วังสวนบ้านแก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จันทบุรี

วังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ตำบลท่าช้าง ห่างจากตัวเมือง 6 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 316 เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2493-2511 รวม 18 ปี พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นที่ดำเนินงาน ทั้งเป็นที่ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่างแก่พสกนิกรในพื้นที่นำไปใช้เป็นประโยชน์ต่อไป ที่สำคัญที่สุดพระองค์ทรงพัฒนาการทอเสื่อจันทบูรอันเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวจันทบุรีให้เจริญก้าวหน้ากว่าเดิม ทรงตั้งโรงทอเสื่อขึ้น ห่างจากพระตำหนักเพียง 200 เมตร ทรงออกแบบกระเป๋าถือและผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยเสื่อกก ปัจจุบันโรงทอเสื่อชำรุดทรุดโทรม คงเหลือเฉพาะอุปกรณ์บางชิ้น เช่น เตาย้อมกก อ่างแช่กก

สิ่งก่อสร้างในบริเวณวังสวนบ้านแก้ว ได้แก่

พระตำหนักใหญ่ (พระตำหนักเทา) เป็นอาคารสองชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้แบบยุโรป ทาสีเทา สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร ทรงออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง พระตำหนักนี้ทรงใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และรับรองพระราชอาคันตุกะ ปัจจุบันเป็นที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ซึ่งแสดงถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแบบสามัญ

พระตำหนักดอนแค (พระตำหนักแดง) เป็นอาคารทรงยุโรปสองชั้น สร้างด้วยไม้สัก ทาสีแดง เป็นที่ประทับสำหรับหม่อมราชวงค์สมัครสมาน กฤดากร ราชเลขานุการส่วนพระองค์และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ปัจจุบันพระตำหนักดอนแคได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ภายในจัดแสดงแบ่งออกเป็น 5 ห้อง ได้แก่ ห้องภูมิศาสตร์จันทบุรี ห้องดนตรี นาฏศิลป์ ห้องวัฒนาธรรมท้องถิ่น ห้องขุดพลอย ห้องภูมิปัญญาท้องถิ่น เรือนเขียว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระตำหนักเทา ประมาณ 200 เมตร เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ทาสีเขียว ยกพื้นสูง มีระเบียงหน้าบ้าน มีทางขึ้นลงได้สองทาง เป็นที่พักของราชเลขา ต่อมาเป็นเรือนประทับของพระประยูรญาติ ปัจจุบันเป้นสำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชนของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

เรือนแดง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระตำหนักเทา เป็นที่ประพักของพระประยูรญาติ และหม่อมราชวงค์บัณฑิตย์จักรพันธุ์ ปัจจุบันจัดเป็นห้องให้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ฯลฯ

นอกจากนั้นภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีจัดเป็นอุทยานการเรียนรู้ เป็นป่าธรรมชาติภายในมหาวิทยาลัยฯ มีพื้นที่ 50 ไร่ จัดเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป่าอนุรักษ์พันธุกรรมพืช มี 2 ส่วน ได้แก่ ทางบก ระยะทาง 440 เมตร และทางน้ำ ระยะทาง 700 เมตร

วังสวนบ้านแก้ว เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้าได้ที่ สำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี โทร. 0 3947 1064, 0 3931 9111 ต่อ 7000-1 www.rbru.ac.th

ที่มา. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Post Views 4685

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *