธารา ตอน 16.00 น.

ลูกทัวร์ในวันนี้เป็นชาวจีนซะเกินครึ่ง เป็นฝรั่งผมทองซะ 1 ใน 4 และมี 4 คน เป็นคนไทย ภาษาที่ใช้ส่วนมากก็จะเป็นภาษาอังกฤษครับ แต่ไกด์ก็จะคุยกับเราต่อเป็นภาษาไทย ไกด์แซมเป็นคนตลกๆ คุยสนุก

ก่อนที่จะเดินทางไปเกาะพีพี ขอเล่าถึงข้อมูลเบื้องต้นของเกาะพีพี ให้ทราบกันก่อนครับ การที่เรารู้ข้อมูลสถานที่ทำให้เข้าใจ และเที่ยวได้อย่างสนุกขึ้นครับ

หมู่เกาะพีพี

เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากฝั่งกระบี่ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ห่างจากอ่าวนางประมาณ 30 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากกระบี่ หรือ ภูเก็ตก็ได้ ชื่อเกาะพีพี มาจากภาษาท้องถิ่นของคำว่า “ปิอาปิ” ซึ่งเป็นต้นไม้ป่าชายเลนชนิดหนึ่ง ต่อมาเพี้ยนไปเป็น “ปิปิ” และกลายเป็น “พีพี” ในที่สุด

หมู่เกาะพีพี มีอยู่ด้วยกัน 6 เกาะ ได้แก่ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะปิด๊ะนอก เกาะปิด๊ะใน เกาะยูง และ เกาะไม้ไผ่ มีเกาะขนาดใหญ่ 2 เกาะได้แก่ เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล

เกาะพีพีดอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ 28 ตารางกิโลเมตร ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท จะอยู่บนเกาะพีพีดอน อ่าวที่ขึ้นชื่อในเกาะพีพีดอน ได้แก่อ่าวต้นไทร และ อ่าวโละดาลัม สองอ่าวนี้หันหลังชนกัน มีแผ่นดินคั่นเพียง 100 เมตร สามารถเดินไปมาได้ บนเกาะมีหมู่บ้านชาวประมงที่อาศัยอยู่บนเกาะมานาน รอบเกาะสามารถดำน้ำดูปะการังได้

เกาะพีพีเล มีพื้นที่ 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะภูเขาหินปูน หน้าผาสูง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะในน่านน้ำกระบี่ บนเกาะพีพีเล ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก เนื่องจากไม่มีที่พักอาศัยบนเกาะ บนเกาะมีต้นไม้ใหญ่มากมาย สถานที่สำคัญในเกาะพีพีเล ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ ผ่านถ้ำไวกิ้ง

ไกด์บริฟเสร็จก็เดินไปขึ้นเรือกัน เราจะต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นเรือ ลูกเรือจะเก็บรองเท้าเราใส่ถุงตาข่ายไว้ให้

เรือของ Sea Eagle เป็นเรือ 2 เครื่องยนต์ ที่นั่งในเรือจะเป็นตัว U + หัวเรือ และมีที่นั่งพิเศษ 2 ที่นั่งทางฝั่งซ้ายของเรือ ข้างกับตันเรือ เป็นโชคดีของเราที่ไม่มีใครสนใจ 2 ที่นั่งนี้ เราเลยได้ที่นั่งนี้

เรือของ Sea Eagle ดีจริงอย่างที่ทัวร์แนะนำครับ ไม่มีที่นั่งแถวกลางให้อึดอัด ตรงกลางเรือจึงเป็นที่วางถังน้ำแข็ง เครื่องดื่ม

เรือแล่นไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ประมาณ 50 นาที ก็มาถึงอ่าวลิง จุดนี้จะปล่อยให้สน๊อกเกิ้ล อยู่ไกลจากหาดพอสมควร ถ้าขยันว่ายน้ำหน่อยก็สามารถขึ้นไปยังหาดได้ หาดที่อ่าวลิงมีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ ยาวไปตลอดแนวชายหาด เป็นที่อยู่อาศัยของลิงป่า

ไกด์แจกหน้ากากดำน้ำ และเสื้อชูชีพ เรามีเวลาสน๊อกเกิ้ลที่อ่าวลิง 30 นาที

พร้อมแล้วก็ลงน้ำกันเลย ใต้น้ำมีกองหินจำนวนมาก บางก้อนก็ใหญ่ สูงขนาดที่ขาเราไปโดนได้ ต้องระวังเท้าไปโดนก้อนหิน ซึ่งอาจส่งผลไปยังปะการังได้ ใต้น้ำมีปะการัง ดอกไม้ทะเล สวยงามมากครับ ใกล้เคียงกับที่หลีเป๊ะเลย เห็นคนจีนไปเหยียบแนวก้อนหิน ปะการัง อดห่วงไม่ได้

มาทัวร์พร้อมกับคนจีนมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย คนหนุ่ม สาว ลงเล่นน้ำไป ก็จะชวนอาม่าลงน้ำด้วย อาม่าก็ไม่กล้าลงน้ำ ได้แต่นั่งเอาเท้าจุ่มน้ำที่บันไดทางขึ้น ยื้อกันไป ยื้อกันมา ทีนี้ทางขึ้นเรือมีทางเดียวครับ จะขึ้น จะลงก็ไม่ได้ เพราะอาม่านั่งขวางอยู่ สุดท้ายได้ไกด์แซมมาช่วยเคลียร์ให้

บรรยากาศบนเรือ

ขึ้นมาบนเรือมีของว่างเป็นขนมเวเฟอร์ ส่วนเครื่องดื่มสามารถหยิบได้เองในถังน้ำแข็ง

จากนั้นเรือก็แล่นเข้าอ่าวมาหยา ที่อ่าวมาหยาน้ำใสมากๆ มองเห็นพื้นทรายด้านล่างได้ชัด น้ำทะเลที่นี่สีฟ้าอ่อน

ที่อ่าวมาหยาคนเยอะมากๆ ทั้งๆ ที่เป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนมีมากที่สุด ระหว่างที่เรือถอยเข้าหาดเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวมาก ทั้งจำนวนเรือที่เยอะ และคนที่เล่นน้ำใกล้ๆ กับเรือ

เรามีเวลาที่อ่าวมาหยา 30 นาที เมื่อถึงเวลาแล้วจะมาเจอกันที่เรือ แนะนำว่าควรถ่ายรูปเรือไว้ เพราะอาจจะหลงได้ เรือแต่ละลำก็คล้ายๆ กัน

อ่าวมาหยา เป็นชายหาดที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของเกาะพีพี เป็นชายหาดที่มีทรายขาว และน้ำใสมาก เมื่อก่อนเป็นหาดที่คนมาเที่ยวไม่เยอะเท่าไหร่ แต่พอมีหนังเรื่อง The Beach นำแสดงโดย ลีโอนาโด ดิคาปริโอ มาถ่ายทำ ในปี ค.ศ. 1999 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวกันเยอะมากขึ้น

หนังเรื่อง The Beach มีส่วนอย่างมากในการดึงนักท่องเที่ยวมายังเกาะพีพี แต่อีกแง่มุมหนึ่งหนังเรื่องนี้ก็ได้ทำลายสภาพแวดล้อมของอ่าวมาหยาไปด้วยเช่นกัน เพื่อทำบรรยากาศให้เข้ากับบทภาพยนต์

อ่าวมาหยาในวันนี้มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกลดลง แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยชาวจีน จำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยแล้ววันละมากกว่า 1,000 คน จัดว่าเป็นจำนวนที่มากเกินสถานที่จะรองรับได้

มองจากกลางหาดไปจนสุดหาดมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก

มุมสวยๆ ของอ่าวมาหยาจะอยู่ปลายหาด ห่างไกลจากที่จอดเรือ Speed boat หน่อย

น้ำทะเลใส ทรายขาวจริงๆ กิจกรรมบนอ่าวมาหยาในเวลา 30 นาที คงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการถ่ายรูป และเข้าห้องน้ำ

11.30 น. ได้เวลาขึ้นเรือแล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนหยิบซากปะการัง ติดไม้ติดมือ เป็นที่ระลึกกันหลายคน ไกด์แซมเห็น จึงบอกชาวจีนว่า Thailand properties Can’t keep it. ชาวจีนจึงจำเป็นต้องปล่อยลงทะเล ขอชื่นชมในการดูแลทรัพยากรทางทะเลของไกด์ท่านนี้ครับ ถ้าทัวร์ทุกเจ้าเคร่งครัดแบบนี้ เราก็จะมีทะเลสวยๆ ให้เที่ยวอีกนานแสนนาน

เรือสปีทโบ๊ตค่อยๆ ขยับออกจากอ่าวมาหยา สถานที่ต่อไปที่เราจะไปคืออ่าวปิเละ เป็นอ่าวที่อยู่ด้านหลังอ่าวมาหยา ต้องนั่งเรือวนไปทางทิศตะวันออก

อ่าวปิเละ เป็นอ่าวที่มีทางเข้าแคบประมาณ 50 เมตร เมื่อเข้าไปแล้วจะถูกล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูงรอบด้าน เป็นอ่าวที่ซ่อนตัวจากภายนอก น้ำทะเลนิ่ง และใสมาก เมื่อก่อนมีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันลดลง ตายไปเยอะ

นักท่องเที่ยวที่มากับเรือหางยาว เรือจะพามาสน๊อกเกิ้ลที่จุดนี้ด้วย ส่วนเรือสปีทโบ๊ตที่เรานั่งมาไม่แวะจอดที่จุดนี้ วนรอบให้ชมวิวเฉยๆ

ออกจากอ่าวปิเละ มายังถ้ำไวกิ้ง ทั้งสองที่นี้อยู่บนเกาะพีพีเล ถ้ำไวกิ้งเป็นถ้ำที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะ

ถ้ำไวกิ้ง เป็นถ้ำสัมปทานรังนกนางแอ่ง ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านใน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย และภาพเขียนสมัยโบราณนานนับร้อยปี ในหลวงเคยเสด็จประพาสที่ถ้ำแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2515 และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” จากรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค

เรือจะขับวนที่ปากถ้ำ ประมาณ 3 นาที จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เกาะพีพีดอน ทานอาหารกลางวัน

เกาะพีพีดอน อยู่ไม่ไกลแล้ว

12.13 น. เรือจอดที่อ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน รับประทานอาหารกลางวันแบบ Buffet ที่อันดามัน บีชรีสอร์ท ที่นั่งทานอาหารอยู่ติดกับทะเลเลย

อาหารมีอยู่ 4-5 อย่าง เช่น ไก่ทอด สปาเกตตี้ แกงเขียวหวาน แกงจืด ผัดผัก ขนมปัง ผักสลัด ผลไม้ รสชาติอาหารทำมากลางๆ ให้กินได้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

โดยรวมแล้วก็โอเคครับ คุ้มกับราคาทัวร์อยู่

ทานเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นริมหาด เห็นความแตกต่างของทะเลระหว่างอ่าวมาหยา กับอ่าวต้นไทร ที่อ่าวต้นไทรน้ำทะเลไม่ใสเท่าอ่าวมาหยา

ช่วงเที่ยง – บ่าย มีเรือสปีทโบ๊ต เข้ามาที่เกาะพีพีดอนตลอด พาลูกทัวร์มาทานอาหารกลางวัน

ที่พักเกาะพีพี จะอยู่บนเกาะพีพีดอน ถ้าอยากเที่ยวเกาะพีพี ให้เต็มอิ่ม ค้างบนเกาะซักคืนก็น่าจะดี

กิจกรรมยอมนิยมของฝรั่ง คือการนอนอาบแดด

13.30 น. ได้เวลาขึ้นเรือ เรือพาไปสน๊อกเกิ้ลจุดที่สอง หรือ จุดสุดท้ายของทริปนี้ อยู่ไม่ไกลจากเกาะพีพีดอน จุดนี้ก็สวยดีเหมือนกัน ดูจากพิกัดแล้วน่าจะเป็นจุดดำน้ำที่ชื่อว่าหินกลาง อยู่ระหว่างเกาะพีพีดอน และ เกาะไม้ไผ่ มีเวลาสน๊อกเกิ้ลประมาณ 30 นาที

14.20 น. เราขึ้นเกาะไม้ไผ่ เกาะนี้เป็นสถานที่สุดท้ายของเกาะพีพี ทัวร์ที่มาจากกระบี่เท่านั้นจะแวะที่เกาะนี้ ส่วนทัวร์ที่มาจากภูเก็ตจะแวะที่เกาะไข่แทน เพราะอยู่ในเส้นทางเดินเรือกลับภูเก็ต

เกาะไม้ไผ่ เป็นเกาะ 1 ใน 6 ของหมู่เกาะพีพี อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่ตั้งของเกาะไม้ไผ่จะอยู่เหนือเกาะพีพีดอน ข้างๆ กับเกาะยูง รูปร่างของเกาะไม้ไผ่เป็นทรงสามเหลี่ยมหัวมน มีหาดทรายรอบเกาะ สลับกับโขดหินเล็กๆ สามารถเดินได้รอบเกาะระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จุดเด่นของเกาะไม้ไผ่อยู่ที่หาดทรายขาวละเอียด เป็นหาดทรายที่เกิดจากการย่อยสลายของปะการังที่ใช้เวลานานหลายปี ส่วนน้ำทะเลก็มีสีฟ้าใส ไม่แพ้อ่าวมาหยา นอกจากนี้ยังมีจุดดำน้ำชมปะการังรอบเกาะ

เรามีเวลาอยู่บนเกาะไม้ไผ่ 1 ชั่วโมง 20 นาที พอที่จะดื่มด่ำกับน้ำทะเลใสๆ ลงเล่นน้ำได้ตามสบาย คนไม่เยอะเหมือนอ่าวมาหยา

ส่วนตัวแล้วชอบเกาะไม่ไผ่มากกว่าอ่าวมาหยาซะอีก น้ำทะเลใส บรรยากาศสบายๆ ทราบมาว่าเกาะไม้ไผ่เปิดให้พักค้างคืนได้ แต่เป็นการค้างคืนแบบนอนเต๊นท์ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีน้ำจืด ต้องเตรียมอาหารมาเอง กลางคืนบรรยากาศเงียบสงบ น่าจะเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ

ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด

นักท่องเที่ยวที่พักที่เกาะพีพีดอน สามารถนั่งเรือหางยาวมายังเกาะไม้ไผ่ได้

บริเวณชายหาดมีร่มเงาจากต้นสนทะเล

ซากปะการังถูกซัดเข้าฝั่ง เมื่อเวลาผ่านไป ซากปะการังเหล่านี้จะกลายเป็นเม็ดทรายสีขาว

นักท่องเที่ยวส่วนมากใช้เวลาไปกับการเล่นน้ำ

น้ำทะเลใส เหมือนว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำ

คนที่มาเป็นคู่มักจะหามุมสวยๆ ถ่ายรูปคู่เก็บไว้

15.30 น. ได้เวลาขึ้นเรือกลับเข้าฝั่งแล้ว ขากลับใช้เวลาประมาณ 35 นาที เรือจอดที่หาดนพรัตน์ธารา ช่วงบ่ายน้ำขึ้น หาดนพรัตน์ธาราดูสวยกว่าตอนเช้า น้ำทะเลใส

ถึงหาดนพรัตน์ธาราแล้ว มีเวลาเข้าห้องน้ำ ล้างตัวด้วยน้ำจืดซัก 10 นาที จากนั้นก็ขึ้นสองแถวของ Sea Eagle (ฟรี) กลับไปยังที่พัก

สรุปโดยรวมทริปเกาะพีพี

เป็นโปรแกรมทัวร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ ทะเลสวยมากโดยเฉพาะที่อ่าวมาหยา และ เกาะไม้ไผ่ มีจุดให้สน๊อกเกิ้ล 2 จุด เป็นปะการัง ดอกไม่ทะเล ปลาสวยๆ พอสมควร จำนวนสถานที่ที่ไป กับเวลาก็เหมาะสมดี ไม่ได้เร่งจนเกินไป อาหารกลางวันที่เกาะพีพีดอนก็ใช้ได้ การบริการของทัวร์ Sea Eagle ก็บริการดี โดยเฉพาะไกด์ที่ชื่อว่าคุณแซม บริการคนไทยเป็นอย่างดี เรือก็นั่งสบายๆ ไม่แน่น สรุปว่าคุ้มครับ

Post Views 80985

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *