ขับรถเที่ยวสระมรกต น้ำตกร้อนคลองท่อม กระบี่

กระบี่ / ขับรถเที่ยวสระมรกต น้ำตกร้อนคลองท่อม

ต่อจากตอนที่แล้ว –> เที่ยวกระบี่เล่นน้ำใสๆ ทัวร์ 4 เกาะ ทะเลแหวก เกาะปอดะ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วครับ สำหรับทริปกระบี่ทริปนี้ ตอนเย็นจะต้องบินกลับกรุงเทพฯ

ขอท้าวความไปนิดนึง 1 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง เราคิดอยู่ว่าวันสุดท้ายจะไปเที่ยวไหนดี จะไป One day trip เกาะห้อง หรือ เกาะพีพี ก็คิดว่าคงจะไปขึ้นเครื่องไม่ทัน เพราะเครื่องออกตอน 16.25 น.? เลยตัดสินใจว่าจะเช่ารถที่อ่าวนาง แล้วขับเที่ยวน้ำตกร้อน สระมรกต แล้วก็ไปคืนรถที่สนามบินกระบี่เลย ซึ่งเงื่อนไขเช่ารถที่อ่าวนาง คืนรถที่สนามบินกระบี่ มีอยู่เจ้าเดียวครับคือ Hertz เพราะ Hertz มีออฟฟิตอยู่ที่อ่าวนาง

หลังจากนั้นก็ติดต่อจองรถจาก Hertz เป็นรถ Toyota vios การจองสำเร็จเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่โทรมาหา และเมลมา confirm เราก็สบายใจได้ไม่นาน ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ Hertz โทรมาใหม่ว่ารถคันที่เราจะเช่า ประสบอุบัติเหตุใหญ่ไปซะแล้ว ต้องเข้าอู่ยาว และรถคันนั้นก็เป็นคันสุดท้ายซะด้วย เราก็เลยไม่ได้รถ เค้าก็เลยขอโทษเราเป็นการใหญ่

เราก็เลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่อีกรอบ ไปเอารถที่สนามบินแทน โดยเลือกจองกับ Avis เป็นรถ Toyota vios คราวนี้คงไม่พลาดแล้ว

ตอนเช้าก็กินข้าวเช้าอย่างสบายใจ เก็บของเสร็จก็ check out ออกจากพระนางเพลส ออกไปรอ Airport Bus ไปสนามบิน ถ้าออกจากโรงแรมให้เดินไปทางซ้าย ป้าย Airport Bus จะอยู่ใกล้ๆ 7-eleven ยืนรอรถอยู่หลายสิบนาที รถก็ไม่มาซักที เลยมองดูที่ป้าย บอกว่ารถออกทุก 1 ชั่วโมง รถเที่ยวแรกออกไปตอน 7 โมง แต่เรามารอรถตอน 8 โมง 10 นาที ดังนั้นรถรอบ 8 โมงก็อาจจะออกไปแล้วก็ได้

เดินทางไปเช่ารถที่สนามบินกระบี่

คิดได้อย่างนี้ก็เปลี่ยนแผนไปนั่งสองแถว ไปลงที่สถานีขนส่งกระบี่แทน แล้วค่อยไปหารถเอาข้างหน้าไปสนามบิน ป้ายรถสองแถวเข้าเมืองกระบี่ – สถานีขนส่งกระบี่ จะต้องไปรอที่ฝั่งตรงข้ามพระนางเพลส รอไม่นานสองแถวก็มา พี่คนขับขับหวานเย็นมาก ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง จอดเกือบทุกป้าย ป้ายละ 5 นาที แกคงไม่เดือดร้อนอะไรมองไปในรถกดรีโมทฟังเครื่องเสียงอย่างสบายใจ รถสองแถวที่เรานั่งจะวิ่งอ้อมไปทางอ่างนาง – สุดหาดนพรัตนธารา – บ้านช่องพลี – บ้านไสไทย – อ้อมเข้าตัวเมืองกระบี่ – วกออกจากตัวเมืองกระบี่ แล้วไปสุดปลายทางที่สถานีขนส่งกระบี่ ค่ารถคนละ 60 บาทถ้วน สองคนโดนไป 120 บาท

พอถึงสถานีขนส่งกระบี่เราก็ยืนเอ๋ออีก เพราะไม่รู้จะไปทางไหน เจอรถปิคอัพรับจ้างอยู่คันนึงเห็นเราเป็นคนแปลกถิ่นเลยเข้ามาหา พอเราบอกไปสนามบินกระบี่ พี่เค้าบอกว่า 200 บาทน้อง ปกติคิดแพงกว่านี้นะเนี่ย ยืนต่ออยู่นานก็ไม่ยอมลดให้เลย ก็เลยจำใจต้องไป เวลาเรามีไม่มาก ระยะทางจากสถานีขนส่งกระบี่ไปสนามบิน ประมาณ 12 กิโลเมตร คิด 200 บาท ผมว่าแพงไปหน่อย

ในที่สุดเราก็มาถึงสนามบินกระบี่จนได้ จากอ่าวนางมาสนามบินกระบี่ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง กับค่ารถ 320 บาท เงินไม่เสียดายเท่าไหร่ แต่เสียดายเวลาเที่ยวมากกว่า

เช่ารถ Avis ขับเที่ยวน้ำตกร้อน สระมรกต

เข้ามาด้านในสนามบินก็ตรงไปที่ Avis ที่ชั้นล่าง หาไม่ยากครับ สนามบินกระบี่เป็นสนามบินเล็กๆ

สิ่งที่ต้องใช้ในการเช่ารถก็มีบัตรประชาชน + ใบขับขี่ + บัตรเครดิตที่มีวงเงินเหลือมากกว่า 2 หมื่น พนักงานจะให้เราเซ็นสัญญาการเช่ารถ ก่อนที่จะเซ็นลงไปอ่านรายละเอียดให้เข้าใจก่อนนะครับ

จัดการเรื่องเอกสารเสร็จ ก็จัดการเรื่องเงินต่อ ค่าเช่ารถ 1 วัน 678.5 บาท ค่าประกันอุบัติเหตุ 400 บาท ค่าประกันส่วนบุคคล 150 บาท รวม Vat แล้วก็ต้องจ่ายเท่ากับ 1,282.4 บาท และทาง Avis จะรูดบัตรเครดิตเราไปอีก 20,000 บาท เพื่อเป็นมัดจำ ถ้าหากเรานำรถมาคืนเค้าก็จะคืน slip ที่เราเซ็น และยกเลิกวงเงินที่รูดไปแล้วภายใน 7-10 วันทำการ

ป.ล. การนับเวลาการเช่ารถนั้นจะนับตั้งแต่เช่ารถไปอีก 24 ชั่วโมงเป็นเวลาคืนรถ (กรณีเช่า 1 วัน)

จากนั้นก็ออกมารับรถที่ลานจอดรถสนามบินกระบี่ มีพนักงานเดินมาส่งที่รถครับ ก่อนจะขึ้นรถผมก็ถ่ายรูปรถไว้รอบคัน เผื่อเวลาคืนรถแล้วมีปัญหาจะได้มีหลักฐานว่ารถสภาพเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ทีแรก

Toyota Vios ที่เช่ามาเป็นตัวบ๊วยสุดของรุ่นเกียร์ Auto (J) ล้อกะทะ ไมล์เลขรถวิ่งมาแล้วประมาณ 37,000 กิโลเมตร ก็ยังไม่เก่าครับ ขับสบาย แอร์เย็น

ตอนที่รับรถมา น้ำมันเต็มถัง ตอนที่คืนรถเราก็ต้องคืนให้เต็มถังด้วย เราขับรถออกมาทางถนนเพชรเกษม ไปทาง อ. คลองท่อม ทางเดียวกับทางไป จ.ตรัง? ขับรถมาได้ประมาณ 10 นาทีน้ำมันตกไป 1 ขีดแล้ว สงสัยว่าคนก่อนหน้านี้เติมมาแค่ให้พอขึ้นขีดบน แต่ไม่ได้เติมเต็มถัง เกจ์แบบดิจิตอลสามารถทำแบบนี้ได้ไม่ยาก

จริงๆ แล้วน้ำตกร้อน สระมรกต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของกระบี่ แต่ไม่มีรถสาธารณะไปถึง ต้องหาซื้อ One day trip ไป (น้ำตกร้อน – สระมรกต – วัดถ้ำเสือ) ราคาประมาณ 750 / คน รวมอาหารกลางวัน หรือไม่ก็ต้องเช่ารถขับไปกันเอง

เส้นทางไปน้ำตกร้อน สระมรกตจะวิ่งตรงบนถนนเพชรเกษมไปยาวๆ ประมาณ 40 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้าย ที่ถนนเทศบาล 2 ขับตามป้ายน้ำตกร้อน สระมรกตไปเรื่อยๆ ทางไปง่าย ดูแผนที่ครั้งเดียวก็ไปถูก ถนนราดยางตลอดทาง ไม่มีหลุมบ่อเลยซักนิด แถวนี้เป็นสวนยางพารา เขียวร่มรื่นตลอดทาง

แผนที่น้ำตกร้อน สระมรกต

น้ำตกร้อนจะอยู่ก่อนถึงสระมรกต ประมาณ 7 กิโลเมตร จะแวะอันไหนก่อนก็ได้ครับ แต่ผมอยากแวะที่สระมรกตก่อน เลยขับรถยาวไปที่สระมรกต ก่อนถึงสระมรกตจะมีที่จอดรถ เสียค่าจอดรถ 30 บาท ที่จอดรถกว้าง จอดได้หลายคัน ร่มรื่นด้วยร่มไม้สวนยาง เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันจันทร์นักท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยมี

รถคันนี้ที่พาเรามาถึงสระมรกต

ที่จอดตามแนวร่มไม้ สวนยางพารา

ต้นยางต้นนี้เพิ่งจะถูกกรีดยางมาไม่นาน

แผนที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติสระมรกต

ค่าเข้าสระมรกต คนไทย เด็ก 10 บาท, ผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 100 บาท, ผู้ใหญ่ 200 บาท สระมรกตจะอยู่ด้านใน ต้องเดินไปอีกครับ

บัตรค่าธรรมเนียม

เมื่อก้าวเข้าไปไม่กี่เมตรก็เจอกับน้ำใสๆ ไหลมาเหมือนน้ำตก

จากทางเข้าด้านหน้าไปสระมรกต ไปได้ 2 ทาง 1. เส้นทางหลัก ระยะทางประมาณ 800 เมตร 2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1,400 เมตร เส้นทางนี้จะมีโอกาสได้เห็นนกแต้วแร้วท้องดำ และนกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล, นกเงือก ซึ่งเป็นนกที่หาดูได้ยาก

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1,400 เมตร

เส้นทางหลัก 800 เมตร ทางเดินกว้าง ร่มรื่น

ก่อนถึงสระมรกตจะมีทางเดินสะพานไม้ยาวไปถึงสระมรกต ทางเดินนี้เพิ่งสร้างมาไม่นานครับ ไม้ยังใหม่ๆ อยู่เลย

คนเล่นน้ำไม่เยอะ สระมรกตน้ำใสมากครับ ใสราวกับสระว่ายน้ำ มองเห็นพื้นด้านล่าง ระดับความลึกของสระมรกตผู้ใหญ่สามารถยืนได้น้ำสูงระดับอก แต่เด็กเล็กๆ ต้องมีคนเฝ้าครับ

ศาลาริมสระมรกต

ฝูงปลาที่ริมสระมรกต

ไหนๆ ก็เข้ามาด้านในแล้ว เราจะเดินเข้าไปข้างในต่อที่สระน้ำผุด เป็นสระน้ำที่อยู่ในป่า ระยะทางจากสระมรกตไปสระน้ำผุด 500 เมตร

ทางเดินไปสระน้ำผุด ช่วงแรกยังเป็นทางเดินบนสะพานไม้อยู่

ศาลฤาษี

มีที่มาจากการที่ฤาษีตาไฟได้ไปเข้าฝันหลวงตาชูธง (พระธุดง) ว่าจะมาอยู่เพื่อคุ้มครองรักษาลูกหลาน ชาวบ้านจึงได้จัดการปั้นรูปปั้นเพื่อไว้เป็นที่เคารพบูชา? ต่อมาได้มีนักท่องเที่ยวมาขอพรและได้สมดังปรารถนา จึงได้สร้างรูปปั้นฤาษีอีกหนึ่งองค์มาถวาย ชื่อว่า ฤาษีโกเมศ

สระน้ำที่อยู่ด้านข้างศาลาฤาษีนี้ ชาวบ้านเรียกกันว่า สระฤาษี ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นสระที่ฤาษีใช้อาบน้ำ หากใครลงเล่นน้ำในสระนี้ต้องประสบกับโชคร้าย หรือจะมีโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ชาวบ้านบริเวณนี้ ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำ

ดงเฟิร์น มีการสร้างหอคอยขึ้นใหม่ น่าจะเอาไว้ดูนก ศึกษาธรรมชาติ เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีคนมาครับ

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้สระน้ำผุดเท่าไหร่ยิ่งเปลี่ยว และเจอป่าที่ทึบขึ้นเรื่อยๆ สะพานไม้ในรูปบนข้ามลำธารเล็กๆ น้ำใสมากแทบมองไม่เห็นว่ามีน้ำอยู่

200 เมตรสุดท้ายก่อนถึงสระน้ำผุด ป่าบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์มาก เป็นป่าแบบดิบชื้น ป่าประเภทนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ต้นไม้ใบสีเขียวอยู่ตลอดทั้งปีไม่มีช่วงแล้ง

ถึงแล้วสระน้ำผุด กว่าจะมาถึงเล่นเอาเหงื่อตกเสื้อเปียกเลย อากาศอบอ้าวมาก ที่กลางสระน้ำผุดเห็นเป็นน้ำใสๆ อมฟ้า สวยงามแบบน่ากลัว ที่สระน้ำผุดมีป้ายบอกว่าห้ามเล่นน้ำ

ถ้าจะลงไปถ่ายรูปใกล้ๆ สระก็ระวังโคลนรอบสระดูดด้วยนะครับ

สระน้ำผุด

เป็นสระที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าถัดจากสระมรกต มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15-20 เมตร สระน้ำผุดเป็นต้นกำเนิดสระมรกต เป็นบ่อน้ำที่มีความใสสะอาด เพราะน้ำเหล่านี้มีจากภูเขาหินปูน จึงมีสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอน

ที่กลางสระจะมองเห็นเหมือนน้ำผุดออกมาคล้ายน้ำเดือด เนื่องจากก้นบ่อมีรอยแยกของเปลือกโลก ซึ่งภายในเปลือกโลกมีของเหลวที่มีความร้อนเรียกว่าแม็กม่า (Magma) ความร้อนจากของเหลวนี้ระเหยมาทางรอยรั่วของเปลือกโลก ทำให้มองเห็นเป็นน้ำผุด

ในสมัยโบราณมีเรื่องเล่าว่า สระน้ำผุดเป็นสระที่กินรีลงเล่นน้ำ ส่วนที่สระน้ำผุดมีสีใสอมฟ้า เนื่องจากมีแร่ธาตุอยู่หลายชนิดเช่น แคลเซียมคาร์บอเนต แมกนีเซียม แมงกานีส และกำมะถันเป็นต้น

ว่ากันว่าถ้ามีเสียงปรบมือจะทำให้ฟองอากาศผุดขึ้นมาด้านบน ใครมีโอกาสไปลองไปทดสอบกันดูครับ

ชัดๆ อีกรูป สระน้ำผุด

เฟิร์นป่า

ขากลับออกมาจากสระน้ำผุดคราวนี้เดินยาวออกมาที่ทางออกเลยครับ หาข้าวกลางวันกินที่ด้านหน้า แล้วขับรถไปต่อที่น้ำตกร้อนคลองท่อม ถ้าใครพอมีเวลาผมขอแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ลงแช่น้ำตกร้อนให้สบายตัว

ที่จอดรถจะอยู่ตรงหน้าทางเข้าครับ จอดฟรี

จอดรถเสร็จจ่ายค่าบำรุงสถานที่คนละ 30 บาท แล้วเดินตามทางเดินคอนกรีตไปอีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงตัวน้ำตก 2 ข้างทางบรรยากาศร่มรื่น

น้ำตกร้อนคลองท่อม เป็นน้ำตกขนาดเล็ก น้ำที่ไหลจากน้ำตกจะมีความร้อนประมาณ 40-50 องศา เป็นอุณหภูมิที่เหมาะแก่การแช่ตัว แช่เท้า แต่ห้ามใช้สบู่, ยาสระผม ในน้ำตกร้อน

ตัวน้ำตกมีเท่านี้เองครับ ตอนแรกผมคิดว่าจะใหญ่กว่านี้ซะอีก มีชาวต่างชาติมาจับจองนอนแช่น้ำอยู่แล้ว

บ่อเล็กๆ สามารถลงไปแช่ตัวได้

ด้านล่างของน้ำตก สีไม่ใสเหมือนสระมรกต

จุดชมวิวน้ำตก

เดินออกจากน้ำตกไปนิดเดียวเจอกับบ่อแช่เท้า น้ำร้อนกำลังดี แต่ที่ขอบบ่อไม่มีร่มไม้ เลยไม่มีคนมานั่งแช่

ยกนาฬิกาขึ้นมาดูบ่ายโมงกว่าๆ แล้วครับ เรารับรถตอน 10 โมง เที่ยวสองที่ สระมรกต และ น้ำตกร้อนคลองท่อม ใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมงเอง

จากนั้นก็ขับรถกลับสนามบินทางถนนเพชรเกษม ก่อนถึงสนามบินประมาณ 5 กิโลเมตรจะมีปั๊มน้ำมันอยู่ครับ เราต้องเติมคืนให้เต็มถังเวลาคืนรถ

ผมมีวีธีคำนวณง่ายๆ ว่าเราควรเต็มน้ำมันกี่บาทดี อย่างแรกเลยเราต้องรู้ระยะทางคร่าวๆ ตั้งแต่รับรถจนถึงคืนรถว่าใช้ไปกี่กิโลเมตร ของผมวิ่งทั้งหมดประมาณ 100 กิโลเมตร

อัตรากินน้ำมันรถ Toyota Vios, Honda city ประมาณ 14 กิโลเมตร / ลิตร

รถใช้น้ำมันไป 100 / 14 = 7.14 ลิตร ดังนั้นเราควรเติมคืนไม่น้อยกว่า 7.14 ลิตรเพื่อให้ระดับน้ำมันเท่ากับตอนที่เรารับรถ

คืนรถที่สนามบิน

ผมขับรถเข้าไปจอดที่สนามบินกระบี่ เจอเจ้าหน้าที่ของ Avis พอดี เค้าเลยจัดการรับรถให้ จากนั้นเค้าจะคืน Slip ที่รูดวงเงินมัดจำ 20,000 บาทให้ ภายใน 7-10 วันทำการ วงเงินก็จะคืนเข้าบัตรเครดิตเราเหมือนเดิม

อีกชั่วโมงกว่าๆ จะถึงเวลาขึ้นเครื่อง ทานไอติมรองท้องกันก่อนครับ จากนั้นก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 โซนผู้โดยสารขาออก

ที่ Counter check-in ของทุกสายการบินคนเยอะมากครับ แถวยาว โชคดีว่าเราไม่ได้โหลดกระเป๋า และทำ web check in จากบ้านมาแล้ว เลยต่อแถวสแกนสัมภาระ แล้วเข้าไปรอที่เกทได้เลย

Gate ฝั่งซ้ายจะเป็นเที่ยวบินในประเทศ Gate ฝั่งขวาจะเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ เห็นมี Tiger Air บินจากสิงคโปร์มาลงที่สนามบินกระบี่ด้วย

Gate รอขึ้นเครื่องในประเทศ

Black Canyon coffee ขายกาแฟ เครื่องดื่ม มาม่า ขนม มีอยู่ร้านเดียว ด้านใน Gate ขายดีมาก

ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้วครับ ขากลับเรานั่งเที่ยวบิน FD3166 ถึงกรุงเทพฯ ตอน 17.50 น. สำหรับทริปนี้ก็ขอจบแบบง่ายๆ แต่เพียงเท่านี้ครับ เดี๋ยวทริปหน้าเราจะไปเที่ยวกันที่เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะนางยวน ติดตามชมกันต่อนะครับ

ค่าใช้จ่ายเที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน 2 คน

– ค่าเครื่องบิน Air asia ไปกลับ 2 คน 2,011 บาท (จองตอนมีโปรฯ)

– ค่าโรงแรมพระนางเพลส 2 คืน 2,400 บาท

– One day trip ทัวร์ 4 เกาะ 850 x 2 = 1,700 บาท

– ค่าเช่ารถ Avis 1,282 + น้ำมัน 400 บาท = 1,682บาท

– ค่ารถ 700 บาท

– ค่าอาหาร 1,500 บาท

– ค่าธรรมเนียมเข้าสระมรกต, น้ำตกร้อน และ อื่นๆ 500 บาท

รวมทั้งหมด 10,493 / 2 คน หรือเฉลี่ยคนละ 5,246.5 บาท

Post Views 31811

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

4 thoughts on “ขับรถเที่ยวสระมรกต น้ำตกร้อนคลองท่อม กระบี่

  • April 1, 2013 at 4:37 pm
    Permalink

    ขอบคุณครับ…

  • September 29, 2014 at 7:31 pm
    Permalink

    เยี่ยมมากเลยคะ ขอบคุณคะ

  • November 19, 2015 at 10:07 pm
    Permalink

    ดีมากเลยค่ะ
    ข้อมูลเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ
    ขอบคุณนะคะ

  • June 4, 2016 at 4:48 pm
    Permalink

    เป็นประโยชน์มากกกกกกกกก ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *