รีวิวยูฟูอิน Yufuin เมืองออนเซนรีสอร์ท ชมวิวริมทะเลสาบ Kinrinko

จากตอนที่แล้ว –> รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น 8 วัน บินการบินไทย เที่ยวฟุกุโอกะ – คิวชูตอนเหนือ

วันนี้เป็นวันที่ 2 ของทริปคิวชู เราจะไปเที่ยวที่เมืองยูฟูอินกัน เริ่มจากตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า อาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เช็คเอ้าต์ และขอฝากกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบไว้กับโรงแรม อีก 3 วันเราจะกลับมาพักที่นี่ใหม่ ส่วนสัมภาระจำนวน 3 วันแราแบ่งใส่เป้ขนาด 30 ลิตรไป

โปรแกรมเที่ยวยูฟูอิน (Yufuin) ในวันนี้ (เปิดใช้ JR Kyushu Northern วันแรก)

  • 7:45 – 10:01 น. นั่งรถไฟ Hakata – Yufuin
  • 10:02 – 12:30 น. เดินเที่ยวในยูฟูอิน, ถนนคนเดิน, Yufuin Floral Village, ดูใบไม้เปลี่ยนสีทะเลสาบ Kinrinko
  • 12:30 – 13:43 น. นั่งรถไฟไปสถานี Oita
  • 13:44 น. เดินเล่นใน Oita พักโรงแรม HOTEL MYSTAYS Oita

เช้าวันนี้อากาศเย็นสบายอุณหภูมิตอนเช้าประมาณเกือบ 10 องศา มื้อเช้าเราซื้อข้าวกล่องที่ร้าน Ekibento ในสถานี JR Hakata ไปทานบนรถไฟ จากนั้นก็เข้าในสถานี ด้วยการโชว์ JR Kyushu ให้เจ้าหน้าที่ดู

การเดินทางจากสถานี Hakata ไป Yufuin

เราไม่สามารถจองที่นั่งรถไฟ Yufuin no Mori และ Yufu ได้ เนื่องจากที่นั่งเต็ม ทางเลือกสุดท้ายของเราก็คือเดินทางด้วยรถไฟ Yufu 1 รอบ 7:45 น. โดยขึ้นตู้ Non-reserved seat ซึ่งจะเป็นตู้ที่ 3 และ 4 จุดยืนรอให้ดูตามป้ายในรูปด้านล่าง ดูป้ายสีแดง แนะนำว่าให้ไปยืนต่อแถวก่อนเวลารถไฟมา 15 นาที แบบนี้มีโอกาสได้ขึ้นรถไฟก่อนคนอื่น

7:40 น. ขบวนรถไฟ Yufu 1 ก็มาถึง เป็นรถไฟสีแดงเครื่องยนต์ไฟดีเซล มีชื่อเต็มว่า 185 Aso Yufu Express ปลายทางอยู่ที่สถานี Beppu รถไฟขบวนนี้เวลาวิ่งจะมีเสียงเครื่องยนต์ดังบ้างเพราะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบรถไฟบ้านเรา ที่ไม่ใช้ระบบไฟฟ้าเพราะปริมาณผู้โดยสารรถไฟไม่มากพอที่จะลงทุนระบบไฟฟ้าตลอดเส้นทาง

Yufu1 Train

สถานีใหญ่ที่รถไฟ Yufu วิ่งผ่าน Hakata – Tosu – Kurume – Hita – Yufuin – Oita – Beppu

ภายในรถไฟตกแต่งด้วยวัสดุไม้ เบาะกํามะหยี่สีเขียว โทนสีธรรมชาติ

เบาะที่นั่ง นั่งฝั่งละ 2 ที่นั่ง ที่นั่งกว้าง บนหัวมีที่เก็บของ ถึงจะไม่สวยงามเท่ารถไฟ Yufuin no Mori แต่ก็นั่งได้สบาย เบาะกว้าง

บนรถไฟมีห้องน้ำ ที่ล้างมือ

หลังจากรถไฟออกได้สักพัก เราไม่เห็นว่ามีใครทานข้าวกันเลย แต่มีกินขนมปัง ของกินเล่น ทำเอาเราไม่กล้ากิน กลัวจะรบกวนคนอื่น เลยเปลี่ยนจากเบนโตะเป็นครัวซองต์รองท้องไปก่อนละกัน แล้วค่อยเอาเบนโตะมากินที่ยูฟูอิน

 

รถไฟวิ่งออกนอกเมืองไปเรื่อยๆ จากเมืองเป็นชนบท ในพื้นที่ห่างไกลเราจะเห็นนาข้าว ฟาร์ม การเกษตรเยอะมาก ขอเล่าเรื่องการเกษตรในญี่ปุ่นไว้เป็นความรู้เบาๆ ก่อนที่จะถึงยูฟูอิน

การเกษตรในญี่ปุ่น

รัฐบาลมีการสนับสนุนการทำการเกษตร เนื่องจากภูมิประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะปิด จึงต้องเน้นแหล่งอาหารในประเทศ สร้างความมั่นคงทางอาหาร และด้วยระบบภาษีที่ดิน ที่ใครมีที่ดินเปล่าจะต้องถูกเก็บภาษีในเรทที่แพงมาก ที่ดินจึงไม่ถูกปล่อยว่างไปเปล่าๆ

ชาวนาญี่ปุ่น บางคนไม่ได้ทำนาตลอดทั้งปี เป็นแค่งาน Part time ของคนมีที่ดิน และที่ดินของแต่ละครอบครัวจะมีไม่มาก ไม่ได้เยอะเป็นสิบๆ ไร่แบบคนต่างจังหวัดบ้านเรา เค้าจึงใช้เวลาในการทำนาไม่มาก มีการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยตั้งแต่การดำนา จนถึงการเก็บเกี่ยว – สีข้าว ไม่ต้องใช้คนเยอะ มีระบบชลประทานที่ดี ส่งตรงถึงที่นา ไม่ต้องรอฟ้า รอฝน

สิ่งที่ช่วยพัฒนาการเกษตรในญี่ปุ่น คือการรวมตัวกันของเกษตรกรในรูปแบบสหกรณ์ (JA) เพิ่มอำนาจต่อรอง และตัดตอนพ่อค้าคนกลาง มีการจัดการผลผลิตที่ดีไม่แย่งกันปลูกจนสินค้าล้นตลาด และโดยนิสัยคนญี่ปุ่นนั้นชอบที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ ขายได้ราคา

ในรูปด้านล่างจะเห็นระบบชลประทานที่เข้าถึงในที่นา

วิวข้างทางสวยๆ ทุ่งนาและภูเขา ทำให้ระยะเวลา 2 ชั่วโมง 16 นาที จาก Hakata ถึง Yufuin ดูไม่นาน

Yufuin Station

10:01 น. รถไฟมาถึงที่สถานี Yufuin ตรงตามเวลา ในความโชคร้ายที่ไม่ได้นั่ง Yufuin no Mori ก็มีความโชคดีตรงที่ถึง Yufuin เร็ว มีเวลาเที่ยว ทำอะไรเยอะ

บ่อแช่เท้า

ในสถานี Yufuin มีที่ให้นั่งแช่เท้าด้วย (เสียเงิน) บ่งบอกถึงความเป็นเมืองแห่งออนเซ็น

ตอนนี้เรามีกระเป๋าเป้อยู่กับตัว เราจะเอาไปฝากที่ Locker ก่อน เที่ยวใน Yufuin เสร็จแล้วค่อยมาเอากระเป๋า

Locker บริเวณสถานี Yufuin มีอยู่ 3 ที่

  1. ในห้องรอรถไฟ (ในสถานี)
  2. หน้าสถานี (ด้านนอก)
  3. ในร้านของฝากฝั่งตรงข้ามสถานี

เราเอากระเป๋าเป้ไปฝากใน Locker ที่อยู่ในห้องรอรถไฟ (ในสถานี) ตามรูปด้านบนจะอยู่ด้านในประตูที่มีไฟสีเขียวด้านหน้า

Locker

ตู้มี 2 ขนาด size เล็ก 300 เยน, ใหญ่ 500 เยน กระเป๋าเป้ 30 ลิตรของเราใส่ช่อง 300 เยนได้แบบเหลือๆ

ขั้นตอนการฝากกระเป๋า

  1. หาตู้ที่ว่าง ดูได้จากไฟเขียว
  2. นำของใส่ Locker ปิดตู้
  3. เลือกภาษา English ที่หน้าจอ Confirm หมายเลขตู้ของเรา
  4. หยอดเหรียญตามราคาหน้าตู้
  5. รอรับเงินทอน (ถ้ามี)
  6. รอรับสลิป ในนั้นจะมีรหัส (PIN) ในการเปิดตู้อยู่ ห้ามทำหายเด็ดขาด แนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้

ขั้นตอนการรับกระเป๋าคืน

  1. เลือกภาษา English
  2. กดที่หน้าจอเลือกรูปนำกระเป๋าออก
  3. ใส่ PIN ตู้จะเปิดออก

สลิปฝากของ Locker หมายเลข PIN จะอยู่ด้านล่าง

Bento

ฝากกระเป๋าเสร็จ ได้เวลาทานข้าวเช้า เป็น Bento ที่ซื้อมาจากสถานี Hakata ชุดนี้ 830 เยน ราคาเงินไทยก็ 830 x 0.32 = 265 บาท หน้าตาสวย รสชาติพอได้ครับ จะไม่อร่อยก็ตรงที่มันเย็น

อิ่มท้องแล้ว พร้อมที่จะเดินทางเที่ยวรอบๆ Yufuin

ยูฟูอิน (Yufuin : 由布院)

เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงด้านออนเซนรีสอร์ท อยู่ในจังหวัดโออิตะ (Oita) บรรยากาศดีมีภูเขาล้อมรอบ และมีแม่น้ำ Yufu อยู่ในเมือง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวแบบเช้าไป – เย็นกลับ จากเมืองข้างเคียงได้ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจดังนี้

  1. ถนนคนเดิน Yunotsubo เป็นถนนที่มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบ Kinrinko สองข้างทางจะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และ คาเฟ่
  2. ทะเลสาบ Kinrinko เป็นทะเลสาบเล็กๆ เดินจากสถานี Yufuin ประมาณ 25 นาที เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของ Yufuin ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จะมีใบไม้เปลี่ยนสีรอบทะเลสาบ
  3. Yufuin Floral Village เป็นหมู่บ้านจำลอง ภายในมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูป และร้านขายของที่ระลึก

สถานี Yufuin

ด้านหน้าสถานี Yufuin จะมีรถให้บริการหลายชนิด รถ Taxi, รถม้า, รถสไตล์ Retro และ รถที่ใช้คนลาก ทั้งหมดนี้ไม่ได้กินเงินเราซักบาทเพราะเราจะเดินอย่างเดียว

ร้านของฝากฝั่งตรงข้ามสถานี ร้านนี้ก็มีตู้ Locker ฝากกระเป๋า

รถม้า ม้าตัวใหญ่มาก ลากรถที่มีคนนั่ง 8 คน

Yufuin

วิวที่ด้านหน้าสถานี Yufuin เห็นภูเขายูฟู (Mt. Yufu) ลูกใหญ่อยู่เบื้องหน้า

Yufuin Bus Terminal

Yufuin Bus Terminal อยู่ถัดจากสถานีรถไฟไปนิดเดียว มีรถบัสไปสนามบิน Fukuoka, Hakata และ Beppu มาทางรถบัสก็สะดวกดี

ระหว่างทางก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากให้เดินดูกันเพลินๆ

ร้านขายร่ม

ร้านขายร่ม ร่มร้านนี้จะพิเศษตรงที่เวลาเปียกน้ำจะเห็นลวดลายขึ้นมา แต่ราคาก็ไม่เบาเหมือนกัน

เดินมาจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำ มุมนี้วิวสวยเห็นภูเขาล้อมรอบเมืองยูฟูอิน มีแม่น้ำ และใบไม้เปลี่ยนสี

ในรูปด้านบนเป็นร้าน B-Speak ร้านโรลเค้กชื่อดังของเมือง Yufuin โรลเค้กที่ขายจะมีอยู่ 2 รส ได้แก่รสธรรมดาและช๊อกโกแลต ขนาดเล็กราคา 475 เยน ขนาดใหญ่ 1,420 เยน เนื้อเค้กนุ่ม แพคเกจสวย ในช่วงวันหยุด คนมาซื้อเยอะขนาดที่ว่าคิวรอซื้อยาวออกมาจากร้านเลย และ ขายหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ร้านอาหาร หรือ ร้านขนมในญี่ปุ่นที่ดังๆ มักจะทำในของที่ตัวเองถนัดเพียง 1-2 อย่าง ทำให้ดี แพคเกจสวยงาม ปรับปรุงรสชาติให้ถูกปากคนมากที่สุด ร้านสไตล์นี้จะดังกว่าร้านที่ทำอะไรหลายๆ อย่าง

ร้าน Kitty

ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มันจะมีร้าน Kitty อยู่ด้วย ใน Yufuin ก็เช่นกัน

ร้านนี้มีตุ๊กตาโตโตโร่ (Totoro) ขนาดใหญ่ เป็นตัวการ์ตูนจากสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ไว้คอยเรียกแขกเข้าร้าน

ร้านทาโกะยากิยักษ์ ทำขายขนาดใหญ่มาก ประมาณลูกเทนนิส ราคาลูกละ 440-470 เยน

ร้านขายของแต่งบ้าน

Yufuin Floral Village

Yufuin Floral Village หมู่บ้านจำลอง ภายในมีร้านขายของ คาเฟ่นกฮูก สามารถเข้าไปถ่ายรูปกับนกได้ และค่าเฟ่แมว ไฮไลต์จะเป็นแมวลายเสือ

ร้านขายของที่ระลึก

มุมถ่ายรูปสวยๆ

คาเฟ่แมว ค่าเข้า 780 เยน (มีเครื่องดื่ม 1 อย่าง), คาเฟ่นกฮูก ค่าเข้า 600 เยน

แกลลอรี่ ขายรูปภาพ

แกลลอรี่

ใช้เวลาในการเดินชม Yufuin Floral Village ประมาณ 20 นาที ก็ครบทุกจุด จากนั้นก็ออกมาที่ถนนเส้นหลัก

บรรยากาศที่ถนนคนเดินในยูฟูอิน ค่อนข้างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวตลอดทาง ทั้งชาวญี่ปุ่น ทัวร์จีน ส่วนคนไทยนานๆ จะเจอที

ร้านค้าในนี้จะตกแต่งไปใน theme เดียวกัน สวยๆ หลายร้าน

เจอรถสีเหลืองในรูปด้านบนถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดถนนคนเดิน ถ้าเดินต่อจากนี้ไปอีก 15 นาทีก็จะถึงทะเลสาบ Kinrinko เป็นจุดชมวิว ชมธรรมชาติที่สวยแห่งหนึ่งในยูฟูอิน

สะพานข้ามลำธารข้างทะเลสาบ มีใบไม้แดง ใบไม้เหลืองหลายต้น ต้นไม้ที่นี่ไม่ค่อยสามัคคีกันกันเท่าไหร่ บางต้นกำลังเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลือง บางต้นแดงจนร่วงจะหมดต้น ต่างกับที่เกียวโต เมืองนั้นจะแดงไล่เลี่ยกันหมด

ใครที่ตั้งใจมาดูใบไม้แดงที่คิวชู ให้ทำใจไว้ล่วงหน้า เมืองนี้ไม่โดดเด่นเรื่องใบไม้เปลี่ยนสี แต่ถ้าเป็นซากุระก็พอจะสวยสู้เมืองอื่นได้อยู่

ด้านหน้าทะเลสาบมีทางเดินชมวิว

อาคารที่อยู่ติดทะเลสาบเป็นที่พักที่มีชื่อว่า Pension Kinrinko Toyonokuni ภายในมีร้านอาหารฝรั่งเศส และห้องอาบน้ำออนเซน ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมาก ประมาณ 9,000-1x,xxx บาท ต่อคืน บรรยากาศดีมาก เป็นห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น ถ้าใครชอบลองเช็คราคาในนี้

Pension Kinrinko Toyonokuni

น้ำในทะเลสาบใสมากมองเห็นพื้นดินใต้ทะเลสาบ มีปลาคาร์ฟว่ายอยู่ในทะเลสาบด้วย

ถึงแม้ว่าจะเป็นทะเลสาบเล็กๆ แต่วิวรอบๆ ก็สวยมาก มายูฟูอินไม่ควรพลาดทะเลสาบ Kinrinko

ขากลับเราเดินย้อนทางเดิม ผ่านถนนคนเดิน จนมาถึงสถานี Yufuin เอากระเป๋าคืนจาก Locker รวมแล้วเราใช้เวลาเดินเที่ยวในยูฟูอินทั้งหมดเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง เป็นการเที่ยวแบบเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ แต่ก็ไม่ได้แวะที่ไหนนานเป็นพิเศษ

หลังจากนี้เราจะเดินทางไปเมือง Oita พักที่เมืองนี้ สาเหตุที่ไม่พักใน Yufuin เพราะที่พักใน Yufuin มีน้อย และราคาค่อนข้างแพง ข้อดีอีกอย่างในการพักที่ Oita คือใกล้กับเมือง Beppu เมืองที่เราจะไปเที่ยวในวันรุ่งขึ้น

เดินเข้าสถานีรถไฟ Yufuin เจอรถไฟ JR Kyudai Line ที่จะไป Oita จอดรออยู่พอดี เป็นรถไฟที่ขบวนสั้นมากมีเพียง 1 ตู้เท่านั้น คงเป็นเพราะผู้โดยสารที่ค่อนข้างน้อย

ที่นั่งในรถไฟมีทั้งแบบนั่งหันข้าง และนั่งหันไปด้านหน้า

ระหว่างที่รอรถไฟออก ก็มี Yufuin no Mori 3 มาจอดเทียบข้างๆ เป็นรถไฟที่สวยมาก เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้นั่ง

เปิดตารางรถไฟดู Yufuin no Mori 3 กำลังมุ่งหน้าไป Oita และสถานีสุดท้ายที่ Beppu เราก็ไม่ได้ลองจองดูซะด้วย ดูแล้วเส้นทางนี้น่าจะมีโอกาสได้นั่งมากว่า Hakata – Yufuin

หลังจากที่ Yufuin no Mori 3 ออกไป รถไฟเราถึงออกตาม คาดว่าของเราคงหลีกทางให้ Yufuin no Mori 3 ไปก่อน เพราะของเค้ามีศักดิ์ถึง Limited Express

จาก Yufuin ไป Oita จะใช้เวลาเดินทาง 57 นาที วิวข้างทางก็เป็นทุ่งนา ภูมิภาคนี้ประชากรส่วนมากจะกระจุกอยู่ตามเมืองใหญ่

13:40 น. ถึงสถานี Oita เรามีเวลาเหลือค่อนข้างเยอะ เดินเล่นใน Oita กันต่อละกัน

ตามธรรมเนียมของเรา เมื่อถึงเมืองไหน ก็ต้องมีข้อมูลของเมืองนั้นให้ฟังพอสังเขป ไว้เป็นความรู้นอกห้องเรียน

โออิตะ (Oita : 大分県)

จังหวัด Oita ประกอบด้วย 14 เมือง เมืองที่ดังๆ เรื่องการท่องเที่ยวก็มี Yufuin และ Beppu ส่วนเมืองหลวงของจังหวัด Oita ก็มีชื่อว่าเมือง Oita คือพื้นที่ตรงสถานี Oita เมืองนี้ไม่โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก

Oita ต้นกำเนิด OTOP

ใน Oita มีโครงการที่ชื่อว่า OVOP (One Village One Product) เป็นโครงการของชาวบ้านในหมู่บ้านโอยาม่า ที่ส่งเสริมการปลูกบ๊วยและเกาลัด (บ๊วยใหม่และเกาลัด) และผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร จนมีสินค้าขายนับร้อยชนิด ขายในชุมชน และ ขายที่ร้านค้าริมทาง โครงการนี้ช่วยสร้างรายได้ และลดการย้ายถิ่นฐานของชาวบ้านไปอยู่ในเมืองใหญ่

ด้วยโมเดลของ OVOP มีการนำไปใช้ในไทย ภายใต้ชื่อ OTOP (โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์) หรืออาจจะกล่าวได้ว่า  OVOP ของญี่ปุ่นนั้นเป็นต้นแบบของ OTOP

สถานีนี้ตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนสุนัขสีดำ ชื่อว่า KURO

สถานี Oita เป็นสถานีใหญ่ มีห้าง, Supermarket, ร้านอาหาร ร้านครัวซองต์ชื่อดัง il FORNO del MIGNON และยังมีโรลเค้ก B-Speak จำหน่ายด้วย ถ้าพลาด B-Speak ที่ Yufuin ก็สามารถมาซื้อที่นี่ได้ ไม่ต้องแย่งกับใครด้วย

B-speak

ในรูปด้านล่างจะเป็นของร้านของฝากเมือง Oita ส่วนมากจะเป็นขนม มีหลากหลายมาก สมกับเป็นเมือง OVOP เหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝาก และถ้าเดินลึกเข้าไปด้านในจะเป็น Supermarket มีของกินเยอะ ข้าวกล่อง และผลไม้ก็มีขาย

คืนนี้เราจะพักโรงแรม HOTEL MYSTAYS Oita (ชื่อเดิม Best Western Hotel Fino Oita) เป็นโรงแรมที่อยู่ห่างจากสถานี Oita ประมาณ 850 เมตร ระยะทางเหมือนจะเดินไกล แต่ให้ความรู้สึกว่าไม่ไกล เพราะระหว่างทางมีถนนคนเดิน ร้านค้า ที่ช๊อปปิ้งตลอดทาง

สถานี Oita

Oita station

การเดินทางไปโรงแรม HOTEL MYSTAYS Oita จากสถานี Oita เจอไฟแดงให้ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ และเดินไปจนเจอไฟแดงที่สอง จะเห็นโรงแรมอยู่ตรงสี่แยก

รูปบนเป็นไฟแดงแรก ให้ข้ามถนนไฟฝั่งตรงข้าม

ที่เสาไฟมีการประดับไฟในเทศกาลคริสต์มาส

ที่ฝั่งตรงข้ามมีถนนคนเดิน セント ポルタ 中央町 ขอเข้าไปแวะหน่อย เป็นถนนคนเดินที่ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว

Daiso สาขานี้ใหญ่มาก มีของเยอะ สินค้าราคาเริ่มต้นที่ 100+ vat 8 = 108 เยน ราคาประมาณ 35 บาท (เรท 100 เยน : 32 บาท) สินค้ามีหลากหลายกว่าสาขาในไทย อีกทั้งยังราคาถูกกว่า

ร้านขายยา เครื่องสำอางก็มี ร้านใหญ่ คนไม่เยอะ เลือกซื้อได้อย่างสบาย

ร้านซูขิ

ร้านซูชิจ่านด่วน แบบยืนกิน

FamilyMart

FamilyMart

เห็นผลไม้ร้านนี้น่าทาน เลยมองดูว่ามีอะไรที่ทานได้ง่ายๆ บ้าง คุณลุงเจ้าของร้านเห็นเรายืนดู เลยเรียกไปหลังร้านแกะส้มให้ลองทาน รสชาติอร่อยมาก รสหวานฉ่ำ ไร้เมล็ด กากน้อย นอกจากอร่อยแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่ราคาถูก ลูกละประมาณ 50 เยนเท่านั้น

ผัก ผลไม้ญี่ปุ่น ส่วนมากมีผลใหญ่ คงเป็นผลมาจากดินดี อากาศดี ศัตรูพืชไม่มากเหมือนเมืองร้อน

สตอเบอรี่แพคละ 430 เยน ลูกแดง กลิ่นหอม รสหวาน

ผลไม้น่าทานหลายอย่าง

เราได้กล้วยหอม สตอเบอรี่ และ ส้มกลับไปกินที่โรงแรม

สัมภาระเริ่มจะเยอะขึ้น เข้าโรงแรม เช็คอิน เอาของไปเก็บก่อนดีกว่า โรงแรม HOTEL MYSTAYS Oita อยู่ตรงสี่แยก ถัดจากถนนคนเดินไปนิดเดียว

จากข้อมูลของ agoda โรงแรมนี้มีระดับ 3 ดาวครึ่ง เราจองผ่าน agoda ในราคาคืนละ 2,242 บาท จองล่วงหน้า 3 เดือน เลือก Option จองก่อนจ่ายทีหลัง จัดว่าเป็นราคาที่ถูกมาก และราคาล่าสุดยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ เพียงคืนละ 1,734 บาท อาจจะเป็นเพราะว่าโรงแรมมีการรีแบรนด์จาก Best Western Hotel Fino Oita เป็น HOTEL MYSTAYS Oita เลยทำโปรโมชั่น บวกกับค่าเงินเยนที่อ่อน ทำให้ราคาลงมาถูก

*** เช็คราคา โปรโมชั่น HOTEL MYSTAYS Oita ***

โรงแรมมีห้องสูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่ ควรเลือกให้ดีก่อนจองนะครับ

เข้าไปในโรงแรม มีการตกแต่งใหม่ ดูกว้าง สวยงาม การเช็คอินใช้ Hotel Voucher + Passport และเซ็นชื่อเข้าพัก เท่านี้ก็เสร็จแล้ว

ภายในห้องมีขนาดเล็ก ประมาณ 14 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ TV, ตู้เย็น, กาต้มน้ำ ชา – กาแฟ

การตกแต่งในห้อง ดูใหม่ และสะอาด

ตู้เย็นจะอยู่ใต้ TV

ผลไม้ที่เราซื้อมาเมื่อสักครู่ ทั้งหมดนี้ 780 เยน

เครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศก็มีให้ด้วย

ห้องน้ำ

ห้องน้ำของโรงแรมเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ตามมาตราฐาน Business hotel ทั่วไป ใช้ชักโครกอัตโนมัติ มีอ่างอาบน้ำขนาดเล็ก

สิ่งของที่มีให้ในห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัวใหญ่ 2 ผืน, เล็ก 2 ผืน, แปรงสีฟัน, มีดโกนหนวด, คอตตอนบัด, หมวกอาบน้ำ, ใยขัดตัว, โฟมล้างหน้า, สบู่เหลว, แชมพู และ ครีมนวดผม

ในโรงแรม และห้องพัก ใช้ wifi ได้ฟรี รหัส wifi จะอยู่ในแฟ้มบนโต๊ะทำงาน สัญญาณ wifi ค่อนข้างดี อินเตอร์เนตแรงด้วย

ประมาณ 5 โมงเย็น ช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังตกดิน เราออกจากโรงแรมไปดูไฟ โดยเริ่มจากถนน Chuo dori ไปจนถึงสถานี Oita

รายละเอียดงานประดับไฟสถานี Oita

  • เริ่ม 11 พฤศจิกายน 2016 – 14 กุมภาพันธ์ 2017
  • 17:00 – 24:00 น.

อาคารสไตล์ยุโรปริมถนน Chuo dori

ในรูปบนเป็นถนนที่มุ่งหน้าไปสถานี Oita

ไฟอาจจะประดับไม่มาก ของจริงจะดูสวยกว่าในรูป แต่เท่านี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว เพราะเมือง Oita ไม่ได้มีนักท่องเที่ยว คนไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่

ชมไฟเสร็จ ซื้อ KFC หน้าสถานี Oita กลับไปกินที่โรงแรม ถึงโรงแรมตอน 19:45 น. รีวิวเมือง Yufuin และ Oita ก็ขอจบละเท่านั้น ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวที่เมือง Beppu เมืองแห่งบ่อน้ำร้อน พาเที่ยวบ่อนรก จิโกกุ (Jigoku Meguri Beppu)

อ่านตอนต่อไป –> รีวิวเที่ยวเบปปุ Beppu ใน 1 วัน ชมบ่อนรกจิโกกุ Jigoku

รีวิวทั้งหมด

Post Views 34967

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *