รีวิวเที่ยวเกาะสิมิลัน เดินขึ้นหินเรือใบ สน๊อกเกิ้ลดูปลา (มีภาพใต้น้ำ)
ภูเก็ต / รีวิวเที่ยวเกาะสิมิลัน
เริ่มเข้าหน้าร้อนเมื่อไหร่ เป็นสัญญาณว่าต้องหาทะเลสวยๆ เที่ยว โชคดีที่ประเทศไทยมีทะเลสวยๆ หลายแห่ง เราจึงไปเที่ยวกันได้ไม่ซ้ำในแต่ละปีเลย ครั้งนี้เราเลือกที่จะไปชมความงามของหมู่เกาะสิมิลัน และ หมู่เกาะไข่ โดยจะแยกเป็น 2 รีวิวนะครับ รีวิวนี้จะเป็นของหมู่เกาะสิมิลันเพียงอย่างเดียว
ก่อนที่จะเดินทาง 2-3 วัน เราเช็คพยากรณ์อากาศให้ชัวร์ว่าฝนไม่ตก จากนั้นจัดการจองทัวร์ให้เรียบร้อย
จองทัวร์ One day trip
ทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน มีผู้ให้บริการอยู่หลายเจ้า เช่น Love Andaman, Seastar, Go Andaman, เม็ดทราย ฯลฯ ราคาทัวร์อยู่ที่ 1,800-2,200 บาท ขึ้นกับโปรโมชั่นและส่วนลดที่เอเจนซี่ทำราคาให้
เพื่อความสะดวกในการจอง เราเลือกใช้บริการของเอเจนซี่เจ้าเก่า Phuket SKY TOUR ได้ราคาที่ 2,000 บาท รวมรถไปรับที่ตัวเมืองภูเก็ตด้วย ก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงนะครับ ทัวร์ที่ให้บริการมีชื่อว่า Check in Andaman
สารภาพตามตรงว่าไม่เคยได้ยินชื่อ Check in Andaman มาก่อน แอบกังวลใจว่าจะดีไหม ลองอ่านรีวิวใน facebook ของคนที่เคยไปมาแล้ว ส่วนมากก็ว่าบริการดี ก็โล่งใจไป
เตรียมพร้อมก่อนไปทะเล
แนะนำของที่ควรนำติดตัวไปทะเลดังนี้ครับ
- ชุดเปลี่ยนหลังเล่นน้ำ
- ผ้าขนหนูผืนเล็ก
- กระเป๋ากันน้ำ หรือ ถุงกันน้ำ ค่อนข้างสำคัญ เพราะบางครั้งต้องเดินลุยน้ำที่สูงเกือบถึงหน้าอกไปขึ้นเรือ ถ้าเดินสะดุดก้อนหิน โทรศัพท์ กล้อง ก็อาจตกน้ำได้
- แว่นตาดำ ถ้ามีจะดีมาก
- ซองกันน้ำกล้อง หรือ ซองกันน้ำมือถือ ไว้ถ่ายใต้น้ำ อันนี้มีหรือไม่มีก็ได้
เดินทางไปขึ้นเรือ
เรือ One day trip ที่ไปสิมิลัน จะต้องไปขึ้นที่ท่าเรือทับละมุ จ.พังงา รถจะมารับที่โรงแรมประมาณ 6 – 7 โมง ที่พักของผมอยู่ในตัวเมืองภูเก็ตรถมารับตอน 6:40 น. เหตุที่มารับแต่เช้า เพราะว่าตัวเมืองอยู่ห่างจากท่าเรือถึง 95 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางถึง 1 ชั่วโมง 45 นาที ถ้าไม่อยากเดินทางไกลแบบนี้ แนะนำว่าพักแถวเขาหลัก – พังงา จะอยู่ใกล้ท่าเรือ
หลังจากขึ้นรถตู้แล้ว ก็นั่งกันยาวๆ ข้ามสะพานสารสิน ไปยังฝั่งพังงา รถตู้ขับยาวแบบไม่แวะจอดจนถึงบริเวณท่าเรือทับละมุ
8:45 น. เราก็มาถึงท่าเรือของ Check-in ANDAMAN ดูใหญ่มาก
พนักงานให้เราลงทะเบียน พร้อมกับรับสาย Wrist band จุดนี้มียาแก้เมาเรือ ใครเมาง่ายควรทานก่อนขึ้นเรือครับ
ลงทะเบียนเสร็จมีของว่างให้ทาน เช่น ข้าวต้ม ขนมปัง ชา กาแฟ ฯลฯ
เลือกตักได้ตามสบาย
ที่นั่งทานก็เยอะเพียงพอกับนักท่องเที่ยว
ทานเสร็จก็เข้าห้องน้ำ ห้องน้ำของ Check-in ANDAMAN มีประมาณ 10 กว่าห้อง เข้าคิวแยก 1 ห้องน้ำต่อ 1 แถว ในห้องน้ำจะถ่ายหนัก – ถ่ายเบา หรืออาบน้ำก็ได้ ตรงนี้ทำให้เกิดปัญหา คนจะถ่ายเบาดันไปต่อแถวคนทำธุระนาน ก็รอกันยาวๆ เลย ถ้าแยกห้องสุขาออกไปเลยน่าจะดีกว่า
เข้าห้องน้ำเสร็จเดินมาชมวิวที่ท่าเรือ บริเวณนี้เป็นจุดขึ้น – ลง เรือประมงด้วย ภูเขาที่เห็นในรูปด้านล่างเป็นปากน้ำ มีป่าชายเลนเยอะ
9:00 น. ไกด์เรียกขึ้นเรือ เราจะต้องถอดรองเท้าไว้ที่ท่าเรือ แล้วเดินเท้าเปล่าขึ้นเรือ
ที่นั่งในเรือ จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน
1. ส่วนหัวเรือ เป็นบริเวณ 3 เหลี่ยมหน้ากัปตันเรือ ที่นั่งบริเวณนี้โดนแดดตลอดเวลา ฝรั่งชอบ แต่คนไทยไม่ชอบ มันร้อน เวลาเรือแล่นตัดคลื่นส่วนหน้าเรือมักจะขึ้นลงมากที่สุด ก็คือนั่งไม่สบายแหล่ะ
2. ตรงกลางเรือ ที่นั่งที่ดีที่สุดของโซนนี้จะเป็น เบาะ 2 ที่นั่งทางด้านซ้ายกัปตันเรือ นั่งสบายๆ ไม่ต้องเบียดใคร เห็นวิวดี รับลม ถ้าเห็นที่นั่งตรงนี้ว่างให้รีบจับจองเลย นอกเหนือจากเบาะ 2 ที่ดังกล่าว ก็เป็นที่นั่งฝั่งซ้าย – ขวา นั่งหันหน้าเข้าหากัน ที่นั่งบริเวณนี้ก็ยังโอเคนะ อยู่ในร่ม ไม่กระโดดขึ้นลงแรงเหมือนตำแหน่งหัวเรือ
3. ท้ายเรือ เป็นที่นั่งที่ควรหลีกเลียงมากที่สุด มีโอกาสโดนน้ำกระเด็น โดนแดด และที่แย่ที่สุดเวลาคนเล่นน้ำตัวเปียกก้าวขึ้นเรือมา ก็จะทำให้เบาะนี้เปียกตลอด
นักท่องเที่ยววันนี้มีคนไทยเป็นส่วนมาก ตามมาด้วยฝรั่ง และคนจีน
สภาพเรือค่อนข้างดีเลยครับ เรือใหม่ สะอาด กว้างดีด้วย
นักท่องเที่ยวขึ้นเรือกันครบแล้ว ไกด์ทำการแนะนำตัวเอง กัปตัน และลูกเรือ
เรือรอบนี้มีไกด์คนไทยชื่อไกด์ฟีน และ ไกด์คนไทยที่พูดภาษาจีนได้ ต้องยอมรับเลยครับว่าวินาทีนี้จีนเป็นนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด หลายธุรกิจท่องเที่ยวก็ต้องปรับตัวให้มีภาษาจีน รองรับนักท่องเที่ยวจีน
ไกด์บอกกับเราว่าเรือลำนี้ Check-in ANDAMAN หมายเลข 3 เป็นเรือที่ใหม่ที่สุด แต่กัปตันไม่ใหม่นะ ไกด์ว่าอย่างนั้น ภายในเรือมีเครื่องดื่มในถังน้ำแข็ง น้ำเปล่า น้ำอัดลม สามารถหยิบทานได้ตลอด ในเรือมีห้องน้ำเล็กๆ ที่ด้านซ้ายกัปตันเรือ ใช้ทำธุระเบาๆ ได้ ในระหว่างที่เรือแล่นต้องนั่งอยู่กับที่ ห้ามเดินไปมา
ก่อนจะถึงสิมิลันขอให้ข้อมูลคร่าวๆ ไว้เป็นความรู้กันก่อน
ข้อมูลเกาะสิมิลัน
“สิมิลัน” เป็นชื่อในภาษายาวี หรือ มลายูว่า “เก้า” ซึ่งหมายถึงว่าหมู่เกาะสิมิลันมีอยู่ด้วยกัน 9 เกาะ ได้แก่
- เกาะหูยง หรือ เกาะ 1 เป็นเกาะที่อยู่ทางทิศใต้ของหมู่เกาะสิมิลัน
- เกาะปายัง หรือ เกาะ 2 ทางฝั่งตะวันออกของเกาะเป็นจุดดำน้ำลึก
- เกาะปาหยัน หรือ เกาะ 3 เป็นเกาะเล็กๆ มีแนวหินใต้น้ำที่เรียกว่าสันฉลาม
- เกาะเมี่ยง หรือ เกาะ 4 เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีที่พัก และแหล่งน้ำจืด
- เกาะห้า เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ 4
- เกาะปายู หรือ เกาะ 4 ทางฝั่งตะวันออกของเกาะมีปะการัง เป็นจุดดำน้ำ
- เกาะปูซา หรือ เกาะ 7
- เกาะสิมิลัน หรือ เกาะ 8 เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีหินเรือใบ เป็นจุดชมวิวของเกาะ
- เกาะบางู หรือ เกาะ 9 เป็นเกาะที่อยู่เหนือสุด รอบเกาะมีปะการังเป็นจุดดำน้ำ
ปัจจุบันได้มีเกาะตาชัยเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เกาะ อยู่ในเขตการดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน แต่ก็อยู่ห่างจากหมู่เกาะสิมิลันกว่า 50 กิโลเมตร
ที่ตั้งของเกาะสิมิลันอยู่ห่างจากฝั่งทับละมุประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือ Speed boat ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที การไปเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน สามารถขึ้นเกาะได้เพียงบางเกาะ และบางเกาะได้ปิดเพื่อให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ให้เต่าทะเลวางไข่
ในช่วง 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม ของทุกปี หมู่เกาะสิมิลันจะปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ช่วงนี้ไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้
โปรแกรมทัวร์
- เล่นน้ำ สน๊อกเกิ้ลที่เกาะ 9 (เกาะบางู)
- ขึ้นเกาะ 8 (เกาะสิมิลัน) เล่นน้ำชายหาด เดินขึ้นหินเรือใบ ทานอาหารกลางวัน
- เล่นน้ำ สน๊อกเกิ้ลที่เกาะ 7 (เกาะปายู)
- ขึ้นเกาะ 4 (เกาะเมียง) ที่ตั้งอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน เล่นน้ำชายหาด
นั่งเรือมาประมาณ 30 นาที ก็ถึงจุดดำน้ำจุดแรกที่เกาะ 9 (เกาะบางู) ไกด์ทำการแจกหน้ากากที่ใช้ในการสน๊อกเกิ้ล และแจ้งตามกติกาสากลว่าทำหายปรับ 1,000 บาท ถ้าทำหล่นใต้น้ำสามารถให้ลูกเรือไปงมขึ้นมาได้
จุดนี้ลงไปเล่นน้ำกันเกือบทั้งลำ ผมเองก็เช่นกัน สวมชูชีพ หยิบหน้ากาก พกซองกันน้ำ + กล้อง ไปถ่ายรูปใต้น้ำมาฝาก
น้ำทะเลบริเวณนี้เป็นสีฟ้าใส ค่อนข้างลึก ส่วนตัวแล้วชอบน้ำลึกมากกว่า จะได้ไม่ต้องกังวลว่าเท้าจะไปโดนปะการัง หรือ กองหิน ที่จุดนี้ถ้าโชคดีก็อาจได้เจอกับเต่าทะเล
ชาวต่างชาติดูจะมีความสุขกับการเล่นน้ำทะเล
ก้มลงไปดูใต้น้ำ ส่วนมากจะมีแต่ปะการังที่ตายแล้ว น่าจะเกิดจากการฟอกขาว จากอุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้น ส่วนปลาก็มีไม่เยอะ ผิดกับคำบรรยายของทัวร์ต่างๆ ที่บรรยายถึงโลกใต้น้ำของสิมิลันไว้อยู่สวยหรู
ภาพใต้น้ำจากซองกันน้ำ GQ-218
เล่นน้ำเสร็จมีผลไม้ และ เครื่องดื่มไว้บริการ
เรามีเวลาเล่นน้ำประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไป เกาะ 8 หรือ เกาะสิมิลัน ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีเท่านั้น ไฮไลต์ของเกาะนี้อยู่ที่ จุดชมวิวหินเรือใบ หรือ บางคนก็เรียกว่าหินใบเรือ เราจะพักรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะนี้
ขึ้นเกาะแล้ว ไกด์ทำการนัดหมายเวลากินข้าว ตอนเที่ยงตรง เรามีเวลา 40 นาที แนะนำว่าให้เดินไปชมหินเรือใบกันก่อน
หรือจะเข้าห้องน้ำ ก่อนขึ้นไปชมหินเรือใบก็ได้
เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ จะเจอกับทางไปหินเรือใบ ทางเดินเป็นเนินที่ไม่สูงมาก ใช้เวลาเดินขึ้นเพียง 10 นาที
ทางเดินช่วงแรกเป็นสะพานไม้ เดินง่าย
ช่วงต่อมาเดินบนดิน กับหิน มีมุดช่องหินอยู่ 2 ครั้ง ช่องหินนี้ผ่านได้ทีละคน
ความเชื่อที่ว่าเอาไม้ไปค้ำหิน เป็นความเชื่อที่ไม่ควรทำนะครับ เริ่มแรกอาจจะหากิ่งไม้หักแถวนั้นมาค้ำ ต่อมากิ่งไม้หมดก็ต้องหักกิ่งไม้จากต้น เท่ากับเป็นการทำลายธรรมชาติ
เดินขึ้นอีกนิดจะถึงจุดชมวิวแล้ว
ก่อนจะถึงหินเรือใบจะเป็นลานหิน นักท่องเที่ยวส่วนมากจะชมวิวที่จุดนี้กัน
วิวจากจุดชมวิว มองเห็นหาดทั้งหาด น้ำทะเลสีฟ้าใสมาก จากรูปภาพจะเห็นทะเลเป็นสามส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนติดหาด บริเวณนี้น้ำตื้น มีกองหินค่อนข้างเยอะ ทำให้เรือไม่สามารถถอยมาจอดติดหาดได้ ส่วนที่สองเป็นน้ำทะเลเป็นสีฟ้า บริเวณนี้ทรายเป็นสีขาว ไม่ค่อยมีหิน และส่วนสุดท้ายสีน้ำเงินเข้มเป็นบริเวณน้ำลึก
จากรูปด้านบนจะเห็นกองหินบริเวณน้ำตื้นได้ชัดเจน นักท่องเที่ยวที่ลงจากเรือจะต้องเดินหลบหินเข้าฝั่ง
กองหินขนาดใหญ่ เมื่อถูกคลื่นซัด น้ำทะเลเซาะ ก็พังทลายลงเป็นหินก้อนใหญ่ – เล็ก
เรือที่ส่งนักท่องเที่ยวเสร็จแล้วจะจอดรอนักท่องเที่ยวที่กลางทะเล ด้วยน้ำทะเลที่ใส ทำให้มองเห็นเรือเหมือนลอยจากพื้น
บริเวณรอบกองหินจะมีปลาให้ชม ถ้ามีเวลาก็สามารถสน๊อกเกิ้ลได้
เราขึ้นไปต่ออีกนิด ยังชุดชมวิวหินเรือใบ พบว่าวิวที่ได้แทบไม่ต่างกัน เลยลงมาด้านล่าง ได้เวลาทานข้าวพอดี
มื้อกลางวันเป็นอาหารแบบ Buffet โดยครัวของอุทยานฯ เมนูอาหาร ก็มีสปาเก็ตตี้ ผัดผัก ไก่ผัดพริก (ถ้าจำไม่ผิด) ต้มยำไก่ ไก่ทอดคนละ 2 ชิ้น และ ผลไม้
ตักมาอย่างละนิดอย่างละหน่อย จะได้ชิมหลายอย่าง รสชาติอาหารอร่อย แต่รสไม่จัดมาก ให้ชาวต่างชาติทานได้
ที่นั่งทานอาหารจะเป็นที่นั่งใต้ร่มไม้ ทานเสร็จให้นำจานไปเก็บ
ข้อดีของการเที่ยวทะเลที่เป็นอุทยานฯ คือ มีที่นั่งใต้ต้นไม้ให้นั่ง ส่วนเกาะของเอกชน เก็บเงินทุกเม็ด ที่นั่งใต้ร่มเงาต้องเสียเงิน
ทานข้าวอิ่มแล้ว เดินสำรวจชายหาดกันต่อ ชายหาดของเกาะสิมิลัน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 หาด แต่จะให้นักท่องเที่ยวขึ้นได้หาดเดียว คือหาดทางตอนเหนือของเกาะ ที่อยู่ติดกับหินเรือใบ หาดนี้ยาวประมาณ 400 เมตร
สัญลักษณ์ของหาดนี้ก็จะเป็นหินเรือใบ
ที่ชายหาดจะเต็มไปด้วยเศษปะการังแตกหัก บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ในอดีต
ทรายสีขาวที่ชายหาด เกิดจากปะการังที่แตกหัก ย่อยสลาย กลายเป็นทรายสีขาว โดยมีปลานกแก้วเป็นหนึ่งในผู้ช่วยย่อยสลาย ทำหน้าที่กินปะการังที่ตายและย่อยออกมาเป็นทราย
เนื้อทรายที่ละเอียดและขาว เป็นที่มาของชื่อทรายคอฟฟี่เมต
12:45 น. ได้เวลาขึ้นเรือ ไปเล่นน้ำยังจุดถัดไป รู้สึกว่ายังอยู่กับเกาะนี้ไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่เลย การเดินไปขึ้นเรือต้องเดินไปไกลมาก เพราะน้ำลง เรือต้องจอดไกล ใต้น้ำก็มีแต่กองหิน ต้องเดินหลบหิน หลบไม่ได้ก็ต้องเหยียบ ระวังลื่นด้วย กลัวจะสะดุดล้ม กล้อง – โทรศัพท์ตกน้ำ ถึงได้แนะนำว่าควรมีซองกันน้ำใส่ของไปด้วย ระดับน้ำที่ลึกที่สุดก่อนถึงเรือ คือสูงกว่าเอว เกือบถึงหน้าอก ถึงว่าลึกใช้ได้เลย ในแต่ละวันอาจมีน้ำลึกไม่เท่ากัน ขึ้นกับน้ำขึ้น – น้ำลง
นั่งเรือไปอีก 10 กว่านาทีก็ถึงจุดดำน้ำเกาะ 7 (เกาะปายู) แล้ว มีกฎก่อนลงน้ำว่า ห้ามขึ้นหาด ห้ามว่ายน้ำเข้ากองหิน ห้ามยืนบนหิน
ตอนแรกไม่ค่อยอยากจะลงน้ำเท่าไหร่ ยังรู้สึกผิดหวังกับจุดแรกอยู่ แต่จะไม่ลงก็กลัวพลาด
ลงน้ำไปแล้ว สวยงามกว่าจุดแรกมาก น้ำตื้นกว่า ใสกว่า มีปลาตัวเล็กๆ เยอะ
ถ่ายจากผิวน้ำภาพอาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ของจริงจะสวยกว่าในรูป
บางจุดก็มีปะการังตายเหมือนกัน แต่ไม่เยอะเท่าจุดแรก
เล่นน้ำเสร็จ ขึ้นเรือไปยังเกาะเมียง จุดสุดท้ายของ One day trip ครับ เรามีเวลาที่เกาะเมียง 1 ชั่วโมง
เกาะเมียง เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่รองจากเกาะสิมิลัน เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ มีที่พักค้างคืนบนเกาะ มีร้านอาหาร ชายหาดบนเกาะมีอยู่ด้วยกัน 2 หาด ได้แก่หาดทางทิศเหนือ และ หาดทางทิศตะวันออก
ทันทีที่ถึงเกาะเมียง เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก น้ำทะเลที่ใสราวกับสระว่ายน้ำ เม็ดทรายขาวละเอียด ไม่มีกองหิน เหมาะกับการเล่นน้ำมาก หาดนี้สวยที่สุดของทริปนี้เลยครับ
หาดทางด้านทิศเหนือ คนไม่เยอะ เล่นน้ำได้สบายๆ
คุณภาพทรายจัดว่าเยี่ยม ทรายขาว นุ่ม เดินสบายเท้า
เอารูปซองกันน้ำที่ใช้ถ่ายใต้น้ำมาให้ดูครับ ซองกันน้ำที่คุณภาพดี ถ่ายชัดหน้าเลนส์จะต้องเป็นทรงแข็ง ใส ราคาก็เพียง 550 บาท เปลี่ยนกล้องคอมแพคธรรมดาให้ถ่ายใต้น้ำได้
สนใจสั่งซื้อซองกันน้ำได้ที่ www.emagtravel.com/shop
ใกล้กับหาดฝั่งทิศเหนือ มีลานกานเต๊นท์ พักที่นี่ซักคืนคงได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติ
ร้านอาหารบนเกาะเมียง ชาปีไหนคาเฟ่
จากหาดฝั่งทิศเหนือ เราจะเดินไปหาดฝั่งทิศตะวันออก หรือ ที่เรียกกันว่าหาดเล็ก ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที
เส้นทางเดินไปหาดเล็ก เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีต้นไม้ร่มรื่น ระหว่างทางอาจได้เจอปูไก่ ปูหายาก ชนิดเดียวกับบนเกาะตาชัย เห็นต้นไม้สูงๆ ให้มองไปด้านบนจะเห็นค้างคาวตัวใหญ่เป็นจำนวนมาก นอนอยู่บนต้นไม้ ค้างคาวชนิดนี้เป็นค้างคาวแม่ไก่ กินผลไม้เป็นอาหาร เป็นหนึ่งในศัตรูของชาวสวน
ระหว่างทางไปหาดเล็ก มีทางแยกไปจุดชมวิวลานข้าหลวง จุดชมวิวนี้เดินไปสุดทาง อยู่บนเนินหิน เป็นที่โล่งบนลานหิน มองเห็นวิวหาดเล็ก แต่เราไม่ได้เดินไป เพราะไม่บอกระยะทาง เส้นทางก็ดูเปลี่ยว
เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงหาดเล็กแล้ว
หาดเล็ก มีน้ำทะเลใส ทรายขาวไม่แพ้หาดด้านทิศเหนือ แต่ที่ต่างกันคือ คลื่นที่แรงกว่า รู้สึกว่าหาดนี้คนจีนจะเยอะกว่า
ที่หาดเล็กมีแนวต้นไม้ใหญ่ ให้หลบแดดได้ตลอดแนวชายหาด
เดินเล่นที่หาดนี้ได้สักพักก็กลับ
14.45 น. ถึงเวลาต้องขึ้นเรือกลับแล้ว บอกตรงๆ ว่ายังไม่เต็มอิ่มเลย
ขากลับเรานั่งเรือกันยาวๆ 1 ชั่วโมง กับ 25 นาที ก่อนจะถึงท่าเรือ ไกด์บอกว่ามีส้มตำ ไอติม ขนมไว้บริการอีกรอบที่ท่าเรือ ทำเอาหูผึ่งเลย กำลังอยากกินส้มตำพอดี
16:10 น. ถึงท่าเรือ
มุ่งหน้าไปยังส้มตำ มีแม่ครัวตำส้มตำให้ทานกันสดๆ ทั้งตำไทย ตำปู ผัดหมี่ก็มี
รสชาติจัดว่าเด็ดจัดจ้านมาก รสชาติไทยแท้ๆ ไม่มีอ่อนเผื่อต่างชาติ แก้เมาเรือ แก้ง่วงนอนได้เลย
ตบท้ายด้วยไอติมกะทิ อิ่ม อร่อย
ทานเสร็จไปเข้าห้องน้ำ พบว่าแถวห้องน้ำคิวยาว และรอนานมาก ห้องน้ำมี 10 กว่าห้อง กับคนหลายร้อยคน หลายคนอาบน้ำ สระผม คนรอเข้าห้องน้ำก็รอกันนานๆ ผมเองก็เข้าห้องน้ำอย่างเดียว ไม่ได้เปลี่ยนชุด ไม่ได้อาบน้ำ แบ่งๆ กันใช้ห้องน้ำ โชคดีว่าเสื้อผ้าที่ใส่ โดนแดด โดนลม จนแห้งพอดี เลยไม่รำคาญตัวมาก
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถตู้คันเดิมกลับภูเก็ต ถึงตัวเมืองภูเก็ต 18.45 น ทริปนี้สนุก คุ้มค่ามากครับ ทะเลสวย ทัวร์ก็บริการดี
สรุปโดยรวม One day trip หมู่เกาะสิมิลัน
เกาะสิมิลันทะเลสวย จัดว่าเป็นหนึ่งในทะเลที่สวยไม่แพ้ที่ไหน โปรแกรมทัวร์ ได้เที่ยวหลากหลาย ขึ้นเกาะ 2 เกาะ กับสน๊อกเกิ้ล 2 จุด และเดินทางไม่นานเหมือนเกาะตาชัย ถ้าให้เทียบกับเกาะพีพี ความสวยงามพอๆ กัน แต่เกาะพีพีคนเยอะมากจนน่าเบื่อ ถ้าให้เทียบกับเกาะตาชัย เกาะตาชัยเดินทางนานกว่า ราคาทัวร์แพงกว่า และเกาะตาชัยได้เที่ยวเพียงเกาะเดียว
การบริการของ Check-in ANDAMAN โดยรวมแล้วบริการดี ทั้งไกด์ และ ลูกเรือ เรือก็ใหม่ ปลอดภัย มีอาหารให้ทานตลอดทริป ตังแต่ถึงท่าเรือตอนเช้า ไปจนถึงท่าเรือตอนกลับเลย คุ้มค่า คุ้มราคาเงิน 2,000 บาท มาก
ส่วนข้อเสียมีอยู่เรื่องเดียว เรื่องห้องน้ำที่ท่าเรือที่มีไม่เพียงพอกับนักท่องเที่ยว
สรุปค่าใช้จ่าย
คนละ 2,000 บาท + ทิปตามแต่จะให้ (หรือไม่ให้ก็ได้) ระหว่างทริปไม่มีเสียอะไรเพิ่มอีก
Post Views 32771