เที่ยวเมืองนารา Nara ให้อาหารกวาง ดูใบไม้เปลี่ยนสี วัด Todaiji ศาลเจ้า Kasuga Taisha

ต่อจากตอนที่แล้ว ->นั่ง Shinkansen เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า ป้ายไฟกูลิโก๊ะ โดทงโบริ วันนี้เป็นวันที่ 3 จากทั้งหมด 11 วันของทริปญี่ปุ่น วันนี้เราจะไปเที่ยวเมืองนารา (Nara) แบบเช้าไปเย็นกลับ

เมืองนารา (Nara)

เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า ด้วยระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร สามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองนาราแบบเช้าไป – เย็นกลับได้อย่างสบายๆ ชื่อ “Nara” มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า “Narasu” แปลว่าทำให้แบนราบ เนื่องจากพื้นที่ของเมือง Nara ตั้งอยู่บนที่ราบ

เมืองนารา เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นมาก่อนในปี ค.ศ. 710-784 (ก่อนเมืองหลวงจะถูกเปลี่ยนเป็นเกียวโตในภายหลัง) ด้วยความที่ว่าเมืองนาราเป็นเมืองหลวงมาก่อน จึงมีวัดและศาลเจ้าเก่าแก่อยู่หลายที่เช่น Todai-ji, Saidai-ji, Kofuku-ji, Kasuga Shrine, Gango-ji, Yakushi-ji, Toshodai-ji, และ the Heijo Palace สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วทั้งสิ้น

กวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม

วันนี้ตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ไปเที่ยวแต่เช้า เนื่องจากว่าวันนี้ขี้เกียจเดินจากโรงแรมไปสถานี JR Shin-Osaka เลยใช้บริการ Subway สถานี Nishinakajima-Minmigata ไปสถานี JR Shin-Osaka ค่ารถไฟ 1 สถานี 200 เยน

การเดินทางจากโอซาก้า (Osaka) ไป นารา (Nara)

1. นั่งรถไฟจากสถานี JR Shin-Osaka ไปลงสถานี JR Tennoji

2. จากสถานี JR Tennoji นั่งรถไฟไปลงสถานี JR Nara

รวมเวลาเดินทางจากสถานี JR Shin-Osaka ไปสถานี JR Nara ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถใช้ JR Pass ได้หมด

เรามาถึงสถานี JR Nara เวลา 8.16 ตามเวลาของตารางรถไฟเป๊ะเลย รถไฟญี่ปุ่นตรงเวลามากๆ ครับ

มองเห็นข้อมูลท่องเที่ยววางเรียงกันเยอะ ก็คิดว่าจะหยิบไปดู น่าจะมีแผนที่ท่องเที่ยวและเส้นทางรถเมล์ พอเดินไปดูใกล้ๆ มีแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ เลยครับ

เมื่อมาถึงนาราแล้วก็ต้องถ่ายรูปกับตัว mascot ของเมืองนารา เป็นรูปปั้นครึ่งคน ครึ่งกวาง ตัวนี้อยู่ในสถานีรถไฟนารา

ออกมาด้านหน้าสถานี JR Nara ในรูปบนจะเป็นศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองนารา (Nara City Tourist Information) ตัวตึกตกแต่งสวยงาม อยู่ข้างๆ สถานี JR Nara เปิดให้บริการเวลา 9.00 – 21.00 น. มีบริการรับฝากกระเป๋าด้วย

การเดินทางในเมืองนารา

เมืองนารา เป็นเมืองเล็กๆ มีสถานีรถไฟอยู่ไม่กี่สถานี การเดินทางในเมืองนารา จะใช้วิธีนั่งรถเมล์เอา ค่ารถเมล์ค่อนข้างแพงมาก ราคาเริ่มต้นที่ 200 เยน (ประมาณ 64 บาท) นั่งไปป้ายเดียวก็ 200 เยน ราคาแพงกว่า Taxi meter บ้านเราเสียอีก แต่ก็มีอีกทางเลือกที่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ ก็คือบัตรโดยสารรถเมล์แบบ One day pass ราคา 500 เยน (Nara City) สามารถเที่ยวสถานที่สำคัญในเมืองนาราได้หลายแห่ง ซึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวเมืองนาราใน 1 วัน

สำหรับที่ขายบัตรโดยสารรถเมล์แบบ One day pass จะขายที่ Nara Kotsu Bus Ticket Counter อยู่ตรงข้ามสถานี JR Nara ตรงที่รถบัสสีเหลืองในรูปบนจอดอยู่

ที่ขายบัตรโดยสารรถเมล์แบบ One day pass คนละ 500 เยน

หลังจากซื้อบัตร One day pass มาแล้ว เราจะได้บัตรโดยสารสีเหลืองมีวันที่ระบุอยู่ พร้อมแผนที่เส้นทางรถเมล์ ป้ายหยุดรถ มีเท่านี้ก็เที่ยวเมืองนาราได้แล้ว

นอกจากนั้นยังมีตารางด้วยว่าถ้าอยู่ตรงนี้ จะไปสถานที่ต่างๆ นั้นต้องขึ้นรถเมล์สายอะไร โดยปกติแล้วจะนิยมขึ้นสาย 1 กับ สาย 2 เป็นสายที่วนรอบเมืองนารา ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่

