เที่ยวเย่หลิว ชมหินรูปร่างประหลาด Yehliu Geopark Taiwan
จากตอนที่แล้ว –> ริวิวเที่ยวรอบทะเลสาบสุริยันจันทรา นั่ง HSR ไป Sun moon lake
วันนี้เป็นวันที่ 4 แล้วของทริปไต้หวัน โปรแกรมเที่ยวที่เราวางแผนไว้ก็จะเป็น เย่หลิว (Yehliu Geopark) และ จิวเฟิ่น (Jioufen) เมืองทางฝั่งตะวันออกของไทเป เราเปิดดูพยากรณ์อากาศพบว่าวันนี้จะมีฝนตก ถ้าตกไม่หนักมากเราก็จะได้ไปเที่ยวสองที่ตามแผน แต่ถ้าตกหนักคงจะได้ไปเพียงที่เดียว
มื้อเช้ากินง่ายๆ ที่ McDonald’s สาขานี้อยู่ระหว่างทางไปสถานี Taipei main Station ค่าใช้จ่ายมื้อนี้อยู่ที่ 178 TWD / 2 คน
ทานอิ่มแล้วก็พร้อมที่จะเดินทาง สถานที่แรกที่จะไปก็เป็นเย่หลิว
การเดินทางไปเย่หลิว (Yehliu Geopark)
- ขึ้นรถบัสสาย 1815 จาก Taipei West Bus Station Terminal A (สถานี Taipei main Station Exit Z3) สายเดียวถึงเย่หลิว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ค่าโดยสาร 96 TWD
เราเดินลงสถานีที่ทางลง Z2 เป็นจุดที่สะดวกที่สุดถ้ามาจากโรงแรม Chair man
ท่ารถอยู่ที่ทางออก Z3 ระหว่างทางจะผ่านย่านร้านค้าใต้สถานี Taipei main Station ย่านนี้เรียกว่า Station Front Plaza ของที่ขายราคาถูกกว่า Ximending ร้านค้าจะเริ่มเปิดตอนสาย ไปจนถึงหัวค่ำ ช่วงท้ายๆ ของรีวิวเย่หลิวเราจะพามาเดินดูร้านค้าในนี้
ออกทาง Z3 ก็จะเจอกับท่ารถบัส Taipei West Bus Station Terminal A
เดินเข้าไปด้านใน เข้าแถวช่อง 1815 ไม่ต้องซื้อตั๋วใดๆ ทั้งสิ้นเราจะจ่ายค่ารถด้วย Easy Card จำนวนเงินที่ต้องมีในการ์ดอย่างน้อย 100 TWD เป็นค่ารถขาเดียวจากไทเป ไป เย่หลิว
8:45 น. เมื่อรถพร้อมแล้วจะมีพนักงานเรียกไปขึ้นรถ ให้นำ Easy Card ไปแตะที่เครื่องอ่านการ์ดที่อยู่ข้างคนขับ ถ้าแตะแล้วมีเสียงตื๊ด 1 ครั้ง เป็นอันใช้ได้
ภายในรถบัส ใหม่ และสะอาด มีทีวีให้ดูฆ่าเวลา เป็นรายการทำอาหาร ทุกที่นั่งจะมีเข็มขัดนิรภัย และ ช่องชาร์จแบตแบบ USB ให้ด้วย
เบาะที่นั่ง
รถวิ่งออกจากท่ารถ วิ่งรับคนตามป้ายหยุดรถ และจอดรับคนที่ Taipei City Hall Bus Station หลังจากนั้นก็เริ่มวิ่งออกนอกเมือง
นั่งไปได้สักพักรู้สึกเมารถ เนื่องจากสไตล์การขับรถ เร่งแล้วเบรค ของคนขับรถ คนอื่นๆ ในรถก็คงรู้สึกไม่ต่างกับเรา คู่ที่นั่งด้านหน้าถึงกับหาถุงมาอ้วกจนเต็มถุง เราต้องรีบย้ายที่นั่งหนีกลิ่นอ้วก และดมยาดมช่วย ก็พอจะดีขึ้น
พอเริ่มออกนอกเมืองก็นั่งสบายขึ้น คนขับรถไม่ค่อยได้เบรค
ช่วงก่อนที่จะถึงเย่หลิวจะเป็นทางขึ้นเขา จุดนี้ใกล้จะถึงเย่หลิวแล้ว ให้คอยฟังเสียงประกาศในรถไว้นะครับ เสียงประกาศจะออกเสียงว่า “เย่แล่ว” คนไทยฟังแล้วจะคล้ายกับคำว่า “แย่แล้ว”
10:00 น. ถึงเย่หลิว ก่อนลงจากรถให้เอา Easy card มาแตะ แล้วค่อยลง
จุดที่รถบัสจอดจะยังไม่ถึงเย่หลิว เราจะต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 750 เมตร ทางเดินก็ตามลูกศรในรูปด้านล่าง วันนี้ฟ้าฝนเหมือนจะไม่เป็นใจ มีสายฝนตกลงมาเบาๆ แต่ในเมื่อมาถึงแล้วก็ต้องลุยต่อไป
เดินตามพื้นสีเขียวไปเรื่อยๆ ปลายทางจะเป็นเย่หลิว
ก่อนจะถึงเย่หลิวจะเจอกับท่าเรือ และร้านขายอาหารทะเล
อาหารทะเลเป็นๆ ดูน่าทาน ตัวใหญ่ และ สด
อาหารทะเลสดๆ
เจอป้ายนี้ แปลว่ามาถึงเย่หลิวแล้ว
ที่เที่ยวหลักๆ ในเย่หลิว มีอยู่ 2 ที่ ได้แก่ Yehliu Geopark และ Yehliu Ocean World ทั้งสองที่นี่อยู่ติดกัน
- Yehliu Geopark เป็นกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ อยู่ริมทะเล มีรูปร่างแปลก เกิดจากการกัดเซาะของคลื่น การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ฯลฯ
- Yehliu Ocean World เป็นการแสดงโชว์ปลาโลมา
ในรีวิวนี้จะไปที่ Yehliu Geopark เพียงที่เดียว
Yehliu Geopark (野柳地質公園)
เป็นแหลมหินที่ยื่นไปในทะเล มีความยาวประมาณ 1.7 กิโลเมตร หินบริเวณนี้ถูกเคลื่อนกัดเซาะ การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง เป็นเวลาหลายปี มีผลทำให้เกิดเป็นหินที่มีรูปร่างแปลก เช่นหิน Queen’s Head (女王頭) มีรูปร่างคล้ายหัวคน, หินที่มีรูปร่างคล้ายเห็ด, ขิง, รองเท้า ฯลฯ
เราเดินมาถึง Visitor Center ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และไม่มีที่ให้นั่งหลบฝน
เลยตัดสินใจว่าซื้อตั๋วเข้าไปด้านในก่อน ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 80 TWD ด้านหลังตั๋วจะมีแผนที่ และชื่อก้อนหินที่สำคัญ
นักท่องเที่ยวที่มาเย่หลิว ส่วนมากจะเป็นคนจีนกับคนไต้หวัน
ผ่านเข้าไปด้านใน เจอกับกองทัพร่มหลากสีเป็นจำนวนมาก
เดินไปไม่ไกลก็เจอกับทะเล
ก้อนหินรูปเสือดาว (The Leopard)
เป็นก้อนหินจำลองให้คนถ่ายรูป ส่วนก้อนหินของจริงจะอยู่ในน้ำ ใน 1 ปีจะเห็นก้อนหินของจริงเพียง 18 วัน ซึ่งจะเป็นวันที่ระดับน้ำลดลงต่ำมาก
รูปด้านบนเป็นเส้นทางเดินชมก้อนหิน เส้นทางหลักคนจะเยอะมาก แต่ในโซนย่อย คนจะน้อยลง
โซนก้อนหินรูปเห็ด (Mushroom rocks)
มีก้อนหินประมาณ 180 ก้อน รูปร่างคล้ายเห็ด มีแบบคอสั้น คอยาว และไม่มีคอ เราสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปกับก้อนหินได้อย่างใกล้ชิด แต่ไม่ควรที่จะไปโดนก้อนหิน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
ถึงฝนจะตกแต่ก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงซักเท่าไหร่
ในแต่ละโซนจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย
มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอยู่หลายมุม
เส้นทางเดินทำได้น่าสนใจมาก เห็นหินรูปร่างแปลกๆ เยอะ
รูพรุนของหินเกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะ
หินบางก้อนก็สูงคล้ายกับหน้าผาย่อมๆ
บางช่วงไม่มีที่กั้น ต้องระมัดระวังในการเดิน
มาตอนฝนตกก็มีข้อดีตรงที่ไม่ร้อน
เราใช้เวลาชมประมาณ 40 นาทีก็ครบหมด จากนั้นก็เดินออก
ออกมาก็จะเจอกับที่นั่งชมวิว มองเห็นทะเล ภูเขา ช่วงเย็นคงจะบรรยากาศดี
มีร้านค้า ขายของฝาก อาหารทะเลแห้ง
บรรยากาศคล้ายๆ ตลาดของฝากตามเมืองชายทะเลของประเทศไทย ส่วนมากเน้นไปที่อาหารทะเลแห้ง ลองดูราคาแล้วก็ไม่แพง แต่ซื้อบ้านเราน่าจะถูกกว่า และของพวกนี้มีกลิ่นด้วย คงไม่เหมาะที่จะซื้อกลับไทย
หมึกตากแห้ง หมึกทรงเครื่อง สาหร่ายทะเล
เดินมาเจอกับร้านของทอด มองหาอะไรที่พอทานเล่นได้ เห็นสาหร่ายทอดดูน่าทานดี เลยถามว่าราคาเท่าไหร่ ป้าไม่พูดตอบแต่หยิบเหรียญใส่ฝ่ามือมา 50 เป็นภาษาที่เข้าใจกันได้ง่ายๆ ระหว่างคนซื้อกับคนขาย
สาหร่ายทอดร้อน 50 TWD รสชาติเค็มๆ กรอบๆ กินตอนร้อนๆ อร่อยมาก
รูปด้านล่างจะเป็น Yehliu Ocean World สถานที่โชว์การแสดงปลาโลมา
มองดูฟ้า ฝน ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกง่ายๆ แถมยังตกเยอะขึ้นกว่าเดิม เราเลยตัดจิวเฟิ่น (Jioufen) ออกจากโปรแกรม แล้วเปลี่ยนแผนไปเดินห้าง SOGO ในไทเปแทน
ขากลับไปยังไทเปให้เดินย้อนไปที่เดิม จุดที่ลงรถบัส แต่ให้รอที่ฝั่งตรงข้ามแทน สาย 1815 เหมือนเดิม
ห้าง SOGO ในไทเปจะมีอยู่ด้วยกัน 4 สาขา สาขาที่เราจะไปนั้นเป็นสาขา Fuxing Store หรือที่คนไทยเรียกว่า SOGO เขียว* จะต้องลงรถที่ป้าย Zhongxiao Fuxing ป้ายนี้อยู่ก่อนถึงสถานี Taipei main Station
SOGO เขียว* เป็นชื่อที่ตั้งจากสีของตึกที่เป็นสีเขียว
ห้างนี้เป็นห้างใหญ่ในไทเป มีพื้นที่ของห้างถึง 14 ชั้น (ชั้น 1-11 และ B1-B3)
ข้าวมันไก่ชุดนี้ 160 TWD
ช่วงที่ไปถึงห้างเป็นมื้อกลางวันพอดี เลยฝากท้องที่ Food court ของห้าง ราคาอาหารจานเดียวอยู่ที่ 150 – 200 TWD แพงกว่าร้านข้างนอกพอสมควร
จากนั้นก็ช๊อปปิ้ง ของที่น่าซื้อในห้างนี้ก็เป็นรองเท้า Onitsuka Tiger, NB ทั้งสองยี่ห้อนี้ราคาเริ่มต้นที่พันปลายๆ และที่พิเศษไปกว่านั้น เมื่อซื้อสินค้าเกิน 3,000 TWD สามารถใช้สิทธิ์นักท่องเที่ยวทำ Vat refund ได้ด้วย
เดินไปแผนกกีฬาเจอเป้ Deuter รุ่น FOX 30 ราคาอยู่ที่ 2,788 TWD คำนวณเป็นเงินไทยได้ 3,038 บาท เลยซื้อเป้กลับมาด้วย เป้รุ่นนี้ไม่มีขายในไทย ส่วนรุ่น 30 ลิตรที่ขายในไทย ก็ราคา 4,000 บาทขึ้นไป
ผู้ที่เดินทางบ่อยๆ แนะนำเป้ Deuter ครับ ของคุณภาพดี ทนทาน สะพายแล้วไม่เมื่อย
เที่ยวรอบ Taipei main Station
จากสถานี Zhongxiao Fuxing เรานั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Taipei main Station หาที่เที่ยว – ช๊อปปิ้งแถวนี้ต่อ โดยเริ่มที่ Station Front Plaza ที่อยู่ใต้สถานี Taipei main Station
Station Front Plaza ของที่ขายก็มี เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น กระเป๋า ร้านอาหาร ฯลฯ
กระเป๋าเดินทางในนี้ขายถูกกว่าตลาดกลางคืน กระเป๋าล้อลากขนาด 20 นิ้ว ราคา 800-1,100 TWD ส่วนกระเป๋าผ้าใบใหญ่ ราคา 100-250 TWD เหมาะมากที่จะซื้อมาใส่ของโหลดกลับ
ออกจากสถานีที่ทางออก M6 พบว่าแถวนี้มีของกินน่าสนใจอยู่หลายอย่าง
ร้านทาร์ต PABLO ร้านนี้ดังมากในญี่ปุ่น จะซื้อทานต้องต่อแถวยาว และสาขาในไทเปก็เช่นเดียวกันต้องต่อแถว เข้าคิว ราคาทาร์ตอยู่ที่ 328 TWD ชิ้นใหญ่ประมาณแผ่น CD ทาร์ตเนื้อนุ่ม หอม อร่อย
ถัดจากร้านทาร์ต PABLO ไปนิดเดียวเป็น ร้านชาไต้หวัน Ten Ren Tea ขายชาแห้ง ชาพร้อมดื่ม และที่อยากให้ลองทานกันก็เป็นชาไข่มุก ของขึ้นชื่อของไต้หวัน ราคาประมาณ 65-75 TWD รสชาติอร่อยดีครับ แต่ก็คล้ายๆ กับที่ขายในบ้านเรา
วิธีการสั่งชาก็ไม่ยาก ขอเมนูภาษาอังกฤษแล้วก็ชี้ในสิ่งที่ต้องการ
และในร้านสะดวกซื้อก็มีชาแบบขวดขาย แม้ว่ารสชาติจะไม่เท่าชาที่ทำสด แต่ก็พอที่จะแก้ขัดได้
ทางผ่านก่อนกลับโรงแรมมีร้าน Daiso ขายสินค้าราคา 39 TWD ราคาถูกใกล้เคียงกับที่ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับซื้อของใช้แก้ขัด เช่น สายชาร์จ โทรศัพท์ เสื้อกันฝน ถุงใส่ของ ฯลฯ
ก่อนที่จะเข้าโรงแรมผ่านร้านขายหมั่นโถว น้ำเต้าหู้ ลองซื้อน้ำเต้าหู้มาทาน ราคาแก้วละ 13 TWD รสชาติเดียวกับบ้านเรา
เที่ยวไต้หวันมีอะไรอร่อยๆ ให้ทานเยอะเลยครับ ใครชอบอาหารรสชาติแบบจีนๆ มาไต้หวันไม่ผิดหวังแน่นอน
สำหรับรีวิวเย่หลิวใน 1 วันก็ขอจบเพียงเท่านี้ ถึงแม้ไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็สนุกไปอีกแบบ ได้เดินดูของเพลินๆ ชิมของอร่อยๆ ตอนหน้าเราจะเที่ยวในไทเปทั้งวัน คัดเฉพาะสถานที่สำคัญ ติดตามกันต่อนะครับ
อ่านตอนต่อไป –> รีวิวเที่ยวในไทเป 5 สถานที่เที่ยว ที่ไม่ควรพลาด
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวเย่หลิว ใน 1 วัน (ไม่รวมช๊อปปิ้ง)
- ค่าอาหาร 3 มื้อ 350 TWD
- รถบัส Taipei – Yehliu 96 + 91 = 187 TWD
- บัตรเข้าชม Yehliu Geopark 90 TWD
- อื่นๆ 200 TWD
: : รวมค่าใช้จ่ายคนละ 827 TWD
| .รีวิวเที่ยวไต้หวัน 6 วัน |
Post Views 31647
