พระใหญ่ไดบุตซึ Kamakura Daibutsu เมืองคามาคุระ
ญี่ปุ่น / คามาคุระ Kamakura / พระใหญ่ไดบุตซึ
พระใหญ่ไดบุตซึ (Kamakura Daibutsu หรือ The Great Buddha) เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในเมืองคามาคุระ ตั้งอยู่ในวัดโคโตะกุอิน (Kotokuin Temple) ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติโดยรัฐบาลญี่ปุ่น พระพุทธรูปไดบุตซึมีความสูงถึง 13.35 เมตร น้ำหนัก 95 ตัน เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่เป็นอันดับสองในญี่ปุ่น รองจากหลวงพ่อโต แห่งวัดโทไดจิ เมืองนารา
จากหลักฐานพบว่าพระใหญ่ไดบุตซึสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1252 เชื่อกันว่านักบวช Joko รวบรวมเงินบริจาคจากประชาชนเพื่อสร้างพระพุทธรูป ในตอนแรกนั้นพระพุทธรูปอยู่ในห้องโถงของวัด (Daibutsu-den Hall) แต่ตัววัดได้รับความเสียหายจากพายุและแผ่นดินไหว อยู่หลายครั้ง จนในที่สุดไม่มีตัวอาคารของวัด พระใหญ่ไดบุตซึจึงได้ตั้งอยู่กลางแจ้ง
ในช่วงกลางสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) นักบวชนิกาย Jodo Yuten และ Yokoku พยายามซ่อมแซมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้วยเงินทุนที่ Nojima Shinzaemon พ่อค้าจากย่าน Asakusa จัดหาให้ นอกจากการซ่อมแซมพระพุทธรูปองค์ใหญ่แล้ว นักบวชทั้งสองยังได้บูรณะวัดให้กลายเป็นวัดที่สวย
พระใหญ่ไดบุตซึสร้างจากโลหะสำริด และทองแดง โดยช่างฝีมือดี ที่เห็นองค์พระเป็นสีเขียวเป็นเพราะว่าเกิดปฏิกริยาทางเคมี เกิดออกไซด์ของโลหะที่สะสมมาเป็นเวลานานจนองค์พระเป็นสีเขียว หรือจะเรียกว่าเป็นสนิมก็ได้
แม้จะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้างพระใหญ่ แต่รูปแบบได้รับอิทธิพลอย่างชัดเจนจากประติมากรรมทางพุทธศาสนาของ Kei School รวมถึงอิทธิพลในราชวงศ์ซ่ง (960–1279) ของจีน สังเกตได้จากใบหน้าพระพุทธรูปที่มีความคล้ายกัน พระพุทธรูปคามาคุระไดบุตสึ ถือเป็นต้นแบบของพระพุทธรูปสมัยคามาคุระ (ค.ศ. 1192–1333)
เห็นพระพุทธรูปมีขนาดใหญ่ แต่จริงๆ แล้วด้านในกลวง มีหน้าต่างระบายอากาศที่ด้านหลังองค์พระ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมในองค์พระได้ เสียค่าเข้าเพียง 20 เยน (ยี่สิบเยนจริงๆ นะไม่ได้พิมพ์ผิด)
นักท่องเที่ยวที่มาชมพระใหญ่ไดบุตซึ ในช่วงต้นเดือนเมษายน นอกจากจะได้เห็นความงามของพระใหญ่แล้ว ยังได้เจอกับซากุระที่ออกดอกบานรอบๆ วัด
วัดโคโตะกุอิน (Kotokuin Temple) ไม่เพียงแต่เป็นวัดที่สำคัญกับคนญี่ปุ่น ยังมีความสำคัญกับคนไทยด้วย ภายในวัดมีต้นสนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาล ที่ 10 ทรงปลูกในวโรกาสที่เสด็จเยือนวัดโคโตะกุอิน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2530
และต้นสนที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงปลูกในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เยือนวัดโคโตะกุอิน เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2474
การมาเที่ยวเมืองคามาคุระ สามารถจัดโปรแกรมเที่ยวเช้าไป เย็นกลับ จากโตเกียวได้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณขาละ 60 นาที สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในคามาคุระก็มี ศาลเจ้า Hachimangu, วัด Hasedera, วัด Kenchoji, วัด Engakuji ฯลฯ หรือจะจัดเป็นโปรแกรมเที่ยวคู่กับเมือง โยโกฮามาก็ได้
การเดินทาง |
รถไฟ : | จากสถานี JR Tokyo นั่งรถไฟสาย JR Yokosuka Line มาลงที่สถานี JR Kamakura ต่อรถไฟ Enoshima Electric Railway ไปลงสถานี Hase และเดินต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที
ผู้ที่ถือบัตร JR Pass หรือ JR TOKYO Wide Pass สามารถนั่งรถไฟฟรีได้จนถึงสถานี JR Kamakura |
การเข้าชม |
เวลาเปิด – ปิด : | 8:00 – 17:30 น. | |
วันปิด : | ไม่มี | |
ค่าเข้าชม : | 300 เยน และเสียเพิ่มอีก 20 เยน หากต้องการเข้าชมในพระพุทธรูป |
ที่พักยอดนิยม
Hotel Edit Yokohama
โรงแรมอยู่ใกล้สถานี JR Sakuragicho ประมาณ 310 เมตร เดินทางสะดวก หาของกินง่าย มีร้าน family mart ใกล้ๆ มีชาและ กาแฟบริการฟรี ที่ Lobby สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที |
|
Breezbay Hotel Resort & Spa
ใกล้สถานีรถไฟ JR Sakuragicho ประมาณ 200 เมตร เดินทางสะดวก หาของกินง่าย ใกล้แหล่งท่องเที่ยว |
|
Hotel Wing International Yokohama-Kannai
ใกล้สถานีรถไฟ JR Kannai ประมาณ 110 เมตร มีร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่ตรงข้ามโรงแรม สามารถเดินเที่ยว China town ได้ |
|
Hotel JAL City Kannai Yokohama
ที่พักห่างจากสถานีรถไฟ Nihon Odori เดินประมาณ 220 เมตร สามารถเดินไป China town และ สวน yamashita park ได้ หาของกินง่าย |
Post Views 28998