ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle / 姫路城) ถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงามและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) และเป็น สมบัติประจำชาติ (National Treasure) ของญี่ปุ่น

ระยะเวลาการสร้างปราสาทค่อนข้างยาวนาน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1333 เริ่มแรกสร้างเป็นป้อมปราการ ป้องกันข้าศึก อยู่บนเนินเขาฮิเมะยามา (Himeyama) แล้วมีการต่อเติมเป็นตัวปราสาทมาเรื่อยๆ จนถึงปี ค.ศ. 1601 Ikeda Terumasa เป็นผู้สร้างตัวปราสาทคนสุดท้าย เป็นปราสาทที่มีหน้าตาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ในปี ค.ศ. 1945 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการโจมตีทางอากาศ เมืองฮิเมจิได้รับความเสียหายมาก แต่ตัวปราสาทฮิเมจิกลับไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ปราสาทฮิเมจิจึงเป็นปราสาทที่เก่าแก่ ดั้งเดิม ไม่ใช่ปราสาทสร้างใหม่ มีโครงสร้างหลักเป็นของเดิมที่อายุกว่า 400 ปี และในปี ค.ศ. 1993 ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ปี ค.ศ. 2009-2015 มีการซ่อมภายในปราสาทครั้งใหญ่ และหลังจากนั้นถึงได้เปิดให้เข้าชม

วิวปราสาทจากด้านหน้า

ข้อมูลพื้นฐานของปราสาทฮิเมจิ

• ชื่อญี่ปุ่น: 姫路城 (Himeji-jō)
• ชื่อเล่น: ปราสาทนกกระยางขาว (White Heron Castle) เพราะตัวปราสาททาด้วยปูนขาวและมีโครงสร้างที่ดูสง่างามคล้ายนกกระยางขาวกำลังจะโบยบิน
• ที่ตั้ง: เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo Prefecture)
• ปีที่สร้าง: เริ่มก่อสร้างครั้งแรกในปี 1333 (ยุคปลายคามาคุระ) และปรับปรุงขนาดใหญ่ในปี 1609 โดยโทคุงาวะ อิเอยาสุ
• ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้าง: อิเคดะ เทรุมาสะ (Ikeda Terumasa)

สถาปัตยกรรมและโครงสร้าง

• ตัวปราสาทมี หอคอยหลัก (Tenshukaku) สูง 5 ชั้น (มองจากภายนอก), แต่มี 6 ชั้นจริง (รวมชั้นล่างใต้ดิน)
• ระบบป้องกันการโจมตีมีความซับซ้อน เช่น ทางเดินเขาวงกตที่บังคับให้ศัตรูหลงทาง, ช่องยิงธนู ช่องยิงปืนบนกำแพง (Sama), ประตูจำนวนมากที่ควบคุมเส้นทางการเข้าถึง
• วัสดุหลัก: ไม้สนและผนังปูนขาว (ป้องกันไฟได้ระดับหนึ่ง)
• ไม่มีการติดตั้งกระเบื้องทองเหมือนปราสาทโอซาก้า แต่เน้นความเรียบง่ายและสมจริง

ทางเดินภายในที่ซับซ้อน

จุดที่น่าสนใจภายในปราสาท

• หอคอยหลัก (Tenshu): วิวเมืองฮิเมจิจากชั้นบนสุด
• ป้อมปืนและทางเดินเขาวงกต ที่ออกแบบมาให้ศัตรูสับสน
• สวน Koko-en: สวนญี่ปุ่นใกล้กับตัวปราสาท สร้างในสมัยใหม่แต่จำลองตามแบบเอโดะ
• กำแพงหิน (Ishigaki): ตัวอย่างเทคนิคการก่อหินแบบโบราณ
• ศาลเจ้าโอซากะเบะ จินจะ (Osakabe-jinja Shrine) อยู่ที่ชั้น 6 ของปราสาท

วิวเมืองฮิเมจิจากปราสาท

ของใช้เก่าในปราสาท

ศาลเจ้าโอซากะเบะ จินจะ (Osakabe-jinja Shrine)

เทคนิคการเรียงหินเพื่อป้องกันข้าศึกปืนขึ้นมา ด้วยการเพิ่มส่วนโค้ง (Fan curve) ที่ปลายกำแพงด้านบนทำให้กำแพงชันขึ้น

สวนโคโคเอง (Kokoen : 好古園)

เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ไม่ไกลกับปราสาทฮิเมจิ สวนแห่งนี้ไม่ได้เป็นสวนเก่า เปิดให้ชมเมื่อปี ค.ศ. 1992 ภายในสวนโคโคเอง แบ่งเป็นสวนย่อยๆ 9 สวน สร้างตามสไตล์เอโดะ

ภายในมีน้ำตกจำลอง สระน้ำ ร้านอาหาร มีพิธีการดื่มชาตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนนี้ได้

มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก แนะนำให้ซื้อบัตรเข้าชมพร้อมปราสาทฮิเมจิ

การเดินทางจากโอซาก้า / เกียวโต

• โดย JR Sanyo Shinkansen: ลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากโอซาก้า
• จากสถานี Himeji เดินประมาณ 15-20 นาที หรือขึ้นรถบัสท้องถิ่นไปยังหน้าปราสาท

ค่าเข้าชม

• ค่าเข้าชมปราสาท: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน / เด็ก 300 เยน
• ค่าเข้าชมปราสาทรวมสวน Koko-en: ผู้ใหญ่ 1,050 เยน / เด็ก 360 เยน

เวลาเปิดทำการ

• เวลา: 09:00 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:00)
• ปิด: วันที่ 29 – 30 ธันวาคมของทุกปี

 

Post Views 27