แผนที่รถเมล์เมืองนารา

รถเมล์สาย 1 วนรอบเมือง ผ่านสถานี JR Nara

การขึ้นรถเมล์เมืองนารา

รถเมล์เมืองนารา จะมี 2 แบบ

1. คิดค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย ได้แก่สาย 1 และ สาย 2 เป็นสายที่วนรอบเมือง

– การขึ้นรถเมล์ ให้ขึ้นที่ประตูหน้า แสดงบัตร One day pass ให้คนขับดู หรือหยอดค่าโดยสาร 200 เยนลงในกล่องข้างคนขับ เวลาลงให้กดกรึ่ง แล้วลงที่ประตูหลัง

2. คิดตามระยะทาง เช่นสาย 70, 88, 97

– การขึ้นรถเมล์ ให้ขึ้นที่ประตูหลัง รับบัตรที่ข้างประตู ถึงแม้จะมีบัตร One day pass ก็ต้องรับบัตรเพราะคนขับจะได้รู้ว่าเราขึ้นในพื้นที่ที่ใช้ One day pass ได้ เวลาลงให้กดกรึ่ง สำหรับผู้ที่ชำระด้วยเงินสดให้ดูราคาค่าโดยสารที่จอด้านหน้า ส่วนผู้ที่ใช้ One day pass ให้แสดงบัตร One day pass ให้คนขับดู พร้อมกับบัตรรถ

รับบัตรโดยสารที่กล่องสีแดง

ที่บัตรจะมีหมายเลขอยู่

เวลาจะลงก็ดูที่จอด้านหน้าว่าหมายเลขที่ได้ ต้องเสียค่าโดยสารเท่าไหร่ แต่ถ้ามี One day pass ก็ไม่ต้องจ่าย

สำหรับสถานที่แรกที่เราไปก็ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (KasugaTaisha Shrine) นั่งรถเมล์สาย 70 หรือ 97 โดยลงที่ป้าย KasugaTaisha Honden ใช้เวลาประมาณ 14 นาทีก็มาถึงศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ

ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (KasugaTaisha Shrine) เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองนารา บรรยากาศเหมือนอยู่ในป่า ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สามารถเห็นใบไม้เปลี่ยนสีได้ในศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ แต่ก็มีไม่เยอะมากเหมือนวัดที่อยู่ในย่านเกียวโต

ภายในศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ จะมีกวางเดินอยู่ตามทาง ถ้าหากต้องการจะไปให้ถึงในศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ อาจจะต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย เพราะต้องเดินด้วยระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ผ่านโคมไฟหินที่เรียงรายอยู่ข้างทางกว่า 2,000 โคม

ใบไม้เปลี่ยนสี รอบๆ KasugaTaisha Shrine

ป้ายรถเมล์ Kasuga Taisha Honden

Treasure Hall ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ มีศาลเจ้าในสมัยก่อน เครื่องดนตรี ชุดเสื้อเกราะ และ อาวุธของนักรบในสมัยก่อน ค่าเข้าคนละ 400 เยน

เราเดินต่อไปยังทางเข้าศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ตรงนี้มีร้านของฝาก ไอศครีม ขนม น้ำดื่ม ตรงจุดนี้เริ่มเจอกวางเจ้าถิ่นแล้วครับ

ทางเดินไปยังศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ มีโคมไฟหินตลอด 2 ข้างทาง สังเกตว่าแถวนี้ไม่มีหญ้าขึ้นรกให้เห็นเลย เนื่องจากถูกกวางแทะเล็มไปหมด

โคมไฟหิน

หน้าทางเข้าศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ

ก่อนจะเข้าไปด้านในก็ต้องล้างมือกันก่อน ตามธรรมเนียมศาลเจ้าญี่ปุ่น ที่ล้างมือของศาลเจ้านี้มีน้ำไหลออกมาจากปากกวาง ดูสวยดีครับ

พื้นที่รอบๆ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ สามารถชมได้ฟรี แต่ถ้าจะเข้าไปในตัวศาลเจ้า (Main Shrine) เสียค่าเข้า 500 เยน

ชายเสื้อขาว กางเกงฟ้าเป็นนักบวช ระหว่างทางจะได้เห็นการเคารพศาลเจ้าตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น เค้าจะโค้งคำนับศาลเจ้า และปรบมือดังๆ อีก 2 ครั้ง

อาคารสีแดงเป็นสถานที่สวดมนต์ นักท่องเที่ยวเสียค่าเข้า 500 เยน เราไม่ได้เดินไปถึงด้านในเพราะต้องเข้าไปอีกไกล

ป้ายเตือนให้ระวังกวาง

ถึงแม้ว่ากวางจะเป็นสัตว์ที่ไม่อันตรายกับคน แต่บางครั้งด้วยความหิว หรือมีคนแกล้งก็อาจกัด หรือชนคนได้ กวางที่เมืองนาราจะถูกตัดเขาออกหมด ค่อนข้างที่จะปลอดภัยจากการถูกทำร้าย ที่ควรระวังก็จะเป็นของกิน ถ้ากวางได้กลิ่นอาจเข้ามาแย่งได้

เราเดินดูใบไม้เปลี่ยนสีตามทางมาเรื่อยๆ จนมาถึง สวนพฤกศาสตร์มันโย (Manyou Botanical Garden) ในนี้มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดู ส่วนดอกไม้ขึ้นชื่อในสวนนี้จะเป็นดอก Wisteria เป็นดอกไม้สีม่วง

จากสวนพฤกศาสตร์มันโย สามารถเดินต่อไปยังวัดโทไดจิ (Todaiji Temple) ได้ ด้วยระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า แต่ว่าไหนๆ เราก็มีบัตร One day pass แล้ว เก็บแรงไว้ดีกว่าครับ นั่งรถเมล์เอา

เรานั่งรถเมล์ไปลงที่ป้าย Daibutsuden Kasuga Taisha mae ป้ายนี้จะอยู่ตรงข้ามวัดโทไดจิ แล้วเดินตามฝูงชนไป

ระหว่างทางเจอครอบครัวนี้แกะส้มให้กวางกิน กวางเลยมารุมล้อมหน้า ล้อมหลัง

ที่ตั้งโต๊ะขายร่มสีเขียวในรูปด้านล่าง เค้าขายอาหารกวางครับ เป็นเหมือนข้าวเกรียบ แผ่นกลม มีประมาณ 5 แผ่น ราคา 150 เยน

ทางเดินไปวัดโทไดจิ

ร้านค้าทางซ้ายมือจะขายขนม ของฝาก ที่กล่องจะมีรูปกวางติดอยู่ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา

ถึงหน้าทางเข้าวัดแล้วครับ ซุ้มประตูทำด้วยไม้ ขนาดใหญ่มาก ท่าทางจะอายุหลายปี ซุ้มประตูนี้มีชื่อว่านังไดมง (Nandaimon)

ข้างซุ้มประตูทั้งสองด้าน มีรูปปั้นยักษ์แกะสลักจากไม้ขนาดใหญ่ อยู่ในท่ายืน ด้วยท่าทางขึงขัง

วัดโทไดจิ (Todaiji) หรือที่คนไทยเรียกกันว่าวัดหลวงพ่อโต เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนารา สร้างขึ้นใน ค.ศ. 743 หรือพันกว่าปีมาแล้ว วัดนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกเมืองนารา เป็นสิ่งปลูกสร้างจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในวัดมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น หรือที่คนไทยเรียกว่าหลวงพ่อโต มีความสูงถึง 16 เมตรหนัก 500 ตัน

การเข้าชมในตัววัดจะเสียค่าเข้า 500 เยน และเด็ก 300 เยน วัดนี้ยิ่งใหญ่สมควรเข้าไปชมด้านในครับ

ที่จำหน่ายบัตรเข้าชม

บัตรเข้าชมวัดโทไดจิ

มุมมหาชนวัดโทไดจิ ของจริงยิ่งใหญ่และดูเก่าแก่มากครับ ไม่น่าเชื่อนี่คืนสิ่งก่อสร้างที่ทำจากไม้ ใหญ่โตมากๆ

ทางเข้าวิหาร (Daibutsuden Hall) พระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ คลุมด้วยผ้าแดง

เข้ามาในวิหารก็จะเจอกับพระพุทธรูปขนาดใหญ่

ในประเทศญี่ปุ่นจะมีพระพุทธรูปอยู่ 2 ที่ ที่มีขนาดใหญ่ และเป็นที่นับถือ 1. พระพุทธรูปหลวงพ่อโต วัดโทไดจิ 2. พระใหญ่ไดบุตซึ เมืองคามาคุระ

ความสูงของพระพุทธรูปสูงถึง 16 เมตร หรือประมาณตึก 3 ชั้น ที่ด้านข้างซ้ายก็มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่อีกองค์หนึ่ง

เสา ผนัง โครงหลังคาทำจากไม้หมดเลย ไม้ท่อนใหญ่มาก

รูปปั้น Koumoku-ten เทวดาผู้ปกป้องศาสนาพุทธ

ภายในวัดโทไดจิ จะมีเสาอยู่ต้นหนึ่งมีรูที่ด้านล่างเสา มีความเชื่อว่าถ้าใครลอดเสาจะมีแต่ความโชคดี สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ น่าจะลอดเสาได้อย่างสบาย แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ละก็อาจจะต้องจัดท่าตัวลีบ ดึง และดันกันแบบนี้เลยครับ ถึงจะลอดออกมาได้ กว่าจะออกมาได้ก็เจ็บตัวไปตามๆ กัน

ที่บริเวณทางออกมีขายของที่ระลึก ตุ๊กตากวาง เครื่องลาง ของขลัง สามารถแวะซื้อติดไม้ติดมือกันกลับไปได้

ร้านขายของที่ระลึกวัดโทไดจิ

บริเวณรอบๆ วัดมีกวางเดินอยู่ทั่วไป

ใบไม้เปลี่ยนสีรอบวัดโทไดจิ เมืองนารา

ผมลองซื้ออาหารให้กวางดู แผ่นขนาดนี้ครับ 150 เยน ราคานี้กินข้าวบ้านเราได้สบายๆ 1 มื้อเลย

ทันทีที่ซื้อก็มีกวางเดินมาหาด้วยตาละห้อย หน้าตาอ้อนวอนเต็มที่

พอให้ 1 ตัว อีก 3-4 ตัวก็ตามมาทันที แกะป้อนให้ไม่ทันใจกวาง กวางปืนเสื้อขึ้นมาเลย เสื้อเปื้อนหมด พออาหารหมดมันก็ไม่สนใจเราอีกต่อไป

ตัวนี้อิ่มแล้วขอนอนพักสบายๆ

เมืองนารา มีกวางทุกที่จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ หรือบนท้องถนน

เท่าที่เห็นมากวางพวกนี้ก็นิสัยดีครับ ไม่ทำร้ายเรา ไม่ยุ่งกับเรา เทียบกับลิงบ้านเราแล้ว ลิงบ้านเราน่ากลัวกว่าเยอะ ทั้งดุและขี้ขโมย

สถานที่สุดท้ายที่เราจะไปเที่ยวในเมืองนาราคือวัดโคฟุคุจิ (Kohfukuji) หรือวัดเจดีย์ 5 ชั้น การเดินทางมาวัดนี้ก็นั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย Kencho mae ถ้ามาจากวัดโทไดจิก็ระยะทาง 3 ป้ายรถเมล์

วัดโคฟุคุจิ (Kohfukuji) เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่งของเมืองนารา สร้างขึ้นใน ค.ศ.710 ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สัญลักษณ์ที่โดเด่นของวัดนี้ได้แก่เจดีย์รูปทรง 5 ชั้น ขนาดสูง 51 เมตร จากประวัติของวัดนี้ วัดนี้ได้ถูกสร้าง และ ทำลายอยู่หลายครั้งกว่าจะมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

การเข้าชมภายในวัดเสียค่าเข้า 300 เยน แต่ถ้าเดินชมรอบๆ ไม่เสียค่าเข้า นอกจากนั้นภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ Kohfukuji National Treasure Hall ถ้าจะเข้าชมสองที่เสียค่าเข้า 800 เยน

วัดนี้ขอชมด้านนอกละกัน เราจะเข้าชมด้านในเฉพาะที่สนใจจริงๆ

เจดีย์ 5 ชั้น สัญลักษณ์ของวัดนี้

ลานตรงนี้มีสิ่งก่อสร้างคล้ายตอไม้ แต่เค้าไม่ได้เขียนบอกไว้ว่าคืออะไร ใครทราบบ้างครับ

อาคาร 8 เหลี่ยมหลังวัดโคฟุคุจิ

ที่ล้างมือของวัดนี้ มีน้ำออกมาจากปากมังกร

ป้ายขอพร ใครอยากขอพรอะไร ก็ไปซื้อป้ายไม้จากทางวัดแล้วเขียนขอพรลงป้าย แขวนไว้ที่วัดเลย เดินดูดีๆ ก็มีของคนไทยเหมือนกันนะครับ ส่วนมากจะขอพรให้สุขภาพแข็งแรงกัน

ถนนหลังวัดเจอใบไม้เปลี่ยนสีอีกแล้ว

วันนี้เราก็หมดทริปเมืองนาราแล้วครับ เราจะนั่งรถเมล์กลับไปที่ JR Nara และกลับไปเที่ยวต่อที่โอซาก้า

ที่สถานีรถไฟ JR Nara มีห้าง MaxValu อยู่ที่ชั้นล่าง เลยขอเดินเข้าไปสำรวจหน่อย MaxValu ที่เมืองนารา ก็ขายของคล้ายกับ MaxValu บ้านเราครับ ใครอยากซื้อขนม ของกิน ครีมทาหน้า โฟมล้างหน้าเชิญเลือกซื้อได้เลยครับ ผมสังเกตว่าพ่อบ้าน แม่บ้านชาวญี่ปุ่นจะไม่ซื้อของครั้งละเยอะๆ เหมือนบ้านเรา แต่อาศัยซื้อบ่อย คงเป็นเพราะว่าเค้าเดินทางด้วยรถไฟไม่มีรถมาขนของ

ระหว่างรอรถไฟเห็นถังขยะในสถานีรถไฟ ขอพูดถึงเรื่องขยะ และ ถังขยะนิดนึงครับ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สะอาดมาก ตามถนนและในสถานที่ต่างๆ แทบไม่เจอขยะเลย และเค้าก็ไม่ได้มีกฎหมายปรับ สำหรับผู้ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง บนรถไฟก็ไม่ได้ห้ามกินของกินด้วย ถังขยะในญี่ปุ่นก็หายากไม่ได้ตั้งอยู่ตาม 7-eleven หรือป้ายรถเมล์เหมือนบ้านเรา แล้วอะไรทำให้ประเทศญี่ปุ่นถึงสะอาดละ

สามัญสำนึกและความรับผิดชอบครับ คนญี่ปุ่นจะรู้หน้าที่ของตัวเอง ขี้เกรงใจ เคารพคนอื่น ถังขยะประเทศญี่ปุ่นจะแยกเป็น 3 ถัง ถังแรกสำหรับขวดและกระป๋อง ถังที่สองสำหรับหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ถังที่สามขยะทั่วไป

รถไฟ JR สาย Yamatoji Rapid มุ่งหน้าไปโอซาก้า

ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงโอซาก้า ลงที่สถานี JR Umeda

ย่านอุเมดะ (Umeda) เป็นย่านห้าง ร้านค้า ตึกสูง สำนักงานต่างๆ มีผู้คนค่อนข้างเยอะ สถานที่สำคัญในย่านนี้ก็ได้แก่ Hep Five ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์สีแดง, จุดชมวิว The Floating Garden Observatory

ห้าง Hankyu ห้างใหญ่ย่าน Umeda ในตัวตึกมีชิงช้าสวรรค์ Hep Five อยู่

ไปสำรวจราคา Uniqlo ที่ญี่ปุ่น ราคาพอๆ กับบ้านเรา แบบก็เหมือนๆ กัน แอบอิจฉาคนญี่ปุ่นเงินเดือนสูงแต่ซื้อสินค้าราคาเท่ากับบ้านเรา

ผมพยายามจะหามุมถ่ายชิงช้าสวรรค์ Hep Five แบบเต็มๆ แต่ได้มากสุดเท่านี้ เพราะตัวชิงช้าสวรรค์อยู่ในตัวตึก

ภายในห้าง Hankyu มีสินค้า Brandname เยอะมาก

ภายในห้างกว้าง และตกแต่งสวย

เดินเล่นจนเมื่อยขา ถึงกลับที่พัก วันนี้กลับโรงแรมเร็วหน่อยครับ พักผ่อนเอาแรงสำหรับวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้จะไปเที่ยวย่านเกียวโต ดูใบไม้เปลี่ยนสี ย่านนี้เป็นย่านที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดในญี่ปุ่น ติดตามชมกันต่อตอนหน้าครับ 🙂

อ่านตอนต่อไป –> เที่ยวเกียวโต วัดเงิน วัดทอง วัดน้ำใส อะราชิยามา ดูใบไม้เปลี่ยนสี

Download pdf ข้อมูลการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว ในนารา (Nara)

Download NaraCity Sightseeing & Map Update 1/8/14
  • สถานที่ท่องเที่ยว แผนที่จุดสำคัญในนาราเช่น Todaiji Temple, Nara Park, Kasuga Taisha Shrine, Kohfukuji Temple, Three-Story Pagoda, JR Nara
  • ขั้นตอนการขึ้นรถเมล์ในนารา
  • สายรถเมล์ – เส้นทาง
  • จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี, ซากุระ
  • เหมาะสำหรับการวางแผนเที่ยวในนารา

หมายเหตุ. ควร save เก็บไว้ใน Smart phone เวลาเดินทาง

วันที่ 1: เดินทางกรุงเทพฯ – โตเกียว A380 การบินไทย นอนโตเกียว
วันที่ 3: เที่ยวนารา เมืองแห่งกวาง ดูใบไม้เปลี่ยนสี นอนโอซาก้า ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 4-5: เที่ยวเกียวโต ชมศาลเจ้า วัดเก่า ใบไม้เปลี่ยนสี
วันที่ 6: นั่ง Shinkansen กลับโตเกียว เที่ยวโอไดบะ โตเกียว
วันที่ 7: เที่ยว Kawaguchiko ดูภูเขาไฟฟูจิ ใบไม้เปลี่ยนสี ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 8: เที่ยว Nikko เมืองแห่งมรดกโลก สุสานโชกุน นอนโตเกียว ไปเช้า-เย็นกลับ
วันที่ 9: เที่ยว Mitake ตามรอยละคร “ข้างหลังภาพ” ดูใบไม้แดง
วันที่ 11: ชิบูย่า รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ ซื้อของฝากในสนามบิน บินกลับไทย
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวญี่ปุ่น 11 วัน ค่าเครื่องบิน โรงแรม อาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ

Post Views 126892

admin

นักเขียนประจำ emagtravel.com

24 thoughts on “เที่ยวเมืองนารา Nara ให้อาหารกวาง ดูใบไม้เปลี่ยนสี วัด Todaiji ศาลเจ้า Kasuga Taisha

  • November 15, 2014 at 12:22 am
    Permalink

    ตอนขึ้นรถเมล์จากวัดโทไดจิ มา วัดโคฟุคุจิ สามารถนั่งสาย 70,1 ได้ เราก็ขึ้นที่ป้ายเดิมตอนเราลง ป้าย Daibutsuden Kasuka Taisha mae เหรอค่ะ อย่างเมืองไทยอาจไปขึ้นฝั่งตรงข้ามเพราะรถวิ่งวนกลับ หรือ เราจะต้องไปขึ้นป้ายไหนเพื่อมาวัดโคฟุคุจิ

  • November 15, 2014 at 9:51 am
    Permalink

    ตอบคุณ Mam

    ขึ้นป้าย Daibutsuden Kasuga Taisha mae ฝั่งเดิมถูกต้องแล้วครับ

  • November 16, 2014 at 6:03 pm
    Permalink

    ขอบคุณมากค่ะ

  • November 30, 2014 at 8:31 pm
    Permalink

    4/1/58ออกจากกรุงเทพ 22.35
    5/1/58ถึงโตเกียว6.15>สนามบินนาริตะ>>ไปโรงแรมTokyo Ueno Touganeya>อุเอโนะ>Ginza>วัดอาซากุสะ>ตึกม่วง>>โตเกียวสกายทรี กลับรรนอน(**ถ้าเที่ยวไม่หมดไปเกบตกวันสองวันสุดท้าย**))
    6/1/58ตื่น6โมงเช้าเชคเอาท์ มุ่งหน้าสู่ >
    โอซาก้า>ฝากของไว้ที่โรงแรมเพราะจะกลับมาเชคอินตอนค่ำ shin Osaka พักที่นี่3คืนเชคเอาท์9/1/58>ปราสาทโอซาก้า>นัมบะ>กลับโรงแรมนอน
    7-8/1/58ตื่น6โมง>เกียวโต>วัดเงิน>วัดทอง>วัดน้ำใส >>เด๋วดูแหล่งเที่ยวอีกทีกลับโรงแรมนอน
    9-10/1/58 ตื่นตีห้าครึ่งเชคเอาท์กลับไปเกบตกโตเกียว>ชิบุย่า>ชินจุกุ>ฮาราจุกุอยุ่โตเกียวของฝากลั้นลา2คืน >>ภูเขาไฟฟูจิ >>โอไดบะ>>((ยังไม่จองโรงแรมหาโรงแรมใกล้ที่เที่ยวกินชอป))))
    11/11 ตื่นสายสัก8โมง เกบของเตรียมไปสนามบิน มีเวลาก่อนถึงสนามบินบ่ายสามโมงเยน (((((อันนี้คือแผนที่จะต้องไปกันค่ะ)))))
    รบกวนสอบถามว่าทริปนี้ควรซื้อ เจอาร์พาส ไหมค๊ แผนแน่นไปไหมค๊

  • November 30, 2014 at 9:55 pm
    Permalink

    ตอบคุณ PP

    Plan นี้พิจารณาง่ายๆ ครับ ถ้ามีการเดินทาง โตเกียว – โอซาก้า – โตเกียว แบบนี้ซื้อ JR Pass ได้เลยครับ แค่เดินทาง โตเกียว – โอซาก้า ไปกลับก็คุ้มแล้ว ที่เหลือคือกำไร

    Plan โดยรวมแล้วสบายๆ ดีครับ วันที่ 8 แนะนำให้ไป Arashiyama หรือ Nara เพิ่ม

    ———————————-

    ขอฝาก Link เพิ่มเติมครับ. เรื่องควรรู้ก่อนซื้อเจอาร์พาส เดินทางแบบไหนควรซื้อ JR Pass
    https://www.emagtravel.com/archive/before-buy-jr-pass.html

  • February 8, 2015 at 8:32 pm
    Permalink

    ขอบคุณข้อมูลเมืองนารามากค่ะ กำลังหารายละเอียดรถเมลล์ที่นี่ ได้ข้อมูลอย่างละเอียดอย่างนี้ ขออนุญาตตามรอยเลยนะคะ

    ขอถามนิดนะคะ จะเดินทางไปลงที่สนามบินคันไซ พักที่โอซาก้าแต่ที่พักกว่าจะเช็คอินได้บ่ายแล้ว และไม่อยากเสียเวลาแวะฝากกระเป๋าที่โรงแรม ถ้าเราลากกระเป๋าไปด้วย ฝากไว้ที่สถานีรถไฟนารา หรือ ที่สำนักงานท่องเที่ยว ที่ไหนดีกว่าค่ะ ที่สถานีรถไฟต้องเสียค่าหยอดเหรียญตู้รับฝากกระเป๋า ถ้าที่สำนักงานท่องเที่ยวรับฝากแบบเดียวกันหรือไม่คะ

    ถ้าซื้อตั๋ว Kansai Thru Pass เราน่าจะใช้ตั๋วนี้นั่งรถเมลล์ในเมืองนาราได้ด้วยหรือไม่คะ ครั้งก่อนมาเที่ยวซื้อตั๋วนี้ สามารถเที่ยวในโอซาก้าและเมืองวากายาม่า นั่งรถไฟท้องถิ่นและรถเมลล์ได้ทั้ง 2 เมืองเลยค่ะ

  • February 12, 2015 at 10:20 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Somerset

    เรื่องฝากกระเป๋าที่ไหนดีกว่ากัน อันนี้ผมไม่ทราบเลยครับ เพราะไม่เคยฝากกระเป๋า

    ถ้าซื้อตั๋ว Kansai Thru Pass เราน่าจะใช้ตั๋วนี้นั่งรถเมลล์ในเมืองนาราได้ด้วยหรือไม่คะ ครั้งก่อนมาเที่ยวซื้อตั๋วนี้ สามารถเที่ยวในโอซาก้าและเมืองวากายาม่า นั่งรถไฟท้องถิ่นและรถเมลล์ได้ทั้ง 2 เมืองเลยค่ะ

    KTP ไม่สามารถนั่งรลเมล์ใน Nara (Nara Kotsu Bus) ได้ครับ

  • March 16, 2015 at 11:25 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ แอดมิน

    จะนั่ง JR จากโตเกียว ไป นารา … หาที่ฝากกระเป๋าเป็น ล็อคเกอร์ ที่ JR Nara หรือว่า ที่ไหนได้คะ

    กลัวไปถึงจะเที่ยวแล้วเอ๋อเหรอ หาล็อคเกอร์หรือที่รับฝากกระเป๋าไม่เจออ่ะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

  • March 17, 2015 at 12:10 am
    Permalink

    แล้วควรแลกเงินสดไปเท่าไรดีคะ เดินทาง 3 คน 11 วัน ปกติใช้บัตรวีซ่าน่ะค่ะ.
    เพื่อนสนิทเพิ่งไปเที่ยวคันไซมา 12 วัน 2 คน แลกไปแค่ 10,000 บาท ที่หลือใช้บัตรเครดิต

    ขอบคุณค่ะ

  • March 17, 2015 at 2:58 pm
    Permalink

    ตอบคุณ เวนดี้

    จะนั่ง JR จากโตเกียว ไป นารา … หาที่ฝากกระเป๋าเป็น ล็อคเกอร์ ที่ JR Nara หรือว่า ที่ไหนได้คะ

    กลัวไปถึงจะเที่ยวแล้วเอ๋อเหรอ หาล็อคเกอร์หรือที่รับฝากกระเป๋าไม่เจออ่ะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

    ฝากที่สถานีรถไฟได้เลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าหาไม่เจอ เพราะมีเยอะมาก ทุกซอกทุกมุมเลย

    แล้วควรแลกเงินสดไปเท่าไรดีคะ เดินทาง 3 คน 11 วัน ปกติใช้บัตรวีซ่าน่ะค่ะ.
    เพื่อนสนิทเพิ่งไปเที่ยวคันไซมา 12 วัน 2 คน แลกไปแค่ 10,000 บาท ที่หลือใช้บัตรเครดิต

    ขอบคุณค่ะ

    ตอนผมไปญี่ปุ่น 11 วันพกเงินสดไปคนละ 40,000 บาทครับ ผมกินข้าวร้านทั่วไป ร้านตู้กดบ้าง เลยใช้แต่เงินสด ส่วนตัวผมคิดว่าคนละ 10,000 บาท นี่น้อยไปนะครับ

  • February 9, 2016 at 12:09 pm
    Permalink

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
    รบกวนถามนะค่ะ รบกวนแนะนำเมือง / จุดเที่ยวที่ควรไป สำหรับทริป 5-6 วัน รอบๆ โอซากา และเมืองใกล้เคียง (นั่งรถไฟจากโอซากาในระยะไม่เกิน 2 ชม.)
    รบกวนและขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

  • February 9, 2016 at 12:21 pm
    Permalink

    ตอบคุณ A

    เที่ยวคันไซ 5-6 วันดูรีวิว และสถานที่เที่ยวในนี้ได้เลยครับ

    โอซาก้า : https://www.emagtravel.com/archive/osaka-trip.html และ https://www.emagtravel.com/archive/osaka.html
    เกียวโต : https://www.emagtravel.com/archive/kyoto-trip.html
    นารา : https://www.emagtravel.com/archive/nara-trip.html
    โกเบ : https://www.emagtravel.com/archive/kobe-trip.html

  • January 29, 2017 at 8:53 pm
    Permalink

    สวัสดีค่ะ

    สอบถามนะค่ะ ถ้านั่งรถบัสแบบ 500 เยน วันเดย์พาส (คือใช้ได้ใน 1 วัน) รถบัสวิ่งวนรอบใช่มั้ยค่ะ ลงตรงไหนขึ้นตรงนั้นต่อไปยังสถานที่ต่างๆ เหรอค่ะ แล้วเวลารถบัสมาใช้เวลารอนานมั้ยค่ะ และที่เลวร้ายที่สุดคือกลัวลงผิดป้าย เคยมาละค่ะ เวลายาวววววไป 555 หลงค่ะ

    และอีกนิดค่ะ ถ้าเช่ารถรากเวลา ครึ่งวัน ชมเมืองนาราแพงมั้ยค่ะ อยากนั่งนะแต่มีแต่คนบอกว่าแพงมาก (แอบเสียดาย)
    ด้วยตัวเองปั่นจักรยานไม่เป็นค่ะ แต่เพื่อนๆ ที่ไปด้วยอีก 6 คนเค้าจะปั่นกัน กลัวเป็นตัวถ่วงเพื่อนเลยจะขอนั่งรถบัสแล้วตามเพื่อนไปให้ทันค่ะ เลยอยากจะขอคำแนะนำจากท่านเจ้าของเว็บค่ะ มีวิธีไหนบ้างสำหรับเที่ยวเมืองนาราในเวลาครึ่งวันค่ะ

    ขอบคุณมากๆ ค่ะ

    ส่งรายละเอียดที่เมล์ก็ได้นะค่ะ

    may.mind.1974344@gmail.com ค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

  • January 30, 2017 at 5:31 pm
    Permalink

    ตอบคุณ เมย์

    สอบถามนะค่ะ ถ้านั่งรถบัสแบบ 500 เยน วันเดย์พาส (คือใช้ได้ใน 1 วัน) รถบัสวิ่งวนรอบใช่มั้ยค่ะ ลงตรงไหนขึ้นตรงนั้นต่อไปยังสถานที่ต่างๆ เหรอค่ะ แล้วเวลารถบัสมาใช้เวลารอนานมั้ยค่ะ และที่เลวร้ายที่สุดคือกลัวลงผิดป้าย เคยมาละค่ะ เวลายาวววววไป 555 หลงค่ะ

    เส้นทางรถบัสดูได้ในรีวิวครับ รถจะมาประมาณทุก 15 นาทีครับ เค้าจะมีประกาศก่อนลง พร้อมขึ้นที่จอว่าป้ายหน้าเป็นป้ายอะไร ไม่ยากครับ

    และอีกนิดค่ะ ถ้าเช่ารถรากเวลา ครึ่งวัน ชมเมืองนาราแพงมั้ยค่ะ อยากนั่งนะแต่มีแต่คนบอกว่าแพงมาก (แอบเสียดาย)

    ราคารถลากที่เกียวโต 10 นาที 2,000 เยน / คน ที่อื่นๆ ก็คงราคาไม่ต่างกันครับ

    ด้วยตัวเองปั่นจักรยานไม่เป็นค่ะ แต่เพื่อนๆ ที่ไปด้วยอีก 6 คนเค้าจะปั่นกัน กลัวเป็นตัวถ่วงเพื่อนเลยจะขอนั่งรถบัสแล้วตามเพื่อนไปให้ทันค่ะ เลยอยากจะขอคำแนะนำจากท่านเจ้าของเว็บค่ะ มีวิธีไหนบ้างสำหรับเที่ยวเมืองนาราในเวลาครึ่งวันค่ะ

    แนะนำรถบัสครับผม ที่ป้ายหยุดรถจะมีเวลาที่รถมาถึง ไปให้ทันรอบจะใช้เวลาเดินทางไม่นานครับ

  • April 4, 2017 at 10:49 pm
    Permalink

    ไปเที่ยวนารา 2 วัน แอดมินคิดว่านอนนารา หรือโอซาก้าดีคะ

  • April 5, 2017 at 11:56 am
    Permalink

    ตอบคุณ Aim

    โอซาก้าครับ

  • April 16, 2017 at 7:59 pm
    Permalink

    สอบถามนะคะ ถ้าเช่าจักรยานแล้ว สามารถปั่นใน Nara Park ได้มั๊ยคะ เพราะดูแล้วอยากไปทางด้านออกเฉียงใต้ของวัด TodaiJi ที่ออกแนวป่าๆ หน่อยอ่าค่ะ (ในMap Google คือ Kasuganocho, นะระ จังหวัดนะระ 630-8212 ญี่ปุ่น)

  • April 16, 2017 at 10:20 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Pikaju

    ขอโทษด้วยครับ ไม่เคยปั่นจักรยานที่นารา ไม่สามารถตอบได้ครับ

  • July 1, 2017 at 1:53 pm
    Permalink

    อยากสอบถามค่ะ นั่งรถเมย์จาก Kasuda Taisha ไป Todaiji Temple ต้องกลับไปขึ้นป้ายเดิมที่ลงมาหรือเปล่าค่ะ แล้วนั่งรถเมย์สายอะไรหรอค่ะ
    แล้วจาก Todaiji ไป Kohfukuji ก็ขึ้นป้ายเดียวกับทีลงมาใช่มั้ยค่ะ แล้วนั่งสายอะไรหรอคะ
    แล้วมีรถเมย์จาก Kohfukuji ไป Kintetsu-Nara หรือเปล่าค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ

  • July 1, 2017 at 2:40 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Gade

    ดูแผนที่รถบัส (Bus route map) ในเนื้อหานะครับ มีรายละเอียดบอกว่านั่งสายอะไร ลงป้ายไหนครับ

    หมายเหตุ. “รถเมล์” สะกดแบบนี้นะครับ อ้างอิงจากราชบัณฑิตยสภา http://www.royin.go.th/dictionary/index.php

  • July 1, 2017 at 3:07 pm
    Permalink

    ขอโทษ และขอบคุณมากค่ะ แต่พอดี ไม่แน่ใจว่า ขึ้นป้ายรถเมล์ฝั่งเดิมกับที่ลงรึเปล่า

  • July 1, 2017 at 4:38 pm
    Permalink

    ตอบคุณ Gade

    ปกติแล้วป้ายรถเมล์มี 2 ฝั่งครับ ที่ป้ายจะบอกว่ารถจะมากี่โมง และป้ายต่อไปคืออะไร (ยกเว้นป้ายสุดท้าย)
    ในเส้นทาง Loop รอบเมืองนารา จะมีรถเมล์วิ่งวน สาย 1 วิ่งทวนเข็ม สาย 2 วิ่งตามเข็ม วนทางไหนใกล้กว่าก็ไปทางนั้นครับ

    อยากสอบถามค่ะ นั่งรถเมย์จาก Kasuda Taisha ไป Todaiji Temple ต้องกลับไปขึ้นป้ายเดิมที่ลงมาหรือเปล่าค่ะ แล้วนั่งรถเมย์สายอะไรหรอค่ะ

    ถ้าจำไม่ผิดขึ้นป้ายเดิมได้เลยนะครับ เพราะป้ายนี้เป็นป้ายสุดท้าย รถจะวนกลับ นั่งสาย 70, 97 ครับ

    แล้วมีรถเมย์จาก Kohfukuji ไป Kintetsu-Nara หรือเปล่าค่ะ

    มีครับนั่งสาย 1 ไป 1 ป้ายลง Kintetsu Nara eki (eki แปลว่าสถานีครับ)

  • August 27, 2017 at 8:32 pm
    Permalink

    ไปช่วงไหนครับเนี่ย

  • August 28, 2017 at 3:15 pm
    Permalink

    ตอบคุณ WP14

    22 Nov 2013 ครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *