เชียงคาน เลย

เชียงคาน เป็นเมืองขนาดเล็ก ริมแม่น้ำโขง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเลย ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี และการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย แบบพอเพียง ซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบัน ทำให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ภาพเรือนไม้เก่าแก่ตั้งเรียงแถวเป็นแนวยาวอยู่ริมถนนชายโขง ดึงดูด ให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางกันมาที่นี่ บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอยย่อย เรียกว่า ถนนศรีเชียงคาน ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เริ่มตั้งแต่ถนนศรีเชียงคาน ซอยที่ 1- 24 แบ่งเป็นถนนศรีเชียงคาน ฝั่งบนกับฝั่งล่างซึ่งชื่อซอยเหมือนกัน

เชียงคานเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นสบายในช่วงปลายฝนไปจนถึงฤดูหนาว ทั้งหมดนี้คือเสน่ห์อันแสนเรียบง่ายของเชียงคานจังหวัดเลย จนทำให้ผู้คนนิยมมาพักผ่อนท่องเที่ยวกัน

ปัจจุบันแม้ว่าบ้านเรือนอาคารต่าง ๆ ภายใน เชียงคาน จะปรับปรุงหรือดัดแปลงมาทำโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายโปสต์การ์ด ฯลฯ แต่ความเป็นเชียงคาน ก็ยังคงวัฒธรรมการตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้า ในช่วงเวลาประมาณ 06.00- 06.30 น. จะมีผู้คนมารอใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้าเป็นประจำทุกวัน

วัดศรีคุณเมือง

วัดศรีคุณเมือง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2485 ตั้งอยู่ถนนชายโขง ซอย 7 ทางด้านเหนือของตลาดเชียงคาน วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็กพระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25

นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์ไม้แกะสลักลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติ ซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม

วัดท่าคก

วัดท่าคก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2395 ตั้งอยู่ถนนชายโขง ซอย 20-21 อุโบสถเป็นศิลปะล้านช้าง เดิมวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเป็นคุ้งน้ำวน ภาษาท้องถิ่น เรียกว่า “คก” จึงใช้ตั้งชื่อว่า “วัดท่าคก” จากศิลาจารึกกล่าวว่า พระศรีอรรคฮาต และชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดขึ้น มีพระประธานปูนปั้นพระพุทธรูปทองเหลือง พระเขี้ยวแก้ว พระพุทธรูปแกะด้วยไม้ และศิลาจารึกรูปใบพายเป็นหินทราย

แก่งคุดคู้

แก่งคุดคู้ ลักษณะเป็นแนวก้อนหินใหญ่ขวางกลางลำน้ำโขงยื่นออกมาจากทางฝั่งลาว ประกอบด้วย หินก้อนใหญ่ เป็นจำนวนมาก จากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสันต่างๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปตามช่องแคบ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งทำให้น้ำไหลเชี่ยวแรงในหน้าน้ำ

เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูแล้งน้ำแห้งมองเห็นเกาะแก่งชัดเจนมีโค้งสันทรายริมแม่น้ำ หาดหินแม่น้ำสวย ชาวบ้านจะไปเปิดร้านค้าอยู่บนทรายทรายด้านล่าง ที่นี่มีบริการล่องเรือชมแม่น้ำโขง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมนูขึ้นชื่อของที่นี่จะเป็นปลาแม่น้ำโขง กุ้งตัวเล็กๆ ที่จับได้ในแม่น้ำโขง และน้ำเสาวรส ของฝาก กล้วยฉาบ, มะพร้าวแก้ว, มะขามคลุกน้ำตาล

จุดชมทะเลหมอกภูทอก

ภูทอก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงคาน ลักษณะเป็นภูเขาสูง ด้านบนยอดเขาเป็นที่ตั้งสถานีโทรคมนาคมของเชียงคาน มีเสน่ห์ดึงดูดอยู่ที่เป็น จุดชมวิว ชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยผ้าห่มหมอก หากได้มองจากยอดภูทอกจะเห็นเป็นทะเลหมอกได้แบบรอบทิศเลยทีเดียว

การเดินทาง

ไม่เหมาะที่จะขับรถขึ้นไป เพราะอันตรายเส้นทางคดเคี้ยวถ้าไม่ชำนาญทาง อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ด้านล่างก่อนขึ้นภูมีรถบริการรับส่งขึ้นถึงยอดภู ราคาขึ้นและลงรวมกัน 30 บาท ต่อคน

พระใหญ่ภูคกงิ้ว

พระใหญ่ภูคกงิ้ว เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองติดกับแม่น้ำโขง เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2542 และในมหามงคลแห่งราชพิธิราชาภิเษก ครบ 50 ปี พ.ศ. 2543 สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2544 บริเวณโดยรอบสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำโขง และประเทศลาวได้

การเดินทาง

จากตัวเมืองเลยทางหลวงหมายเลข 201 (เลย เชียงคาน) ไป 47 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกตรงไปจนถึงบ้านท่าดีหมี่ แล้วเลี้ยวขวาที่โรงเรียนบ้านท่าดีหมี่ ไปอีกประมาณ 2 กม.

การเดินทางไปเชียงคาน
รถยนต์ : เส้นทางที่ 1

ระยะทาง 582 กม. ออกจากกรุงเทพฯ ทางวิภาวดี-รังสิต ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) มุ่งหน้าไปทาง สระบุรี เมื่อถึงสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าไปทาง ลพบุรี เพชรบูรณ์ เมื่อถึงแยกหล่มสัก ตรงขึ้นไป อ.ด่านซ้าย อ.ภูเรือ (ถนน 203) ก่อนจะถึงเมืองเลยให้เลี้ยวซ้ายไป อ.เชียงคาน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 8 ชั่วโมง ครึ่ง

เส้นทางที่ 2

ระยะทาง 613 กม. ออกจากกรุงเทพฯ ทางวิภาวดี-รังสิต ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) มุ่งหน้าไปทาง สระบุรี เมื่อถึงสระบุรี ให้เลี้ยวขวาไปปากช่อง ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านเขื่อนลำตะคอง เลี้ยวซ้ายที่แยกมิตรภาพ ไปทางถนน 201 ด่านขุนทด  ชัยภูมิ เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย (ถนน 201) ไปทาง อ.แก่งคร้อ  อ.ภูเขียว  อ.ชุมแพ  ภูกระดึง  วังสะหุง  อ.เมืองเลย จำง่ายๆว่าตั้งแต่แยกมิตรภาพ ใช้ถนน 201 ยาวไปถึงเชียงคานเลย ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมง

รถโดยสาร : บริษัทขนส่ง จำกัด

  • รถปรับอากาศ ม.2 กรุงเทพฯ > เชียงคาน เวลา 20.00 น.
  • รถปรับอากาศ ม.2 เชียงคาน > กรุงเทพฯ เวลา 18.40 น.
  • รถปรับอากาศ VIP กรุงเทพฯ > เชียงคาน เวลา 22.00 น.
  • รถปรับอากาศ VIP เชียงคาน > กรุงเทพฯ เวลา 19.30 น.

บริษัทแอร์เมืองเลย

  • รถปรับอากาศ ม.1 กรุงเทพฯ > เชียงคาน เวลา 7.30 น. และ 19.30 น.
  • รถปรับอากาศ ม.1 เชียงคาน > กรุงเทพฯ เวลา 8.00 น. และ 18.30 น.

บริษัทภูกระดึงทัวร์

  • รถปรับอากาศ ม.2 กรุงเทพฯ > เชียงคาน เวลา 19.30 น.
  • รถปรับอากาศ ม.2 เชียงคาน > กรุงเทพฯ เวลา 19.00 น.

Post Views 1016

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *