เที่ยวมิตาเกะ Mt.Mitake ญี่ปุ่น ในหนึ่งวัน ดูใบไม้เปลี่ยนสี

ญี่ปุ่น / โตเกียว / มิตาเกะ Mitake

มิตาเกะ ประเทศญี่ปุ่น ผมรู้จักชื่อนี้ครั้งแรกจากนวนิยายของศรีบูรพา เรื่องข้างหลังภาพ ในนวนิยายเรื่องนี้มิตาเกะเป็นสถานที่ที่นายนพพร และคุณหญิงกิรติได้มาเที่ยว และพลอดรักกัน มีลำธารและธรรมชาติที่สวยงาม พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่ามิตาเกะ มีอยู่จริง เลยเป็นที่มาของทริปนี้ว่าจะต้องมาเที่ยวตามรอย “ข้างหลังภาพ” ให้ได้

Klook.com

มิตาเกะ (Mitake) เป็นภูเขาสูง อยู่ในอุทยานแห่งชาติ Chichibu-Tama-Kai อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง สามารถไปเที่ยวเช้าไป – เย็นกลับจากโตเกียวได้สบายๆ ในรีวิวนี้จะพานั่งรถไฟจาก Shinjuku ไป Mitake นั่ง Cable car ขึ้นภูเขามิตาเกะ เดินเล่นบนมิตาเกะ ดูใบไม้เปลี่ยนสี ไปศาลเจ้า Musashi Mitake Shrine, Rock garden และ น้ำตก Nanaya waterfalls และกลับลงมาถ่ายรูปลำธารหน้าสถานีรถไฟมิตาเกะ

การไปเที่ยวมิตาเกะนั้นจริงๆ ก็ไม่ยากครับ แต่ที่ยากก็คือมีข้อมูลค่อนข้างน้อย ในหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นก็ไม่มีบอกซักเล่ม ต้องหาอ่านจากรีวิวใน Pantip และเวบ japan-guide เอา เลยตั้งใจไว้ว่ากลับจากมิตาเกะแล้วจะเขียนเป็นรีวิวแบบละเอียดๆ อ่านเข้าใจง่าย เอาไว้ให้คนที่อยากไปได้ไปกันง่ายๆ

สำหรับคนที่ตั้งใจไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่มิตาเกะ ที่นี่ก็มีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม โดยเฉพาะใบเมเปิ้ลที่เป็นสีส้ม สีแดงสด ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่จะอยู่ในช่วงต้นเดือน ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน

การเดินทางไปมิตาเกะ

สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟ Shinjuku ไปจนถึงสถานีรถไฟ Mitake เลยถ้ามี JR Pass สามารถใช้ JR Pass ได้จนถึงสถานีรถไฟ Mitake แต่ถ้าไม่มี JR Pass ก็เสียค่าโดยสารจาก Shinjuku ไป Mitake เพียง 890 เยน

เส้นทางรถไฟ Shinjuku –> JR Mitake

JR Shinjuku –> JR Tachikawa –> JR Ome –> JR Mitake

หรือ

JR Shinjuku –> JR Ome –> JR Mitake

เส้นทางรถไฟ JR Mitake –> Shinjuku

JR Mitake –> JR Ome –> JR Tachikawa –> JR Shinjuku

หรือ

JR Mitake –> JR Ome –> JR Shinjuku

รถไฟสาย Yamanote Line

รถไฟสาย Ome Line

เราออกเดินทางตอน 6.48 มาถึง Mitake 8.18 ลงจากรถไฟ เห็นวิวภูเขาและใบไม้แดงที่สถานีรถไฟ

ตารางรถไฟ Ome Line แนะนำให้ถ่ายรูปไว้ ตอนขากลับเราจะได้เผื่อเวลากลับถูกว่าจะกลับรอบไหน

หน้าสถานีรถไฟมิตาเกะ หน้าตาแบบโบราณ หลังคาคล้ายศาลเจ้าญี่ปุ่น

การเดินทางจากสถานีรถไฟ JR Mitake ไปยังสถานี Mitake Cable car

ออกจากสถานีรถไฟให้เดินไปทางขวามือ ตรงป้ายสีส้มในรูปด้านล่างจะเป็นป้ายรถเมล์ไป Mitake Cable car

รอรถอยู่ประมาณ 10 นาทีรถก็มา สังเกตว่าคนที่เดินทางไปบนมิตาเกะส่วนมากเป็นชาวญี่ปุ่น แต่ละคนเหมือนตั้งใจมาเดินป่า สำรวจธรรมชาติ มีเป้เดินทางพร้อม บางคนมีถุงนอน ไม้เท้าปืนเขา

การขึ้นรถเมล์ของชาวญี่ปุ่นจะเป็นระเบียบ ขึ้นทีละคน ขึ้นที่ประตูหลัง (ลงที่ประตูหน้า)

รถเมล์ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็มีถึงสถานีด้านล่างของ Mitake Cable car เราสามารถใช้บัตร Pasmo, Suica หรือเงินจ่ายค่ารถก็ได้ ค่ารถ 270 เยน

อากาศที่ Mitake จะหนาวกว่าโตเกียว เนื่องจากเป็นป่า และภูเขาสูง ถ้ามาช่วงหน้าหนาวควรเตรียมตัวให้พร้อมครับ

เดินขึ้นเขาไปทางด้านบนจะเป็นทางขึ้นไปยัง Cable Car

ที่จำหน่ายตั๋วขึ้น Cable car ไป-กลับ ราคา 1,090 เยน สามารถซื้อกับตู้กด หรือ กับพนักงานขายตั๋วก็ได้

ได้ตั๋วแล้วก็ไปขึ้น Cable car กัน ตัวรถจะคล้ายกับ Tram ที่ The Peak ฮ่องกง มีเบาะที่นั่งซ้ายขวา รอบนึงน่าจะจุคนได้มากกว่า 50 คน นั่งที่ไหนก็ได้ครับตั๋วไม่ได้ระบุ

รางของ Cable car เอียงประมาณ 45 องศา แล่นช้า ระหว่างทางที่ขึ้นไปเป็นป่าสน มีใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็นเป็นช่วงๆ รวมใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มีถึงสถานีบนภูเขามิตาเกะ (Mitakesan)

ใบไม้เปลี่ยนสี มิตาเกะ

ออกจากสถานี Cable car ก็จะเป็นร้านของฝาก ขายขนม และอุปกรณ์เดินป่า เช่นเสื้อกันหนาว หมวก ไม้เท้า ถุงมือ กระติกน้ำ

ที่ด้านนอกสถานีจะเป็นลานกว้างมีร้านขายของฝาก และจุดชมวิว

วิวบนเขามิตาเกะมองไปได้ไกลมาก เห็นเมืองเล็กๆ และถนนอยู่ระหว่างเขาสองลูก ประเทศญี่ปุ่นแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก แต่เค้าก็ยังอนุรักษ์ธรรมชาติ ยังมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อยู่

กล่องส่องทางไกลหยอดเหรียญ

เดินเที่ยวบนภูเขามิตาเกะ

การไปเที่ยวมิตาเกะใน 1 วันเราจะไปไหนได้ไม่ไกลมาก เส้นทางเดินท่องเที่ยวจะเป็นเส้นสีแดงตามรูปด้านล่างเลยครับ โดยจะเริ่มจาก 1. สถานี Cable car เดินผ่านหมู่บ้าน ไปยัง 2. ศาลเจ้า Musashi Mitake Shrine เดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป่าสน อุโมงค์เมเปิ้ลแดงไปยัง 3. The Rock garden และเดินลงไปยัง 4. น้ำตก Nanaya waterfalls จากนั้นก็เดินกลับ 1. สถานี Cable car รวมใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

ของที่ควรเตรียมไปด้วยก็มีน้ำดื่ม ของกินเล่น และอาหารกลางวัน ไม่ควรเอาของหนักมากไปด้วย เพราะจะเป็นภาระ

เสาโทริอิ เป็นเครื่องหมายของศาลเจ้าชินโต ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ Mitake

ช่วงที่เราไปนั้นเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เปลี่ยนสีเลยช่วงพีคไปแล้ว และเริ่มร่วงไปแล้วบางส่วน

ต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีส้ม เหลือง แดง ไล่สีกันสวยมาก

กล่องคล้ายตู้ไปรษณีย์ที่ติดอยู่บนต้นไม้เป็นบ้านของกระรอกบิน สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่ามิตาเกะ

ทางเดินจากสถานี Cable car ไปจนถึงศาลเจ้าจะเป็นทางเดินคอนกรีต สองข้างทางจะเป็นป่าสน ต้นเมเปิ้ล บ้านเรือน

Mt.Mitake Visitor Center ใครต้องการความช่วยเหลือ อยากได้แผนที่ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวมิตาเกะ เปิด 9.00-16.30 ปิดวันจันทร์

ในรูปด้านบนเป็นบ้านโบราณ Baba-ke Oshi-Jutaku House อยู่ก่อนถึงยอดภูเขามิตาเกะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1866 บ้านหลังนี้เคยเป็นที่พักแบบเรียวกัง น่าจะเป็นเรียวกังหลังแรกๆ บนหมู่บ้านมิตาเกะ

หมู่บ้านในมิตาเกะ ก่อนจะถึงศาลเจ้า Musashi-Mitake Shrine

ส้มญี่ปุ่นถุงละ 100 เยน ซื้อแล้วหยอดเงินลงกระปุกเองเลย

บริเวณหมู่บ้านมิตาเกะจะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ร้านขายของใช้ เดินมาเหนื่อยๆ แวะดื่มน้ำได้ครับ

ต้นวาซาบิก็มีขาย หัวละ 1,100 เยน รูปร่างคล้ายหัวไชเท้า รสชาติจี๊ดจ๊าด นำมาทำเป็นน้ำจิ้มทานคู่กับปลาดิบ และอาหารญี่ปุ่น

หลังจากที่เดินจาก Mitake Cable car มาประมาณ 40 นาทีก็มาถึงศาลเจ้า Musashi-Mitake Shrine

ศาลเจ้า Musashi-Mitake Shrine อยู่บริเวณจุดสูงสุดของภูเขามิตาเกะ โดยสูง 929 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้สร้างมานานแล้วกว่า 2,000 ปี ภายในศาลเจ้าเป็นที่เก็บสมบัติชาติอยู่ 2 สิ่งได้แก่เสื้อเกราะโบราณ และ อานม้า

เราสามารถเดินเข้าชมรอบๆ ศาลเจ้าได้ฟรี กระดาษสีขาวที่พันกับลวดในรูปด้านล่างเป็นใบที่คนมาเสี่ยงเซียมซี แล้วได้คำทำนายที่ไม่ดี ก็ฝากไว้กับศาลเจ้า

รูปปั้นนักรบญี่ปุ่นบนหลังม้า

ศาลเจ้าหลังเก่า อยู่ในช่วงซ่อมแซม

นั่งพักในศาลเจ้าจนหายเหนื่อยจากนั้นเดินทางตามป้ายต่อไปยัง The Rock garden

ทางเดินหลังจากนี้เริ่มโดดเดี่ยว ไม่มีนักท่องเที่ยว เส้นทางก็มีแต่ป่าสน ป้ายบอกทางก็ชี้มาอย่างเดียวไม่มีบอกว่ากี่เมตร

ป่าสน ต้นสูงมากน่าจะมีอายุหลายสิบปี

เราเดินตามทางมาเรื่อยๆ ยิ่งเดินยิ่งลึก เป็นป่า และเปลี่ยวมากขึ้น ลักษณะทางเดินจะเป็นทางเดินเท้าเลียบภูเขาไปเป็นทางราบ สลับกับเอียงเล็กน้อย ผ่านมา 20 นาทีมาเจอกับดงเมเปิ้ลที่ใบร่วงไปหมดแล้ว เหลือเพียงใบที่อยู่ที่พื้นดิน

เกือบจะถอดใจเดินกลับไปหลายครั้ง ป่ามันเงียบ ไม่มีนักท่องเที่ยว และไม่รู้ว่าอีกไกลแค่ไหน

สุดท้ายก็เดินต่อมาจนถึง The Rock garden ใช้เวลาจากศาลเจ้า Musashi-Mitake Shrine ประมาณ 30 นาที

The Rock garden เป็นหนึ่งในจุดพักระหว่างเดินในภูเขามิตาเกะ ว่ากันว่าเป็นส่วนที่สวยที่สุดในเขามิตาเกะ บริเวณนี้เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ บนก้อนหินถูกปกคลุมด้วยรากไม้

การจะปืนขึ้นไปบนก้อนหินต้องไต่รากไม้ ใช้มือจับโซ่ดึงตัวเองขึ้นไป

ด้านบนก้อนหินเป็นศาลเจ้าเล็กๆ และมีรูปปั้นคล้ายคนแต่หัวเป็นนก (Tengu) ศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าชูเก็นโด (Shugendo Shrine)

ชูเก็นโด เป็นลัทธิหนึ่งที่มีมาก่อนลัทธิชินโต แต่ก่อนลัทธินี้มีคนนับถือมาก

รูปปั้นเท็งกุ (Tengu) เป็นมนุษย์นก เป็นปีศาจที่คนญี่ปุ่นนับถือ คล้ายกับเจ้าป่าเจ้าเขา ตามความเชื่อของบ้านเรา

จาก The Rock garden มีป้ายบอกทางไปน้ำตก Nanaya waterfalls ใช้เวลา 5 นาที โดยต้องเดินลงไปทางบันไดที่ค่อนข้างชัน ระหว่างทางเจอคุณป้าชาวญี่ปุ่นทักทายเราเป็นภาษาญี่ปุ่น “Konichiwa” ซึ่งแปลเป็นไทยว่าสวัสดีตอนกลางวันนั่นเอง ที่มิตาเกะมีวัยประมาณคุณลุงคุณป้ามาเดินป่ากันเยอะมาก อาจจะเกษียณแล้วไม่มีอะไรทำก็มาหากิจกรรมทำกัน เท่าที่สังเกตคนญี่ปุ่นจะรักษาสุขภาพตัวเองได้ดี ถึงแม้จะอายุเยอะแล้วแต่ก็ยังเดินกันได้คล่อง ขึ้นลงบันไดได้ปกติ

ทางลงไปน้ำตก Nanaya waterfalls

ลงมาถึงน้ำตกแล้ว ตกใจนิดนึงคือน้ำมันน้อยเกินที่จะเรียกว่าน้ำตก น้ำที่ออกมาใสสะอาด แล้วก็เย็นครับ

ทางไหลของน้ำ

ตรงจุดนี้ชาวญี่ปุ่นแกะข้าวกล่อง ข้าวปั้นมาทานมื้อกลางวัน และคาดว่าจะเดินทางกันต่อ ส่วนเราคงไปต่อไม่ไหวแล้ว ไปไกลเกินไปเดี๋ยวจะกลับเย็นแล้ว Cable car จะหมด

เราเดินย้อนกลับไปทาง The Rock garden – ศาลเจ้า – หมู่บ้านมิตาเกะ

แวะทานข้าวกลางวันที่หมู่บ้านมิตาเกะ ร้านอาหารมีไม่กี่ร้าน ร้านนี้ขายข้าวหน้าแกงกระหรี่ เทมปุระ ราเมง ราคาประมาณจานละ 1,000 เยน รสชาติก็พอใช้ได้ครับ

ข้าวเทมปุระ มีกุ้งตัวใหญ่ 2 ตัว

อิ่มแล้วก็เดินยาวมาจนถึงสถานี Cable car

ในรูปด้านล่างเป็นกระเช้าแบบห้อยขาชมวิวจากเขามิตาเกะ ดูแล้วกระเช้าขึ้นไปไม่สูงมาก ราคากระเช้าขาเดียว 100 เยน และ ไป – กลับ 180 เยน เปิดให้บริการเวลา 10.30 – 15.50 น.

Mitake Cable car ให้บริการรอบสุดท้ายเวลา 18.30 น. ถ้าจะเดินเที่ยวในนี้ลงมาให้ทันรอบสุดท้ายด้วยนะครับ ส่วนรถบัสรอบสุดท้ายเวลา 18.12 น. ในวันธรรมดา และ 18.41 น. ในวันหยุด

ขากลับนั่ง Mitake Cable car คันเหลืองลงไป

เดินกลับไปรอรถเมล์ตรงป้ายที่ลงตอนเช้า

รถเมล์ไปสถานี JR Mitake

รถจอดหน้าสถานี JR Mitake

ที่ฝั่งตรงข้ามสถานี JR Mitake เป็นสะพานมองเห็นวิวลำธาร ตรงนี้เป็นจุดชมวิวยอดนิยมของมิตาเกะเลย

ลำธารธรรมชาติหินเรียงกันสวยมาก น้ำใสสะอาด สีออกอมฟ้า มีคนมาตกปลา พายเรือเล่น

ถ้ามีเวลาเยอะจะเดินลงไปที่ลำธารก็ได้ครับ ผมว่าตรงนี้น่าจะเป็นฉากในเรื่องข้างหลังภาพ

มองเห็นวิวภูเขา และใบไม้เปลี่ยนสี

ถ้าใครอยากมาค้างที่มิตาเกะซักคืน บริเวณนี้ก็มีที่พักทั้งแบบโรงแรม และ เรียวกัง

จากนั้นก็ได้เวลานั่งรถไฟกลับ JR Mitake –> JR Ome –> JR Shinjuku ขากลับโชคดีมีรถไฟจาก Ome ไปถึง Shinjuku เลย

สรุปค่าเดินทางจากโตเกียว (JR Shinjuku) ไปมิตาเกะ Mt.Mitake (คนละ)

ขาไป JR Shinjuku –> JR Tachikawa –> JR Ome –> JR Mitake = 890 เยน (ใช้ JR Pass ได้หมด)

Mitake Cable car = 1,090 เยน

ขากลับ JR Mitake –> JR Ome –> JR Tachikawa –> JR Shinjuku = 890 เยน (ใช้ JR Pass ได้หมด)

: : รวมค่าเดินทางในกรณีที่ไม่มี JR Pass = 2,870 เยน

: : รวมค่าเดินทางในกรณีที่มี JR Pass = 1,090 เยน

สรุปทริปมิตาเกะ Mitake ใน 1 วัน

เป็นทริปที่ไปง่ายจากโตเกียวไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ได้เห็นธรรมชาติ ภูเขา ลำธาร ชนบทแบบคนละเรื่องกับโตเกียวเลย อากาศดี ค่าเดินทางก็ไม่แพงมาก ช่วงที่สวยที่สุดของ Mitake เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณต้นเดือน – กลางเดือนพฤศจิกายน จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ลำธารตรงข้ามสถานี JR Mitake ตัดกับวิวภูเขาสีเขียว อากาศก็เย็นสบายไม่หนาวมาก ด้านบนเดินค่อนข้างเยอะเหมาะสำหรับคนสุขภาพแข็งแรง

ขึ้นไปด้านบนภูเขาก็จะเจอกับต้นสน และดงเมเปิ้ลที่เปลี่ยนสีเหลือง ส้ม แดง ที่สถานี Cable car บนเขา Mitake เป็นจุดชมวิวที่สวยงามเป็นวิวภูเขา และเมืองที่อยู่ระหว่างเขา

วันที่ 1: เดินทางกรุงเทพฯ – โตเกียว A380 การบินไทย นอนโตเกียว
วันที่ 3: เที่ยวนารา เมืองแห่งกวาง ดูใบไม้เปลี่ยนสี นอนโอซาก้า ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 4-5: เที่ยวเกียวโต ชมศาลเจ้า วัดเก่า ใบไม้เปลี่ยนสี
วันที่ 6: นั่ง Shinkansen กลับโตเกียว เที่ยวโอไดบะ โตเกียว
วันที่ 7: เที่ยว Kawaguchiko ดูภูเขาไฟฟูจิ ใบไม้เปลี่ยนสี ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 8: เที่ยว Nikko เมืองแห่งมรดกโลก สุสานโชกุน นอนโตเกียว ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 9: เที่ยว Mitake ตามรอยละคร “ข้างหลังภาพ” ดูใบไม้แดง
วันที่ 11: ชิบูย่า รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ ซื้อของฝากในสนามบิน บินกลับไทย
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่น 11 วัน ค่าเครื่องบิน โรงแรม อาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ

Post Views 31071

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

2 thoughts on “เที่ยวมิตาเกะ Mt.Mitake ญี่ปุ่น ในหนึ่งวัน ดูใบไม้เปลี่ยนสี

  • November 3, 2016 at 6:58 pm
    Permalink

    สอบถามนะคะ สามารถใช้Jr Tokunai pass ไปถึง สถานี mitake ได้ไหมคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *